From this page you can:
Home |
Search results
15 result(s) search for keyword(s) 'บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน.การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน.การดูแลตนเอง.ชาวไทยมุสลิม.โรคความดันโลหิตสูง.'
Add the result to your basket Refine your search Apply to external sources Make a suggestion
การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องการดูแลตนเอง / สุชาดา เจะดอเลาะ in วารสารสภาการพยาบาล, Vol.31 No.1 (Jan-Mar) 2016/59 ([03/29/2016])
[article]
Title : การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องการดูแลตนเอง : สำหรับชาวไทยมุสลิมที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง Original title : A computer assisted self care programme for Thai muslims with Hypertension Material Type: printed text Authors: สุชาดา เจะดอเลาะ, Author ; จุฬารักษ์ กวีวิวิธชัย, Author ; นพวรรณ เปียซื่อ, Author ; นรีมาลย์ นีละไพจิตร, Author Publication Date: 2016 Article on page: p.83-94 Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารสภาการพยาบาล > Vol.31 No.1 (Jan-Mar) 2016/59 [03/29/2016] . - p.83-94Keywords: บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน.การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน.การดูแลตนเอง.ชาวไทยมุสลิม.โรคความดันโลหิตสูง. Curricular : BNS Link for e-copy: http://www.tci-thaijo.org/index.php/TJONC Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=25653 [article] การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องการดูแลตนเอง = A computer assisted self care programme for Thai muslims with Hypertension : สำหรับชาวไทยมุสลิมที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง [printed text] / สุชาดา เจะดอเลาะ, Author ; จุฬารักษ์ กวีวิวิธชัย, Author ; นพวรรณ เปียซื่อ, Author ; นรีมาลย์ นีละไพจิตร, Author . - 2016 . - p.83-94.
Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารสภาการพยาบาล > Vol.31 No.1 (Jan-Mar) 2016/59 [03/29/2016] . - p.83-94Keywords: บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน.การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน.การดูแลตนเอง.ชาวไทยมุสลิม.โรคความดันโลหิตสูง. Curricular : BNS Link for e-copy: http://www.tci-thaijo.org/index.php/TJONC Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=25653 Old book collection. คู่มือ : รายการข้อวินิจฉัยการพยาบาลตามกรอบแนวคิดของโอเร็ม / มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ / ขอนแก่น : คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น - 2541
Collection Title: Old book collection Title : คู่มือ : รายการข้อวินิจฉัยการพยาบาลตามกรอบแนวคิดของโอเร็ม Material Type: printed text Authors: มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์, Author Edition statement: พิมพ์ครั้งที่ 2. Publisher: ขอนแก่น : คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น Publication Date: 2541 Pagination: (ก-ฎ), 146 หน้า. Size: 29 ซม. ISBN (or other code): 978-974-675-282-6 Price: 90.00 (ถ่ายสำเนา) Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การดูแลตนเอง
[LCSH]การพยาบาล, การวินิจฉัย
[LCSH]การพยาบาล, ทฤษฎีKeywords: การดูแลตนเอง.
การพยาบาล.
การวินิจฉัย.
ทฤษฎี.Class number: WY86 ค695 2541 Curricular : BNS Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23823 Old book collection. คู่มือ : รายการข้อวินิจฉัยการพยาบาลตามกรอบแนวคิดของโอเร็ม [printed text] / มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์, Author . - พิมพ์ครั้งที่ 2. . - ขอนแก่น : คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2541 . - (ก-ฎ), 146 หน้า. ; 29 ซม.
ISSN : 978-974-675-282-6 : 90.00 (ถ่ายสำเนา)
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การดูแลตนเอง
[LCSH]การพยาบาล, การวินิจฉัย
[LCSH]การพยาบาล, ทฤษฎีKeywords: การดูแลตนเอง.
การพยาบาล.
การวินิจฉัย.
ทฤษฎี.Class number: WY86 ค695 2541 Curricular : BNS Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23823 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000397271 WY86 ค695 2541 Book Main Library Library Counter Available Old book collection. หมอประจำบ้าน เล่ม 2 (หมวด ผ-อ) / 2555
Collection Title: Old book collection Title : หมอประจำบ้าน เล่ม 2 (หมวด ผ-อ) : ตำราเรียนรู้เรื่องสุขภาพ Original title : The doctors book of home remedies Material Type: printed text Edition statement: พิมพ์ครั้งที่ 1. Publication Date: 2555 Pagination: 379 หน้า. Size: 25 ซม. ISBN (or other code): 978-6-16-507078-2 Price: 350.00 General note: คู่มือหมอประจำบ้าน 2 (หมวด ผ-อ) ประกอบด้วย 79 ภาวะ Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การดูแลสุขภาพด้วยตนเอง
[LCSH]การรักษาโรค
[LCSH]การใช้ยารักษาตนเอง
[LCSH]ปฐมพยาบาล -- คู่มือKeywords: การรักษาโรค.
การดูแลตนเอง.Class number: WB327 ค695 2555 Contents note: หมวด ผ.-- หมวด ฝ.-- หมวด พ.-- หมวด ภ.-- หมวด ม.-- หมวด ร.-- หมวด ล.-- หมวด ว.-- หมวด ส.-- หมวด ส.-- หมวด อ.-- Curricular : BNS Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23721 Old book collection. หมอประจำบ้าน เล่ม 2 (หมวด ผ-อ) = The doctors book of home remedies : ตำราเรียนรู้เรื่องสุขภาพ [printed text] . - พิมพ์ครั้งที่ 1. . - 2555 . - 379 หน้า. ; 25 ซม.
ISBN : 978-6-16-507078-2 : 350.00
คู่มือหมอประจำบ้าน 2 (หมวด ผ-อ) ประกอบด้วย 79 ภาวะ
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การดูแลสุขภาพด้วยตนเอง
[LCSH]การรักษาโรค
[LCSH]การใช้ยารักษาตนเอง
[LCSH]ปฐมพยาบาล -- คู่มือKeywords: การรักษาโรค.
การดูแลตนเอง.Class number: WB327 ค695 2555 Contents note: หมวด ผ.-- หมวด ฝ.-- หมวด พ.-- หมวด ภ.-- หมวด ม.-- หมวด ร.-- หมวด ล.-- หมวด ว.-- หมวด ส.-- หมวด ส.-- หมวด อ.-- Curricular : BNS Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23721 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000393288 WB327 ค695 2555 c.1 Book Main Library Library Counter Available 32002000393304 WB327 ค695 2555 c.2 Book Main Library Library Counter Available 32002000393262 WB327 ค695 2555 c.3 Book Main Library Library Counter Available 32002000393270 WB327 ค695 2555 c.4 Book Main Library Library Counter Available 32002000393296 WB327 ค695 2555 c.5 Book Main Library Library Counter Available การจัดการความเจ็บป่วยของตนเองในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง / กันยารัตน์ มาเกตุ / บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวร - 2552
Title : การจัดการความเจ็บป่วยของตนเองในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง : ที่มีการฟื้นความสามารถ Original title : Self management on illness among the recovery stroke patients Material Type: printed text Authors: กันยารัตน์ มาเกตุ, Author Publisher: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวร Publication Date: 2552 Pagination: 126 แผ่น Layout: ตาราง. Size: 30 ซม. Price: บริจาค. General note: วิทยานิพนธ์ [พย. ม [การพยาบาลเวชปฎิบัติชุมชน]] -- มหาวิทยาลัยนเรศวร 2552 Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ความเจ็บปวด -- การบำบัด
[LCSH]ผู้ป่วย -- การดูแล
[LCSH]หลอดเลือดสมอง -- โรคKeywords: โรคหลอดเลือดสมอง.
ผู้ป่วย.
การดูแลตนเอง.Class number: WL355 ก156 2552 Abstract: ศึกษาความหมายและวิธีการจัดการกับความเจ็บป่วยตามมุมองของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดทีี่มีการฟื้นความสามารถ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลัก คือ ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมองที่มารับบริการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลวัดโบสถ์จังหวัดพิษณุโลก และมีการฟื้นความสามารถโดยการผ่านการประเมินระดับความสามารถในการปฎิบัติกิจวัตรประจำวันอยู่ในเกณฑ์ 75-100 คะแนน จำนวน 13 คน ใช้วิธีการสัมภาษณ์ระดับลึก เครื่องมือที่ใช้คือ แนวคำถามปลายเปิด เก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2551 วิเคราะห์ข้อมูลโดยวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content anlysis) ตามแนวคิดของ Burnard ผลการศึกษาพบว่า
1. ผู้ให้ข้อมูลได้ให้ความหมายต่อภาวะเจ็บป่วย 3 ความหมาย คือ เป็นโรคที่ตายทั้งเป็น หรือเหมือนคนที่ตายแล้ว โรคเวรโรคกรรมและโรคที่ต้องพึ่งพาเป็นภาระให้กับผู้อื่น 2. ความรู้สึกต่อการเจ็บป่วยนั้นผู้ให้ข้อมูลมีความรู้สึกว่า เป็นชั่วคราวมีความหวังจะหาย เครียด อารมณ์หงุดหงิดที่ดูแลตัวเองไม่ได้และไม่อยากให้เป็นภาระกับผู้อื่น อยากเอาชนะคำสบประมาท 3. วิธีการจัดการกับความเจ็บป่วยนั้นพบว่า ได้จัีดการกับความทุกข์ทั้งทางร่างกายและจิตใจด้วยการทำใจให้ยอมรับ คิดให้ชีวิตมีความหวัง หาวิธีผ่อนคลายความเครียด คิดเชิงบวกต่อความเจ็บป่วย พยายามช่วยเหลือตนเอง และออกกำลังกายฟื้นฟูร่างกายอย่างต่อเนื่อง ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้สอดคล้องกัีบสภาพร่างกายอันได้แก่ การเลือกและจำกัดอาหาร นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ใช้การแพทย์แผยไทย แสวงหาวิธีการรักษาต่าง ๆ มาทดลองใช้ รับการรักษษกับแพทย์แผนปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง และเมื่อฟื้นหาย ได้คงวิถีชีวิตที่ดี การปฎิบัติงานช่วยเหลือชุมชนด้วยจิตอาสาCurricular : BNS Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23201 การจัดการความเจ็บป่วยของตนเองในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง = Self management on illness among the recovery stroke patients : ที่มีการฟื้นความสามารถ [printed text] / กันยารัตน์ มาเกตุ, Author . - [S.l.] : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวร, 2552 . - 126 แผ่น : ตาราง. ; 30 ซม.
บริจาค.
วิทยานิพนธ์ [พย. ม [การพยาบาลเวชปฎิบัติชุมชน]] -- มหาวิทยาลัยนเรศวร 2552
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ความเจ็บปวด -- การบำบัด
[LCSH]ผู้ป่วย -- การดูแล
[LCSH]หลอดเลือดสมอง -- โรคKeywords: โรคหลอดเลือดสมอง.
ผู้ป่วย.
การดูแลตนเอง.Class number: WL355 ก156 2552 Abstract: ศึกษาความหมายและวิธีการจัดการกับความเจ็บป่วยตามมุมองของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดทีี่มีการฟื้นความสามารถ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลัก คือ ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมองที่มารับบริการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลวัดโบสถ์จังหวัดพิษณุโลก และมีการฟื้นความสามารถโดยการผ่านการประเมินระดับความสามารถในการปฎิบัติกิจวัตรประจำวันอยู่ในเกณฑ์ 75-100 คะแนน จำนวน 13 คน ใช้วิธีการสัมภาษณ์ระดับลึก เครื่องมือที่ใช้คือ แนวคำถามปลายเปิด เก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2551 วิเคราะห์ข้อมูลโดยวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content anlysis) ตามแนวคิดของ Burnard ผลการศึกษาพบว่า
1. ผู้ให้ข้อมูลได้ให้ความหมายต่อภาวะเจ็บป่วย 3 ความหมาย คือ เป็นโรคที่ตายทั้งเป็น หรือเหมือนคนที่ตายแล้ว โรคเวรโรคกรรมและโรคที่ต้องพึ่งพาเป็นภาระให้กับผู้อื่น 2. ความรู้สึกต่อการเจ็บป่วยนั้นผู้ให้ข้อมูลมีความรู้สึกว่า เป็นชั่วคราวมีความหวังจะหาย เครียด อารมณ์หงุดหงิดที่ดูแลตัวเองไม่ได้และไม่อยากให้เป็นภาระกับผู้อื่น อยากเอาชนะคำสบประมาท 3. วิธีการจัดการกับความเจ็บป่วยนั้นพบว่า ได้จัีดการกับความทุกข์ทั้งทางร่างกายและจิตใจด้วยการทำใจให้ยอมรับ คิดให้ชีวิตมีความหวัง หาวิธีผ่อนคลายความเครียด คิดเชิงบวกต่อความเจ็บป่วย พยายามช่วยเหลือตนเอง และออกกำลังกายฟื้นฟูร่างกายอย่างต่อเนื่อง ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้สอดคล้องกัีบสภาพร่างกายอันได้แก่ การเลือกและจำกัดอาหาร นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ใช้การแพทย์แผยไทย แสวงหาวิธีการรักษาต่าง ๆ มาทดลองใช้ รับการรักษษกับแพทย์แผนปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง และเมื่อฟื้นหาย ได้คงวิถีชีวิตที่ดี การปฎิบัติงานช่วยเหลือชุมชนด้วยจิตอาสาCurricular : BNS Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23201 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000354785 WL355 ก156 2552 Thesis Main Library Thesis Corner Available การดูแลตนเองทางด้านสุขภาพของผู้ประักอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมภาคตะวันออก / เยาวลักษณ์ บรรจงปรุ / คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา - 2535
Title : การดูแลตนเองทางด้านสุขภาพของผู้ประักอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมภาคตะวันออก Original title : Self care related to health of industrial workers in the Eastern region of Thailand Material Type: printed text Authors: เยาวลักษณ์ บรรจงปรุ, ; บุญใจ ศรีสถิตย์นรากูร, Author ; วนิดา โอฬารกิจอนันต์, Author Publisher: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา Publication Date: 2535 Pagination: 104 หน้า. Layout: ตารางประกอบ, แผนภูมิ Size: 30 ซม. ISBN (or other code): 978-974-596-809-9 Price: บริจาค. General note: สนับสนุนโดยทุนอุดหนุนการวิจัยงบประมาณแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ 2535. Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การดูแลตนเอง
[LCSH]แรงงาน -- โรงงานอุตสาหกรรม -- ภาคตะวันออก -- วิจัยKeywords: การดูแลตนเอง.
แรงงาน.
แรงงานอุตสหกรรม.Class number: WY100 ย166 2535 Abstract: การวิจัยครั้งนี้ เพื่อศึกษาเปรียบเทียบ ความรู้ เจตคติ และพฤติกรรม การดูแลตนเองทางด้านสุขภาพของผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ตลอดจนศึกษาปัจจัยคัดสรรที่มีความสัมพันธ์ต่อการดูแลตนเองทางด้านสุขภาพ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ และคุณภาพ ด้วยการใช้แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ ผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการมีส่วนร่วมของเจ้าหน้าที่ฝ่้ายบุคคล ซึ่งเป็นผู้ประสานงานฝึกอบรมและนิเทศ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้รับแบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ฉบับสมบรูณ์ จำนวน 300 ชุด คิดเป็นร้อยละ 100.00 ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าเอฟ วิเคราะห์ปัจจัยคัดสรรที่มีความสัมพันธ์ต่อการดูแลตนเองทางด้านสุขภาพ โดยใช้วิธีการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณชนิดลด หรือเพิ่มตัวแปรเป็นขั้น ๆ
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมภาคตะวันออกโดยส่วนรวม มีความรู้ และเจตคติในการดูแลตนเองทางด้านสุขภาพอยู่ในระดับสูง (ร้อยละ 73.12 และร้อยละ 86.60 ตามลำดับ) ส่วนพฤติกรรมในการดูแลตนเองพบว่า อยู่ในระดับปานกลาง (ร้อยละ 54.24)
2 เมื่อเปรียบเทียบ ความรู้ เจตคติ และพฤติกรรมการดูแลตนเองทางด้านสุขภาพของผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมทั้ง 3 จังหวัด ในภาพรวมพบว่าแตกต่างกัน P<.05 เมื่อทดสอบรายคู่พบว่า ผู้ประกอบอาชีพโรงงานอุตสาหกรรมเขตพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา มีการดูแลตนเองทางด้านสุขภาพดีกว่าจังหวัีดชลบุรี และจังหวัดระยอง แต่การดูแลตนเองทางด้านสุขภาพของผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมของจังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยองไม่แตกต่างกัน P>.05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าด้านความรู้ และด้านเจตคติในการดูแลตนเองทางด้านสุขภาพ ของผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมเขตพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ดีกว่าจังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยอง แต่ไม่พบความแตกต่างกันของจังหวัดชลบุรี และจังหวัีดระยอง สำหรับด้านพฤติกรรมการดูแลตนเองทั้ง 3 จังหวัด นั้นไม่พบความแตกต่างกัน P>.05
3. การศึกษาปัจจัยคัดสรร พบว่าตัวแปรที่มีความสีมพันธ์กับการดูแลตนเองทางด้านสุขภาพของผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมภาคตะวันออก มีเพียงตัวแปรเดียวคือ จำนวนปีที่ศึกษาอธิบายได้ว่าจำนวนปีที่ศึกษาเพิ่มขึ้น 1 ปี จะทำให้การดูแลตนเองทางด้านสุขภาพของผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.61 คะแนนCurricular : BNS/GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23336 การดูแลตนเองทางด้านสุขภาพของผู้ประักอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมภาคตะวันออก = Self care related to health of industrial workers in the Eastern region of Thailand [printed text] / เยาวลักษณ์ บรรจงปรุ, ; บุญใจ ศรีสถิตย์นรากูร, Author ; วนิดา โอฬารกิจอนันต์, Author . - [S.l.] : คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 2535 . - 104 หน้า. : ตารางประกอบ, แผนภูมิ ; 30 ซม.
ISSN : 978-974-596-809-9 : บริจาค.
สนับสนุนโดยทุนอุดหนุนการวิจัยงบประมาณแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ 2535.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การดูแลตนเอง
[LCSH]แรงงาน -- โรงงานอุตสาหกรรม -- ภาคตะวันออก -- วิจัยKeywords: การดูแลตนเอง.
แรงงาน.
แรงงานอุตสหกรรม.Class number: WY100 ย166 2535 Abstract: การวิจัยครั้งนี้ เพื่อศึกษาเปรียบเทียบ ความรู้ เจตคติ และพฤติกรรม การดูแลตนเองทางด้านสุขภาพของผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ตลอดจนศึกษาปัจจัยคัดสรรที่มีความสัมพันธ์ต่อการดูแลตนเองทางด้านสุขภาพ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ และคุณภาพ ด้วยการใช้แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ ผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการมีส่วนร่วมของเจ้าหน้าที่ฝ่้ายบุคคล ซึ่งเป็นผู้ประสานงานฝึกอบรมและนิเทศ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้รับแบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ฉบับสมบรูณ์ จำนวน 300 ชุด คิดเป็นร้อยละ 100.00 ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าเอฟ วิเคราะห์ปัจจัยคัดสรรที่มีความสัมพันธ์ต่อการดูแลตนเองทางด้านสุขภาพ โดยใช้วิธีการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณชนิดลด หรือเพิ่มตัวแปรเป็นขั้น ๆ
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมภาคตะวันออกโดยส่วนรวม มีความรู้ และเจตคติในการดูแลตนเองทางด้านสุขภาพอยู่ในระดับสูง (ร้อยละ 73.12 และร้อยละ 86.60 ตามลำดับ) ส่วนพฤติกรรมในการดูแลตนเองพบว่า อยู่ในระดับปานกลาง (ร้อยละ 54.24)
2 เมื่อเปรียบเทียบ ความรู้ เจตคติ และพฤติกรรมการดูแลตนเองทางด้านสุขภาพของผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมทั้ง 3 จังหวัด ในภาพรวมพบว่าแตกต่างกัน P<.05 เมื่อทดสอบรายคู่พบว่า ผู้ประกอบอาชีพโรงงานอุตสาหกรรมเขตพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา มีการดูแลตนเองทางด้านสุขภาพดีกว่าจังหวัีดชลบุรี และจังหวัดระยอง แต่การดูแลตนเองทางด้านสุขภาพของผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมของจังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยองไม่แตกต่างกัน P>.05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าด้านความรู้ และด้านเจตคติในการดูแลตนเองทางด้านสุขภาพ ของผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมเขตพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ดีกว่าจังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยอง แต่ไม่พบความแตกต่างกันของจังหวัดชลบุรี และจังหวัีดระยอง สำหรับด้านพฤติกรรมการดูแลตนเองทั้ง 3 จังหวัด นั้นไม่พบความแตกต่างกัน P>.05
3. การศึกษาปัจจัยคัดสรร พบว่าตัวแปรที่มีความสีมพันธ์กับการดูแลตนเองทางด้านสุขภาพของผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมภาคตะวันออก มีเพียงตัวแปรเดียวคือ จำนวนปีที่ศึกษาอธิบายได้ว่าจำนวนปีที่ศึกษาเพิ่มขึ้น 1 ปี จะทำให้การดูแลตนเองทางด้านสุขภาพของผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.61 คะแนนCurricular : BNS/GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23336 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000468940 WY100 ย166 2535 Book Main Library General Shelf Available การรับรู้ของผู้นำศาสนาอิสลามเกี่ยวกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตามหลักปฏิบัติทางศาสนาของชาวไทยมุสลิมที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 / ฮารินี มาซอ in รามาธิบดีพยาบาลสาร, Vol.23 No.2 (May-Aug) 2017/2560 ([10/18/2017])
[article]
Title : การรับรู้ของผู้นำศาสนาอิสลามเกี่ยวกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตามหลักปฏิบัติทางศาสนาของชาวไทยมุสลิมที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 : ระหว่างการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน Original title : Perception of Islamic religions leaders toward religion-related health behavior of Thai Muslims with type 2 diabetes melitus during the fasting month of Ramadan Material Type: printed text Authors: ฮารินี มาซอ, Author ; พรทิพย์ มาลาธรรม, Author Publication Date: 2017 Article on page: p.208-223 Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in รามาธิบดีพยาบาลสาร > Vol.23 No.2 (May-Aug) 2017/2560 [10/18/2017] . - p.208-223Keywords: ผู้นำศาสนาอิสลาม.พฤติกรรมการดูแลสุขภาพ.ชาวไทยมุสลิม.เบาหวานชนิดที่ 2.การดถือศีลอด.เดือนรอมฎอน. Link for e-copy: http://med.mahidol.ac.th/nursing/journal/rama_journal_19 Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27388 [article] การรับรู้ของผู้นำศาสนาอิสลามเกี่ยวกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตามหลักปฏิบัติทางศาสนาของชาวไทยมุสลิมที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 = Perception of Islamic religions leaders toward religion-related health behavior of Thai Muslims with type 2 diabetes melitus during the fasting month of Ramadan : ระหว่างการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน [printed text] / ฮารินี มาซอ, Author ; พรทิพย์ มาลาธรรม, Author . - 2017 . - p.208-223.
Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสื่อประสมเพื่อส่งเสริมการตรวจเต้านม ด้วยตนเองในนักศึกษาสายอาชีพ / ปวณา ยนพันธ์ in วารสารสภาการพยาบาล, Vol.31 No.4 (Oct-Dec) 2016/59 ([07/25/2017])
[article]
Title : บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสื่อประสมเพื่อส่งเสริมการตรวจเต้านม ด้วยตนเองในนักศึกษาสายอาชีพ Original title : Computer-Mediated Multimedia Breast Self-Examination Programme for Vocational Students Material Type: printed text Authors: ปวณา ยนพันธ์, Author ; จุฬารักษ์ กวีวิวิธชัย, Author ; นรีมาลย์ นีละไพจิตร, Author Publication Date: 2017 Article on page: 91-103 Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารสภาการพยาบาล > Vol.31 No.4 (Oct-Dec) 2016/59 [07/25/2017] . - 91-103Keywords: โรคมะเร็งเต้านม. การตรวจเต้านมด้วยตนเอง.บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสื่อประสม. Abstract: บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์ของการวิจัย: เพื่อพัฒนา และศึกษาผลของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสื่อประสมต่อความรู้เรื่องโรคมะเร็งเต้านม การตรวจเต้านมด้วยตนเอง การรับรู้ควำมสามารถของตนเอง กำรรับรู้ประโยชน์และการรับรู้อุปสรรคในการตรวจเต้านมด้วยตนเอง ทักษะปฏิบัติการตรวจเต้ำนมด้วยตนเอง
การออกแบบวิจัย: การวิจัยกึ่งทดลองแบบ 2 กลุ่มวัดก่อนและหลังกำรทดลอง
วิธีดำเนินการวิจัย: การวิจัยครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ระยะคือ 1) ผลิตสื่อบทเรียนคอมพิวเตอร์
ช่วยสอนโดยใช้แนวคิดทฤษฎีกำรส่งเสริมสุขภำพของเพนเดอร์และทฤษฎีการเรียนรู้โดยมัลติมีเดียของเมเยอร์ 2) ทดสอบผลของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน กลุ่มตัวอย่ำง เป็นนักศึกษาหญิงที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์คัดเข้าจำนวน 54 คน จำกวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี เป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบกลุ่มละ 27 คน กลุ่มทดลองใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสื่อประสม กลุ่มเปรียบเทียบใช้วิธีบรรยาย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้ แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป
แบบทดสอบความรู้เรื่องโรคมะเร็งเต้านมและกำรตรวจเต้านมด้วยตนเอง แบบสอบถามการรับรู้
ความสามารถของตนเอง แบบสอบถามการรับรู้ประโยชน์และอุปสรรคในการตรวจเต้านมด้วยตนเองแบบประเมินทักษะปฏิบัติการตรวจเต้านมด้วยตนเอง และแบบประเมินความคิดเห็นต่อคุณภาพ
บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยาย และ Mann-Whitney Test
ผลการวิจัย: พบว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสื่อประสมมีคุณภาพอยู่ในระดับดีถึงดีมาก
ทุกด้าน ความคิดเห็นของกลุ่มทดลองต่อคุณภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนอยู่ในระดับมาก หลังการทดลอง พบว่า กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยความแตกต่างของคะแนนหลังทดลองมากกว่าก่อนการทดลองในเรื่องความรู้เรื่องโรคมะเร็งเต้านมและมากกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอย่ำงมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05)ส่วนค่าเฉลี่ยความแตกต่างของคะแนน ความสามารถในการตรวจเต้านมด้วยตนเอง การรับรู้ประโยชน์และการรับรู้อุปสรรค และทักษะการตรวจเต้านมระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบไม่แตกต่างกัน
ข้อเสนอแนะ: บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสื่อประสมเพื่อการตรวจเต้านมด้วยตนเอง
มีประโยชน์ในการเสริมทักษะการตรวจเต้านมด้วยตนเองได้ ใกล้เคียงกับกำรสอนโดยวิธีบรรยำย
สำมำรถนำมาใช้ช่วยสอน หรือร่วมกับการสอนวิธีอื่น ๆ ได้Curricular : BNS Link for e-copy: http://www.tci-thaijo.org/index.php/TJONC Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27052 [article] บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสื่อประสมเพื่อส่งเสริมการตรวจเต้านม ด้วยตนเองในนักศึกษาสายอาชีพ = Computer-Mediated Multimedia Breast Self-Examination Programme for Vocational Students [printed text] / ปวณา ยนพันธ์, Author ; จุฬารักษ์ กวีวิวิธชัย, Author ; นรีมาลย์ นีละไพจิตร, Author . - 2017 . - 91-103.
Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารสภาการพยาบาล > Vol.31 No.4 (Oct-Dec) 2016/59 [07/25/2017] . - 91-103Keywords: โรคมะเร็งเต้านม. การตรวจเต้านมด้วยตนเอง.บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสื่อประสม. Abstract: บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์ของการวิจัย: เพื่อพัฒนา และศึกษาผลของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสื่อประสมต่อความรู้เรื่องโรคมะเร็งเต้านม การตรวจเต้านมด้วยตนเอง การรับรู้ควำมสามารถของตนเอง กำรรับรู้ประโยชน์และการรับรู้อุปสรรคในการตรวจเต้านมด้วยตนเอง ทักษะปฏิบัติการตรวจเต้ำนมด้วยตนเอง
การออกแบบวิจัย: การวิจัยกึ่งทดลองแบบ 2 กลุ่มวัดก่อนและหลังกำรทดลอง
วิธีดำเนินการวิจัย: การวิจัยครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ระยะคือ 1) ผลิตสื่อบทเรียนคอมพิวเตอร์
ช่วยสอนโดยใช้แนวคิดทฤษฎีกำรส่งเสริมสุขภำพของเพนเดอร์และทฤษฎีการเรียนรู้โดยมัลติมีเดียของเมเยอร์ 2) ทดสอบผลของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน กลุ่มตัวอย่ำง เป็นนักศึกษาหญิงที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์คัดเข้าจำนวน 54 คน จำกวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี เป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบกลุ่มละ 27 คน กลุ่มทดลองใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสื่อประสม กลุ่มเปรียบเทียบใช้วิธีบรรยาย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้ แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป
แบบทดสอบความรู้เรื่องโรคมะเร็งเต้านมและกำรตรวจเต้านมด้วยตนเอง แบบสอบถามการรับรู้
ความสามารถของตนเอง แบบสอบถามการรับรู้ประโยชน์และอุปสรรคในการตรวจเต้านมด้วยตนเองแบบประเมินทักษะปฏิบัติการตรวจเต้านมด้วยตนเอง และแบบประเมินความคิดเห็นต่อคุณภาพ
บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยาย และ Mann-Whitney Test
ผลการวิจัย: พบว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสื่อประสมมีคุณภาพอยู่ในระดับดีถึงดีมาก
ทุกด้าน ความคิดเห็นของกลุ่มทดลองต่อคุณภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนอยู่ในระดับมาก หลังการทดลอง พบว่า กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยความแตกต่างของคะแนนหลังทดลองมากกว่าก่อนการทดลองในเรื่องความรู้เรื่องโรคมะเร็งเต้านมและมากกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอย่ำงมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05)ส่วนค่าเฉลี่ยความแตกต่างของคะแนน ความสามารถในการตรวจเต้านมด้วยตนเอง การรับรู้ประโยชน์และการรับรู้อุปสรรค และทักษะการตรวจเต้านมระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบไม่แตกต่างกัน
ข้อเสนอแนะ: บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสื่อประสมเพื่อการตรวจเต้านมด้วยตนเอง
มีประโยชน์ในการเสริมทักษะการตรวจเต้านมด้วยตนเองได้ ใกล้เคียงกับกำรสอนโดยวิธีบรรยำย
สำมำรถนำมาใช้ช่วยสอน หรือร่วมกับการสอนวิธีอื่น ๆ ได้Curricular : BNS Link for e-copy: http://www.tci-thaijo.org/index.php/TJONC Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27052 ประสบการณ์การดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ / อารีย์ รัตนพันธ์ / บัณฑิตวิทยาลัีย มหาวิทยาลัยนเรศวร - 2552
Title : ประสบการณ์การดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ Original title : Sale-care experiecne on glycemic controlled in diabetes mellitus patients Material Type: printed text Authors: อารีย์ รัตนพันธ์, Author Publisher: บัณฑิตวิทยาลัีย มหาวิทยาลัยนเรศวร Publication Date: 2552 Pagination: 155 แผ่น Layout: ตารางประกอบ Size: 30 ซม. Price: บริจาค General note: วิทยานิพนธ์ [พย. ม [การพยาบาลเวชปฎิบัติชุมชน]] -- มหาวิทยาลัยนเรศวร 2552 Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]Diabetics -- Care
[LCSH]การดูแลตนเอง
[LCSH]ผู้ป่วย -- การดูแล
[LCSH]ผู้ป่วย -- เบาหวานKeywords: เบาหวาน.
ผู้ป่วย.
การดูแลตนเอง.Class number: WK815 อ927 2552 Abstract: การวิจัยเชิงคุณภาพชนิดปรากฎการณ์วิทยา เพื่อศึกษาประสบการณ์การดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยเบาหวานที่มีระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหารอยู่ระหว่าง 80-120 mg/dl เป็นเวลาติดต่อกันอย่างน้อย 1 ปี และมีรดับ A1C น้อยกว่าร้อยละ 7 จำนวน 15 ราย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ระดับลึกร่วมกับการสังเกต การจดบันทึกภาคสนามและการบันทึกเทป วิเคราะห์ข้อมูลโดยวิธีการของโคไลซี่
ผลการศึกษา พบว่า ผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ให้ความหมายของการดูแลตนเองใน 3 ลักษณะ คือ การทำให้ร่างกายดีและแข็งแรง การควบคุมตนเองไม่ให้น่ำตาลในเลือดสูง และการป้องกันตนเองไม่ให้เกิดความเจ็บป่วย ความรู้ที่มีต่อการเป็นโรเบาหวาน แบ่งได้เป็น 2 ลักษณะคือ การยอมรับกับการเป็นโรคเบาหวาน และการใส่ใจดูแลตนเอง โดยมีวิธีการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด 5 วิธี คือ
1. การปฎิบัติตามคำแนะนำของทีมสุขภาพ 2. การรู้จักควบคุมตนเอง 3 การจัดการกับความเครียด 4. การทำกิจกรรมสม่ำเสมอ 5 การใช้สมุนไพรมารักษาเสริมCurricular : BNS Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23212 ประสบการณ์การดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ = Sale-care experiecne on glycemic controlled in diabetes mellitus patients [printed text] / อารีย์ รัตนพันธ์, Author . - [S.l.] : บัณฑิตวิทยาลัีย มหาวิทยาลัยนเรศวร, 2552 . - 155 แผ่น : ตารางประกอบ ; 30 ซม.
บริจาค
วิทยานิพนธ์ [พย. ม [การพยาบาลเวชปฎิบัติชุมชน]] -- มหาวิทยาลัยนเรศวร 2552
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]Diabetics -- Care
[LCSH]การดูแลตนเอง
[LCSH]ผู้ป่วย -- การดูแล
[LCSH]ผู้ป่วย -- เบาหวานKeywords: เบาหวาน.
ผู้ป่วย.
การดูแลตนเอง.Class number: WK815 อ927 2552 Abstract: การวิจัยเชิงคุณภาพชนิดปรากฎการณ์วิทยา เพื่อศึกษาประสบการณ์การดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยเบาหวานที่มีระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหารอยู่ระหว่าง 80-120 mg/dl เป็นเวลาติดต่อกันอย่างน้อย 1 ปี และมีรดับ A1C น้อยกว่าร้อยละ 7 จำนวน 15 ราย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ระดับลึกร่วมกับการสังเกต การจดบันทึกภาคสนามและการบันทึกเทป วิเคราะห์ข้อมูลโดยวิธีการของโคไลซี่
ผลการศึกษา พบว่า ผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ให้ความหมายของการดูแลตนเองใน 3 ลักษณะ คือ การทำให้ร่างกายดีและแข็งแรง การควบคุมตนเองไม่ให้น่ำตาลในเลือดสูง และการป้องกันตนเองไม่ให้เกิดความเจ็บป่วย ความรู้ที่มีต่อการเป็นโรเบาหวาน แบ่งได้เป็น 2 ลักษณะคือ การยอมรับกับการเป็นโรคเบาหวาน และการใส่ใจดูแลตนเอง โดยมีวิธีการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด 5 วิธี คือ
1. การปฎิบัติตามคำแนะนำของทีมสุขภาพ 2. การรู้จักควบคุมตนเอง 3 การจัดการกับความเครียด 4. การทำกิจกรรมสม่ำเสมอ 5 การใช้สมุนไพรมารักษาเสริมCurricular : BNS Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23212 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000354983 WK815 อ927 2552 Thesis Main Library Thesis Corner Available ประสบการณ์อาการ กลวิธ๊ดูแลตนเอง และผลของการจัดการอาการในผู้ติดเชื้อเอชไอวี / ฐิติอาภา ตั้งค้าวานิช in วารสารการพยาบาลและสุขภาพ, Vol.10 No.3 (Sep-Dec) 2016 ([03/24/2017])
[article]
Title : ประสบการณ์อาการ กลวิธ๊ดูแลตนเอง และผลของการจัดการอาการในผู้ติดเชื้อเอชไอวี Original title : Symtoms experience self-care strategies and symptom management outcomes in person living with HIV Material Type: printed text Authors: ฐิติอาภา ตั้งค้าวานิช, Author ; ธภัคนันท์ อินทราวุฒิ, Author Publication Date: 2017 Article on page: p.65-73 Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารการพยาบาลและสุขภาพ > Vol.10 No.3 (Sep-Dec) 2016 [03/24/2017] . - p.65-73Keywords: ประสบการอาการผู้ติดเชื้อเอชไอวี.ผู้ติดเชื้อเอชไอวี.การจัดการอาการผู้ติดเชื้อเอชไอวี.การดูแลตนเอง. Link for e-copy: http://www.nurse.nu.ac.th/journals/index.php Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26883 [article] ประสบการณ์อาการ กลวิธ๊ดูแลตนเอง และผลของการจัดการอาการในผู้ติดเชื้อเอชไอวี = Symtoms experience self-care strategies and symptom management outcomes in person living with HIV [printed text] / ฐิติอาภา ตั้งค้าวานิช, Author ; ธภัคนันท์ อินทราวุฒิ, Author . - 2017 . - p.65-73.
Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)ปัจจัยทำนายการรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง / วิภาภรณ์ วังวรตระกูล in วารสารพยาบาลทหารบก, Vol.18 No.1 (๋Jan-Apr) 2017 ([05/23/2017])
[article]
Title : ปัจจัยทำนายการรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง : นผู้ป่วยความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุ Original title : Factors for predicting to medication adherence among patients with essential hypertension Material Type: printed text Authors: วิภาภรณ์ วังวรตระกูล, Author ; นันทวัน สุวรรณรูป, Author ; กนกพร หมู่พยัคฆ์, Author Publication Date: 2017 Article on page: p.131-139 Languages : Thai (tha)
in วารสารพยาบาลทหารบก > Vol.18 No.1 (๋Jan-Apr) 2017 [05/23/2017] . - p.131-139Keywords: โรคความดันโลหิตสูง.ปัจจัยทำนาย.การรับประทานยาอย่างสมำ่เสมอต่อเนื่อง.ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง. Abstract: เพื่อศึกษาอำนาจการทำนายของปัจจัยการรับรู้สมรรถนะแห่งตน การรับรู้อุปสรรคในการรับประทานยา การได้รับขอ้มูลข่าวสารเกี่ยวกับการรับประทานยา และการสื่อสารระหว่างผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ต่อการรับประทานยาอย่างสมำ่เสมอต่อเนื่องในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุ จำนวน 128 ราย ทีี่มารับบริการที่หน่วยบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิในกรุงเทพฯ และโรงพยาบาลชุมชนจังหวัดนนทบุรี เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณาสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันและการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ.
ผลการวิจัย พบว่า การรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุ ส่่วนใหญ่อยู่ในระดับต่ำ ร้อยละ 61 การรับรู้สมรรถนะตนเอง การรับรู้อุปสรรคในการรับประทานยา การได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการรับประทานยา และการสื่อสารระหว่างผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์อยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 63.30,66.40,69.50 และ 69.50 ตามลำดับ สามารถร่วมกันทำนายการรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องของตัวอย่างได้ร้อยละ 21 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิิติฯ โดยพบว่า การรับรู้สมรรถนะแห่งตนสามารถทำนายได้มากที่สุด รองลงมาคือ การรับรู้อุปสรรคในการรับประทานยา.Link for e-copy: www.nurseasct.or.th Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26749 [article] ปัจจัยทำนายการรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง = Factors for predicting to medication adherence among patients with essential hypertension : นผู้ป่วยความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุ [printed text] / วิภาภรณ์ วังวรตระกูล, Author ; นันทวัน สุวรรณรูป, Author ; กนกพร หมู่พยัคฆ์, Author . - 2017 . - p.131-139.
Languages : Thai (tha)
in วารสารพยาบาลทหารบก > Vol.18 No.1 (๋Jan-Apr) 2017 [05/23/2017] . - p.131-139Keywords: โรคความดันโลหิตสูง.ปัจจัยทำนาย.การรับประทานยาอย่างสมำ่เสมอต่อเนื่อง.ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง. Abstract: เพื่อศึกษาอำนาจการทำนายของปัจจัยการรับรู้สมรรถนะแห่งตน การรับรู้อุปสรรคในการรับประทานยา การได้รับขอ้มูลข่าวสารเกี่ยวกับการรับประทานยา และการสื่อสารระหว่างผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ต่อการรับประทานยาอย่างสมำ่เสมอต่อเนื่องในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุ จำนวน 128 ราย ทีี่มารับบริการที่หน่วยบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิในกรุงเทพฯ และโรงพยาบาลชุมชนจังหวัดนนทบุรี เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณาสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันและการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ.
ผลการวิจัย พบว่า การรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุ ส่่วนใหญ่อยู่ในระดับต่ำ ร้อยละ 61 การรับรู้สมรรถนะตนเอง การรับรู้อุปสรรคในการรับประทานยา การได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการรับประทานยา และการสื่อสารระหว่างผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์อยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 63.30,66.40,69.50 และ 69.50 ตามลำดับ สามารถร่วมกันทำนายการรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องของตัวอย่างได้ร้อยละ 21 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิิติฯ โดยพบว่า การรับรู้สมรรถนะแห่งตนสามารถทำนายได้มากที่สุด รองลงมาคือ การรับรู้อุปสรรคในการรับประทานยา.Link for e-copy: www.nurseasct.or.th Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26749 ผลของโปรแกรมการพัฒนาความสามารถในการดูแลตนเองของเด็กวัยเรียนโรคธาลัสซีเมีย / ภูษณิศา มาพิสูน in วารสารสภาการพยาบาล, Vol.31 No.2 (Apr-Jun) 2016/59 ([05/21/2016])
[article]
Title : ผลของโปรแกรมการพัฒนาความสามารถในการดูแลตนเองของเด็กวัยเรียนโรคธาลัสซีเมีย : และความสามารถในการดูแลเด็กของผู้ดูแลต่อพฤติกรรมการตดูแลตนเองของเด็ก Original title : Impact of a self care development programme for school age thalassaemic children and their caregiver's ability on the children's self care behavior Material Type: printed text Authors: ภูษณิศา มาพิสูน, Author ; ปรีย์กมล รัชนกุล, Author ; วาริยา หมื่นสา, Author Publication Date: 2016 Article on page: p.52-68 Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารสภาการพยาบาล > Vol.31 No.2 (Apr-Jun) 2016/59 [05/21/2016] . - p.52-68Keywords: การดูแลตนเอง.เด็กวัยเรียน.โรคธาลัสซีเมีย.ความสามารถในการดูแลตนเอง.การดูแลเด็ก.ผู้ดูแลต่อ. Curricular : BNS Link for e-copy: http://www.tci-thaijo.org/index.php/TJONC Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=25639 [article] ผลของโปรแกรมการพัฒนาความสามารถในการดูแลตนเองของเด็กวัยเรียนโรคธาลัสซีเมีย = Impact of a self care development programme for school age thalassaemic children and their caregiver's ability on the children's self care behavior : และความสามารถในการดูแลเด็กของผู้ดูแลต่อพฤติกรรมการตดูแลตนเองของเด็ก [printed text] / ภูษณิศา มาพิสูน, Author ; ปรีย์กมล รัชนกุล, Author ; วาริยา หมื่นสา, Author . - 2016 . - p.52-68.
Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารสภาการพยาบาล > Vol.31 No.2 (Apr-Jun) 2016/59 [05/21/2016] . - p.52-68Keywords: การดูแลตนเอง.เด็กวัยเรียน.โรคธาลัสซีเมีย.ความสามารถในการดูแลตนเอง.การดูแลเด็ก.ผู้ดูแลต่อ. Curricular : BNS Link for e-copy: http://www.tci-thaijo.org/index.php/TJONC Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=25639 ผลของโปรแกรมการส่งเสริมการดูแลตนเอง ต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้สูงอายุ / กชกร ธรรมนำศีล in วารสารพยาบาลสาธารณสุข, Vol. 29 No. 2 (May-Aug) 2015 ([09/17/2015])
[article]
Title : ผลของโปรแกรมการส่งเสริมการดูแลตนเอง ต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้สูงอายุ : โรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ เขตกรุงเทพมหานคร Original title : Effects of self-care promoting program on self-care behavior among older adults with uncontrolled hypertension in Bangkok metoprolitan Material Type: printed text Authors: กชกร ธรรมนำศีล, Author ; ขวัญใจ อำนาจสัตย์ซื่อ, Author ; พัชราภา เกิดมงคล, Author Publication Date: 2015 Article on page: p.42-55 Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารพยาบาลสาธารณสุข > Vol. 29 No. 2 (May-Aug) 2015 [09/17/2015] . - p.42-55Keywords: การส่งเสริมการดูแลตนเอง.พฤติกรรมการดูแลตนเอง.ผู้สูงอายุ.โรคความดันโลหิตสูง.กรุงเทพมหานคร. Abstract: การวิจัยกึ่งทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาผลของโปรแกรมการส่งเสริมการดูแลตนเองต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผูู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ในชุมชน กลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 60 คน เป็นผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูงที่มีอายุ 60-79 ปี มีระดับความดันโลหิตสูงกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา สุ่มเลือกกลุ่มตัวอย่างจาก 2 ชุมชน เขตเมือง กรุงเทพมหานคร เป็นกลุ่มทดลอง (n=30) และกลุ่มเปรียบเทียบ (n=30) กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการส่งเสริมการดูแลตนเองเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ประกอบด้วย การให้ความรู้และการฝึกทักษะการดูแลตนเอง ในเรื่องโรความดันโลหิตสูง การป้องกันภาวะแทรกซ้อน และการจัดการตนเอง การเยี่ยมบ้าน การสนับสนุนและให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์สัปดาห์ละ 1 ครั้ง การอภิปรายกลุ่ม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ในขณะที่กลุ่มเปรียบเทียบได้รับบริการตามปกติ เก็บข้อมูลโดยผู้วิจัยด้วยแบบสัมภาษณ์ก่อนและหลังได้รับโปรแกรม
Link for e-copy: http://phpn.ph.mahidol.ac.th/Journal/index.html Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=24965 [article] ผลของโปรแกรมการส่งเสริมการดูแลตนเอง ต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้สูงอายุ = Effects of self-care promoting program on self-care behavior among older adults with uncontrolled hypertension in Bangkok metoprolitan : โรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ เขตกรุงเทพมหานคร [printed text] / กชกร ธรรมนำศีล, Author ; ขวัญใจ อำนาจสัตย์ซื่อ, Author ; พัชราภา เกิดมงคล, Author . - 2015 . - p.42-55.
Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารพยาบาลสาธารณสุข > Vol. 29 No. 2 (May-Aug) 2015 [09/17/2015] . - p.42-55Keywords: การส่งเสริมการดูแลตนเอง.พฤติกรรมการดูแลตนเอง.ผู้สูงอายุ.โรคความดันโลหิตสูง.กรุงเทพมหานคร. Abstract: การวิจัยกึ่งทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาผลของโปรแกรมการส่งเสริมการดูแลตนเองต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผูู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ในชุมชน กลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 60 คน เป็นผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูงที่มีอายุ 60-79 ปี มีระดับความดันโลหิตสูงกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา สุ่มเลือกกลุ่มตัวอย่างจาก 2 ชุมชน เขตเมือง กรุงเทพมหานคร เป็นกลุ่มทดลอง (n=30) และกลุ่มเปรียบเทียบ (n=30) กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการส่งเสริมการดูแลตนเองเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ประกอบด้วย การให้ความรู้และการฝึกทักษะการดูแลตนเอง ในเรื่องโรความดันโลหิตสูง การป้องกันภาวะแทรกซ้อน และการจัดการตนเอง การเยี่ยมบ้าน การสนับสนุนและให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์สัปดาห์ละ 1 ครั้ง การอภิปรายกลุ่ม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ในขณะที่กลุ่มเปรียบเทียบได้รับบริการตามปกติ เก็บข้อมูลโดยผู้วิจัยด้วยแบบสัมภาษณ์ก่อนและหลังได้รับโปรแกรม
Link for e-copy: http://phpn.ph.mahidol.ac.th/Journal/index.html Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=24965 ผลของโปรแกรมควบคุมความดันโลหิต ต่อความเชื่อด้านสุขภาพ / ปิยมนต์ รัตนผ่องใส in วารสารสภาการพยาบาล, Vol.31 No.4 (Oct-Dec) 2016/59 ([07/25/2017])
[article]
Title : ผลของโปรแกรมควบคุมความดันโลหิต ต่อความเชื่อด้านสุขภาพ : พฤติกรรมสุขภาพ ปริมาณโซเดียมที่ได้รับ และระดับความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงในชุมชน Original title : Impact of a blood pressure regulating programme on health beliefs health behavior amount of sodium intake and hypertension leveld in community members with hypertension Material Type: printed text Authors: ปิยมนต์ รัตนผ่องใส, Author ; สุนีย์ ละกำปั่น, Author ; ปาหนัน พิชยภิญโญ, Author Publication Date: 2017 Article on page: p.63-75 Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารสภาการพยาบาล > Vol.31 No.4 (Oct-Dec) 2016/59 [07/25/2017] . - p.63-75Keywords: โปรแกรมควบคุมความด้นโลหิต. ความเชื่อด้านสุขภาพ. พฤติกรรมสุขภาพ. โรคความดันโลหิตสูง. Abstract: บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์ของการวิจัย: เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมควบคุมความดันโลหิต ต่อความเชื่อด้านสุขภาพ พฤติกรรมสุขภาพ ปริมาณโซเดียมที่ได้รับ และระดับความดันโลหิตของผู้เป็นโรคความดันโลหิตสูงในชุมชน
การออกแบบงานวิจัย: การวิจัยกึ่งทดลอง ศึกษาสองกลุ่ม วัดผลก่อนและหลังการทดลอง
การดำเนินการวิจัย: คัดเลือกตัวอย่างตามเกณฑ์คัดเข้า จำนวน 64 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง
34 คน และกลุ่มควบคุม 30 คน กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมควบคุมความดันโลหิต ประกอบด้วยการรให้ความรู้โดยใช้วิดีทัศน์ และแบบจำลองจำนวนจานอาหารสุขภาพ พร้อมแจกคู่มือกำรบริโภคอาหารจานเดียวและแผ่นพับเรื่องอาหารแลกเปลี่ยน ร่วมกับการติดตามเยี่ยมบ้าน 3 ครั้ง กลุ่มควบคุมได้รับการดูแลตามปกติ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล ความเชื่อด้านสุขภาพพฤติกรรมสุขภาพเพื่อควบคุมความดันโลหิต และแบบบันทึกการรับประทานอาหารย้อนหลัง 24 ชั่วโมง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยาย paired t-test และ independent t-test
ผลการวิจัย: พบว่า กลุ่มทดลองภายหลังได้รับโปรแกรม มีคะแนนความเชื่อด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น
กว่าก่อนทดลอง และมากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001) มีพฤติกรรมสุขภาพดีขึ้น (p<.01) และมีค่ำเฉลี่ยของระดับความดันโลหิต น้อยกว่าก่อนได้รับโปรแกรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05) รวมถึงมีปริมาณโซเดียมที่ได้รับน้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05)
ข้อเสนอแนะ: นำโปรแกรมควบคุมความดันโลหิต ไปใช้กับผู้เป็นโรคความดันโลหิตสูงในชุมชน เพื่อควบคุมโรคและป้องกันกำรเกิดภาวะแทรกซ้อนLink for e-copy: http://www.tci-thaijo.org/index.php/TJONC Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27050 [article] ผลของโปรแกรมควบคุมความดันโลหิต ต่อความเชื่อด้านสุขภาพ = Impact of a blood pressure regulating programme on health beliefs health behavior amount of sodium intake and hypertension leveld in community members with hypertension : พฤติกรรมสุขภาพ ปริมาณโซเดียมที่ได้รับ และระดับความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงในชุมชน [printed text] / ปิยมนต์ รัตนผ่องใส, Author ; สุนีย์ ละกำปั่น, Author ; ปาหนัน พิชยภิญโญ, Author . - 2017 . - p.63-75.
Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารสภาการพยาบาล > Vol.31 No.4 (Oct-Dec) 2016/59 [07/25/2017] . - p.63-75Keywords: โปรแกรมควบคุมความด้นโลหิต. ความเชื่อด้านสุขภาพ. พฤติกรรมสุขภาพ. โรคความดันโลหิตสูง. Abstract: บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์ของการวิจัย: เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมควบคุมความดันโลหิต ต่อความเชื่อด้านสุขภาพ พฤติกรรมสุขภาพ ปริมาณโซเดียมที่ได้รับ และระดับความดันโลหิตของผู้เป็นโรคความดันโลหิตสูงในชุมชน
การออกแบบงานวิจัย: การวิจัยกึ่งทดลอง ศึกษาสองกลุ่ม วัดผลก่อนและหลังการทดลอง
การดำเนินการวิจัย: คัดเลือกตัวอย่างตามเกณฑ์คัดเข้า จำนวน 64 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง
34 คน และกลุ่มควบคุม 30 คน กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมควบคุมความดันโลหิต ประกอบด้วยการรให้ความรู้โดยใช้วิดีทัศน์ และแบบจำลองจำนวนจานอาหารสุขภาพ พร้อมแจกคู่มือกำรบริโภคอาหารจานเดียวและแผ่นพับเรื่องอาหารแลกเปลี่ยน ร่วมกับการติดตามเยี่ยมบ้าน 3 ครั้ง กลุ่มควบคุมได้รับการดูแลตามปกติ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล ความเชื่อด้านสุขภาพพฤติกรรมสุขภาพเพื่อควบคุมความดันโลหิต และแบบบันทึกการรับประทานอาหารย้อนหลัง 24 ชั่วโมง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยาย paired t-test และ independent t-test
ผลการวิจัย: พบว่า กลุ่มทดลองภายหลังได้รับโปรแกรม มีคะแนนความเชื่อด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น
กว่าก่อนทดลอง และมากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001) มีพฤติกรรมสุขภาพดีขึ้น (p<.01) และมีค่ำเฉลี่ยของระดับความดันโลหิต น้อยกว่าก่อนได้รับโปรแกรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05) รวมถึงมีปริมาณโซเดียมที่ได้รับน้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05)
ข้อเสนอแนะ: นำโปรแกรมควบคุมความดันโลหิต ไปใช้กับผู้เป็นโรคความดันโลหิตสูงในชุมชน เพื่อควบคุมโรคและป้องกันกำรเกิดภาวะแทรกซ้อนLink for e-copy: http://www.tci-thaijo.org/index.php/TJONC Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27050 พฤติกรรมการดูแลเท้าของผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 / หนึ่งฤทัย จันทร์อินทร์ in รามาธิบดีพยาบาลสาร, Vol.21 No.2 (May-Aug) 2015 ([10/13/2015])
[article]
Title : พฤติกรรมการดูแลเท้าของผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 Original title : Foot care behavior of older persons with types 2 Diabets Material Type: printed text Authors: หนึ่งฤทัย จันทร์อินทร์, Author Publication Date: 2015 Article on page: 199-212 Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in รามาธิบดีพยาบาลสาร > Vol.21 No.2 (May-Aug) 2015 [10/13/2015] . - 199-212Keywords: เบาหวานชนิดที่ 2.พฤตจิกรรมการดูแลเท้า.การดูแลตนเอง.ผู้สูงอายุ. Abstract: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย เพื่อศึกษาพฤติกรรมการดูแลเท้าของผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 โดยใช้กรอบแนวคิดการดูแลตนเองของโอเร็ม กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มารับการตรวจรักษาที่ศูนย์เบาหวาน โรงพยาบาลตากสิน เลิือกแบบเจาะจง จำนวน 78 ราย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ตามแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างที่ผุ้วิจัยสร้างขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยาย และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างจำนวน 78 ราย เป็นพศชาย และเพศหญิงจำนวนเท่ากัน อายุเฉลี่ย 68.64 ปี กลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมการดูแลเท้าที่แตกต่างจากเดิมหลังรู้ว่าเป็นเบาหวาน คือ ให้ความสำคัญกับการดูลเท้ามากขึ้น มีการตรวจเท้าด้วยตนเอง เพื่อหาความผิดปกติของเท้า เนื่องจากความกลัวการถูกตัดนิ้ว ตัดขา มีการป้องกันการเกิดแผลที่เท้าโดยการทาครีมทาผิวที่เท้า ตัดเล็บแนวตรงไม่งัดแงะซอกเล็บ แต่มีบางรายที่มีการแช่เท้าในน่้ำอุ่น โดยไม่ทราบถึงผลเสีน นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างมีปัญหาตามัว มองไม่ชัด และมีภาวะอ้สนลงพุง ทำให้ก้มดูแลเท้าไม่สะดวก แต่มีความคิดริเริ่มใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันเพื่อช่วยในการมองเห็นให้ชัดขึ้น หรือขอให้ญาติเป็นผู้ตรวจดูเท้าให้ จากข้อมูลเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่ากลุ่มตัวอย่างกระทำการดูแลตนเองอย่างมีเป้าหมาย มีการไตร่ตรอง และมีทักษะในการปรับการปฏิบัติการดูแลตนเองด้วยวิธีต่าง ๆ รวมทั้งสอดแทรดการดูแลตนเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในแบบแผนการดำเนินชีวิต ผลการวิจัยครั้งนี้ทำให้เข้าใจพฤติกรรมและปัญหาในการดูแลเท้าของผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 และสามารถนำไปวางแผนการดูแลให้สอดคล้่องกับพฤติกรรม และแบบแผนกาาดำเนินชีวิตตามบริบททางสังคมของผู้สูงอายุเพื่อให้เกิดพฤติกรรมการดูแลเท้าที่ดียิ่งขึ้น Link for e-copy: http://med.mahidol.ac.th/nursing/journal/rama_journal_19 Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=24988 [article] พฤติกรรมการดูแลเท้าของผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 = Foot care behavior of older persons with types 2 Diabets [printed text] / หนึ่งฤทัย จันทร์อินทร์, Author . - 2015 . - 199-212.
Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in รามาธิบดีพยาบาลสาร > Vol.21 No.2 (May-Aug) 2015 [10/13/2015] . - 199-212Keywords: เบาหวานชนิดที่ 2.พฤตจิกรรมการดูแลเท้า.การดูแลตนเอง.ผู้สูงอายุ. Abstract: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย เพื่อศึกษาพฤติกรรมการดูแลเท้าของผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 โดยใช้กรอบแนวคิดการดูแลตนเองของโอเร็ม กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มารับการตรวจรักษาที่ศูนย์เบาหวาน โรงพยาบาลตากสิน เลิือกแบบเจาะจง จำนวน 78 ราย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ตามแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างที่ผุ้วิจัยสร้างขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยาย และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างจำนวน 78 ราย เป็นพศชาย และเพศหญิงจำนวนเท่ากัน อายุเฉลี่ย 68.64 ปี กลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมการดูแลเท้าที่แตกต่างจากเดิมหลังรู้ว่าเป็นเบาหวาน คือ ให้ความสำคัญกับการดูลเท้ามากขึ้น มีการตรวจเท้าด้วยตนเอง เพื่อหาความผิดปกติของเท้า เนื่องจากความกลัวการถูกตัดนิ้ว ตัดขา มีการป้องกันการเกิดแผลที่เท้าโดยการทาครีมทาผิวที่เท้า ตัดเล็บแนวตรงไม่งัดแงะซอกเล็บ แต่มีบางรายที่มีการแช่เท้าในน่้ำอุ่น โดยไม่ทราบถึงผลเสีน นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างมีปัญหาตามัว มองไม่ชัด และมีภาวะอ้สนลงพุง ทำให้ก้มดูแลเท้าไม่สะดวก แต่มีความคิดริเริ่มใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันเพื่อช่วยในการมองเห็นให้ชัดขึ้น หรือขอให้ญาติเป็นผู้ตรวจดูเท้าให้ จากข้อมูลเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่ากลุ่มตัวอย่างกระทำการดูแลตนเองอย่างมีเป้าหมาย มีการไตร่ตรอง และมีทักษะในการปรับการปฏิบัติการดูแลตนเองด้วยวิธีต่าง ๆ รวมทั้งสอดแทรดการดูแลตนเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในแบบแผนการดำเนินชีวิต ผลการวิจัยครั้งนี้ทำให้เข้าใจพฤติกรรมและปัญหาในการดูแลเท้าของผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 และสามารถนำไปวางแผนการดูแลให้สอดคล้่องกับพฤติกรรม และแบบแผนกาาดำเนินชีวิตตามบริบททางสังคมของผู้สูงอายุเพื่อให้เกิดพฤติกรรมการดูแลเท้าที่ดียิ่งขึ้น Link for e-copy: http://med.mahidol.ac.th/nursing/journal/rama_journal_19 Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=24988 สัมพันธภาพในครอบครัวในการส่งเสริมการดูแลตนเองเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด / ธีรนันท์ วรรณศิริ in วารสารเกื้อการุณย์, Vol.23 No.2 (Jul-Dec) 2016/59 ([05/17/2017])
[article]
Title : สัมพันธภาพในครอบครัวในการส่งเสริมการดูแลตนเองเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด : ของผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลไม่ได้ Original title : Families relationship in self-care promotipn for uncontrolling blood sugar in type 2 diabetes Material Type: printed text Authors: ธีรนันท์ วรรณศิริ, Author Publication Date: 2017 Article on page: p.31-50 Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารเกื้อการุณย์ > Vol.23 No.2 (Jul-Dec) 2016/59 [05/17/2017] . - p.31-50Keywords: โรคเบาหวาน.การควบคุมโรคเบาหวาน.การดูแลตนเอง.การส่งเสริมการดูแลตนเอง.สัมพันธภาพในครอบครัว. Abstract: เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เพื่อศึกษาสัมพนธภาพในครอบครัวในการส่งเสริมสุขภาพการดูแลตนเอง เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน กลุ่มตัวอย่างการวิจัย คือ ครอบครัวผู้ป่วยเบาหวาน ได้แก่ ผู้ป่วยที่ไม่สามารถคบคุมโรคได้โดยมีระดับ HbA1c มากกว่า 7% และสมาชิกในครอบครัว รวมทั้งหมด 19 ครอบครัว เลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล แบบสัมภาษณ์ครอบครัวผู้ป่วยเบาหวาน ผลการวิจัย พบว่า สัมพันธภาพในครอบครัวมีผลค่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน ดังนี้ 1) ผู้ป่วยเบาหวานที่ช่วยเหลือตัวเองได้ ผู้ดูแลจะสนับสนุนผู้ป่วยด้านสิ่งของเหมือนก่อนป่วย โดย ผู้ดูแลไม่ได้เข้มงวดในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน. ช่วยเหลือสิ่งที่ผู้ป่วยทำไม่ได้. คู่สมรสเป็นแหล่งสนับสนุนให้กำลังใจที่สำคัญ 2) การสนับสนุนด้านอารมณ์โดยสมาชิกในครอบครัวมีความรักใคร่ผูกพันกันโดยมีความเป็นห่วงใยกัน ทำกิจกรรมด้วยกัน 3) ผู้ป่วยเบาหวารนที่ดูแลตนเองได้น้อยยากจน จะได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวน้อย โดยบุตรจะแยกครอบครัวอยู่ต่างหาก เพราะสะดวกในการประกอบอาชีพ และผู้ป่วยเบาหวารทีไม่มีอำนาจการตัดสินใจ สมาชิกในครอบครัวจะต่างคนต่างอยู่
ข้อเสนอแนะ ให้บุคลากรทางสุขภาพจัดการฝึกอบรมให้ความรู้ผู้ป่วยเบาหวารและสมาชิกในครอบครัวเกี่ยวกับการควบคุมโรคเบาหวาน เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปปฏิบัติกับผู้ป่วยเบาหวานในครอบครัวได้อย่างถูกต้อง ช่วยลดภาวะแทรกซ้อนได้Link for e-copy: http://www.kcn.ac.th/KCN-Journal/no1-2556.html Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26730 [article] สัมพันธภาพในครอบครัวในการส่งเสริมการดูแลตนเองเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด = Families relationship in self-care promotipn for uncontrolling blood sugar in type 2 diabetes : ของผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลไม่ได้ [printed text] / ธีรนันท์ วรรณศิริ, Author . - 2017 . - p.31-50.
Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารเกื้อการุณย์ > Vol.23 No.2 (Jul-Dec) 2016/59 [05/17/2017] . - p.31-50Keywords: โรคเบาหวาน.การควบคุมโรคเบาหวาน.การดูแลตนเอง.การส่งเสริมการดูแลตนเอง.สัมพันธภาพในครอบครัว. Abstract: เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เพื่อศึกษาสัมพนธภาพในครอบครัวในการส่งเสริมสุขภาพการดูแลตนเอง เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน กลุ่มตัวอย่างการวิจัย คือ ครอบครัวผู้ป่วยเบาหวาน ได้แก่ ผู้ป่วยที่ไม่สามารถคบคุมโรคได้โดยมีระดับ HbA1c มากกว่า 7% และสมาชิกในครอบครัว รวมทั้งหมด 19 ครอบครัว เลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล แบบสัมภาษณ์ครอบครัวผู้ป่วยเบาหวาน ผลการวิจัย พบว่า สัมพันธภาพในครอบครัวมีผลค่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน ดังนี้ 1) ผู้ป่วยเบาหวานที่ช่วยเหลือตัวเองได้ ผู้ดูแลจะสนับสนุนผู้ป่วยด้านสิ่งของเหมือนก่อนป่วย โดย ผู้ดูแลไม่ได้เข้มงวดในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน. ช่วยเหลือสิ่งที่ผู้ป่วยทำไม่ได้. คู่สมรสเป็นแหล่งสนับสนุนให้กำลังใจที่สำคัญ 2) การสนับสนุนด้านอารมณ์โดยสมาชิกในครอบครัวมีความรักใคร่ผูกพันกันโดยมีความเป็นห่วงใยกัน ทำกิจกรรมด้วยกัน 3) ผู้ป่วยเบาหวารนที่ดูแลตนเองได้น้อยยากจน จะได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวน้อย โดยบุตรจะแยกครอบครัวอยู่ต่างหาก เพราะสะดวกในการประกอบอาชีพ และผู้ป่วยเบาหวารทีไม่มีอำนาจการตัดสินใจ สมาชิกในครอบครัวจะต่างคนต่างอยู่
ข้อเสนอแนะ ให้บุคลากรทางสุขภาพจัดการฝึกอบรมให้ความรู้ผู้ป่วยเบาหวารและสมาชิกในครอบครัวเกี่ยวกับการควบคุมโรคเบาหวาน เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปปฏิบัติกับผู้ป่วยเบาหวานในครอบครัวได้อย่างถูกต้อง ช่วยลดภาวะแทรกซ้อนได้Link for e-copy: http://www.kcn.ac.th/KCN-Journal/no1-2556.html Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26730