From this page you can:
Home |
Author details
Author สวัสดิ์เรียวกุล ประยุทธ์
Available item(s) by this author
Add the result to your basket Make a suggestion Refine your search Apply to external sourcesSIU IS-T. ทัศนคติของประชาชนต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล กรณีศึกษา : เทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี / สุภาพร แย้มกลิ่น / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2018
Collection Title: SIU IS-T Title : ทัศนคติของประชาชนต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล กรณีศึกษา : เทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี : People’s Attitudes toward Governance Administration : A Case of Nonthaburi Municipal, Nonthaburi Province Material Type: printed text Authors: สุภาพร แย้มกลิ่น, Author ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2018 Pagination: viii, 85 น. Layout: ตาราง, ภาพประกอบ Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2018-01
Independent Study [MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2018.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ทัศนคติ
[LCSH]ธรรมาภิบาลKeywords: ทัศนคติ, การบริหาร, ธรรมภิบาล Abstract: วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้ เพื่อศึกษาระดับทัศนคติและเพื่อเปรียบเทียบทัศนคติของประชาชนต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล กรณีศึกษาเทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม จากผู้ใช้บริการที่เทศบาลนครนนทบุรี จำนวน 400 คน วิเคราะห์ผลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และทดสอบตัวแปรและสมมติฐานโดยใช้สถิติ
t – test, F – test ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05
ผลวิจัยพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง มีอายุอยู่ระหว่าง 41 - 50 ปี มีสถานภาพสมรส ระดับการศึกษาปริญญาตรี ประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัท รายได้เฉลี่ยต่อเดือนสูงกว่า 15,000 บาท ผลวิจัยยังพบว่าประชาชนผู้ใช้บริการมีทัศนคติต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลเทศบาลนครนนทบุรีจังหวัดนนทบุรีอยู่ในระดับดี โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ มีหลักนิติธรรม หลักความคุ้มค่า หลักความรับผิดชอบ หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม และหลักคุณธรรม ตามลำดับ ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ปัจจัยลักษณะส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน มีผลต่อทัศนคติต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลเทศบาลนครนนทบุรีจังหวัดนนทบุรีแตกต่างกันCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27773 SIU IS-T. ทัศนคติของประชาชนต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล กรณีศึกษา : เทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี : People’s Attitudes toward Governance Administration : A Case of Nonthaburi Municipal, Nonthaburi Province [printed text] / สุภาพร แย้มกลิ่น, Author ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2018 . - viii, 85 น. : ตาราง, ภาพประกอบ ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2018-01
Independent Study [MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2018.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ทัศนคติ
[LCSH]ธรรมาภิบาลKeywords: ทัศนคติ, การบริหาร, ธรรมภิบาล Abstract: วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้ เพื่อศึกษาระดับทัศนคติและเพื่อเปรียบเทียบทัศนคติของประชาชนต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล กรณีศึกษาเทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม จากผู้ใช้บริการที่เทศบาลนครนนทบุรี จำนวน 400 คน วิเคราะห์ผลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และทดสอบตัวแปรและสมมติฐานโดยใช้สถิติ
t – test, F – test ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05
ผลวิจัยพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง มีอายุอยู่ระหว่าง 41 - 50 ปี มีสถานภาพสมรส ระดับการศึกษาปริญญาตรี ประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัท รายได้เฉลี่ยต่อเดือนสูงกว่า 15,000 บาท ผลวิจัยยังพบว่าประชาชนผู้ใช้บริการมีทัศนคติต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลเทศบาลนครนนทบุรีจังหวัดนนทบุรีอยู่ในระดับดี โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ มีหลักนิติธรรม หลักความคุ้มค่า หลักความรับผิดชอบ หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม และหลักคุณธรรม ตามลำดับ ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ปัจจัยลักษณะส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน มีผลต่อทัศนคติต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลเทศบาลนครนนทบุรีจังหวัดนนทบุรีแตกต่างกันCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27773 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000597821 SIU IS-T: IPAG-MPA-2018-01 c.1 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Due for return by 05/17/2024 32002000597797 SIU IS-T: IPAG-MPA-2018-01 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available Readers who borrowed this document also borrowed:
ทักษะการบริหารทีม ดอนเนลลอน, แอน การบริหารจัดการทีมงาน ลุกซ์, ริชาร์ด พลเมืองฉลาดรู้เท่าทันดิจิทัล อุษา, บิ้กกิ้นส์ การสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพ ณัฏฐพันธ์ เขจรนันทน์ SIU IS-T. ทัศนคติของประชาชนที่มีต่อนโยบายการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย บริเวณแยกราชประสงค์ / สุกัญญา สุขะเต / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : ทัศนคติของประชาชนที่มีต่อนโยบายการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย บริเวณแยกราชประสงค์ Original title : Attitudes of People towards Policy in Arranging Hawkers and Street Vendors at the Ratchaprasong Intersection Material Type: printed text Authors: สุกัญญา สุขะเต, Author ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: viii, 84 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-05
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การจัดระเบียบชุมชน
[LCSH]ประชากร -- ทัศนคติ -- หาบเร่แผงลอยKeywords: ทัศนคติ,
หาบเร่แผงลอย,
นโยบายAbstract: การศึกษาค้นคว้าอิสระครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทัศนคติของประชาชนที่มีต่อนโยบายการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยบริเวณแยกราชประสงค์ และเพื่อเปรียบเทียบทัศนคติของประชาชนต่อนโยบายการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยบริเวณแยกราชประสงค์ จำแนกตาม เพศ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ต่อเดือน ใช้วิธีการวิจัยเชิงปริมาณ โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างตามสะดวก กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ประชาชนผู้ใช้เส้นทางบริเวณแยกราชประสงค์ จำนวน 300 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test และ One-way ANOVA
ผลการศึกษาพบว่า ทัศนคติของประชาชนที่มีต่อนโยบายการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยบริเวณแยกราชประสงค์ ทั้ง 5 ด้าน ในภาพรวมอยู่ในระดับเห็นด้วยมาก เมื่อแยกเป็นรายด้าน อันดับแรกคือ ด้านความเข้าใจ รองลงมาคือ ด้านการจัดสภาพแวดล้อม ด้านนโยบาย ด้านพฤติกรรม และด้านความรู้สึก เป็นอันดับสุดท้าย ผลการทดสอบสมมติฐานเพื่อเปรียบเทียบทัศนคติของประชาชนที่มีต่อนโยบายการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยบริเวณแยกราชประสงค์ พบว่า ประชาชนที่มีเพศ และรายได้ต่างกัน มีทัศนคติต่อนโยบายการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยบริเวณแยกราชประสงค์ ไม่แตกต่างกัน ส่วนประชาชนที่มีอายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา และอาชีพต่างกัน มีทัศนคติต่อนโยบายการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยบริเวณราชประสงค์ แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26728 SIU IS-T. ทัศนคติของประชาชนที่มีต่อนโยบายการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย บริเวณแยกราชประสงค์ = Attitudes of People towards Policy in Arranging Hawkers and Street Vendors at the Ratchaprasong Intersection [printed text] / สุกัญญา สุขะเต, Author ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - viii, 84 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-05
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การจัดระเบียบชุมชน
[LCSH]ประชากร -- ทัศนคติ -- หาบเร่แผงลอยKeywords: ทัศนคติ,
หาบเร่แผงลอย,
นโยบายAbstract: การศึกษาค้นคว้าอิสระครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทัศนคติของประชาชนที่มีต่อนโยบายการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยบริเวณแยกราชประสงค์ และเพื่อเปรียบเทียบทัศนคติของประชาชนต่อนโยบายการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยบริเวณแยกราชประสงค์ จำแนกตาม เพศ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ต่อเดือน ใช้วิธีการวิจัยเชิงปริมาณ โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างตามสะดวก กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ประชาชนผู้ใช้เส้นทางบริเวณแยกราชประสงค์ จำนวน 300 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test และ One-way ANOVA
ผลการศึกษาพบว่า ทัศนคติของประชาชนที่มีต่อนโยบายการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยบริเวณแยกราชประสงค์ ทั้ง 5 ด้าน ในภาพรวมอยู่ในระดับเห็นด้วยมาก เมื่อแยกเป็นรายด้าน อันดับแรกคือ ด้านความเข้าใจ รองลงมาคือ ด้านการจัดสภาพแวดล้อม ด้านนโยบาย ด้านพฤติกรรม และด้านความรู้สึก เป็นอันดับสุดท้าย ผลการทดสอบสมมติฐานเพื่อเปรียบเทียบทัศนคติของประชาชนที่มีต่อนโยบายการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยบริเวณแยกราชประสงค์ พบว่า ประชาชนที่มีเพศ และรายได้ต่างกัน มีทัศนคติต่อนโยบายการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยบริเวณแยกราชประสงค์ ไม่แตกต่างกัน ส่วนประชาชนที่มีอายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา และอาชีพต่างกัน มีทัศนคติต่อนโยบายการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยบริเวณราชประสงค์ แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26728 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000593341 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-05 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000593317 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-05 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. บทบาทของผู้จัดการในการนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ กรณีศึกษา : สายการบินบิสสิเนสแอร์ / ดำรง ตะนารัตน์ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : บทบาทของผู้จัดการในการนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ กรณีศึกษา : สายการบินบิสสิเนสแอร์ Original title : The Manager’s Role in leading the Organization to Success Case Study: Business Air Airlines Material Type: printed text Authors: ดำรง ตะนารัตน์, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: vii, 77 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-14
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ผู้จัดการ
[LCSH]ภาวะผู้นำ -- กรณีศึกษา
[LCSH]สายการบินKeywords: บทบาท, ผู้นำ, ภาวะผู้นำ, ผู้จัดการ, การตัดสินใจ, สายการบิน บิสสิเนสแอร์ Abstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบทบาทของผู้จัดการในการนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ กรณีศึกษา : สายการบินบิสสิเนสแอร์ และเพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาบทบาทของผู้จัดการในการนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ผู้จัดการ จำนวน 10 คนซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานของสายการบินบิสสิเนสแอร์ เป็นผู้ให้ข้อมูลหลักโดยใช้วิธีการสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
ผลการศึกษา พบว่า แนวทางการบริหารงานของสายการบินบิสสิเนสแอร์ มีการกำหนดเป้าหมายขององค์กรอย่างชัดเจน ชี้แจงวัตถุประสงค์และเป้าหมายให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทราบ ด้านความรอบรู้ในงาน ผู้จัดการต้องมีความรู้ในฝ่ายอื่นๆทุกๆฝ่าย การตัดสินใจผิดพลาดไม่กล้าตัดสินใจ หรือตัดสินใจล่าช้าก็จะเกิดการสูญเสียค่าใช้จ่าย ด้านความสามารถทางการบริหาร ควรมีการสอนงาน แก้ปัญหาและให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติตามเพื่อบรรลุเป้าหมาย ด้านมนุษย์สัมพันธ์ช่วยเป็นตัวประสานงานให้งานคล่องตัวขึ้น ลดการขัดแย้ง ลดความไม่เข้าใจกันในการทำงาน บทบาทของผู้จัดการในการนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ ต้องใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารงาน
แนวทางการพัฒนาบทบาทของผู้จัดการในการนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ ควรเพิ่มทักษะการบริหารโดยการฝึกอบรมผู้จัดการ การบริหารจัดการบุคลากร และต้องมีเส้นทางความก้าวหน้าในสายวิชาชีพ
ปัญหาในการทำงาน ได้แก่ เป็นการบริหารงานแบบครอบครัว โดยเจ้าของเป็นผู้ตัดสินใจ ขาดสภาพคล่องทางการเงิน นักบินขาดแคลน เครื่องบินมีอายุเกิน 16ปี ขาดแคลนชิ้นส่วนอะไหล่ (spare part) ในการซ่อมบำรุง ฝ่ายการตลาดและการเงินยังขาดประสบการณ์การด้านการจัดการในการวางแผน กระแสเงินสดหมุนเวียน(Cash Flow) มาจาก(กำไร)Margin ต่ำและขาดผู้มีความสามารถ หรือผู้ชำนาญการทำการควบคุมต้นทุน(cost control)
อุปสรรค ได้แก่ การเปลี่ยนกฎข้อบังคับของกรมการบินพลเรือนทำให้การดำเนินธุรกิจลำบากขึ้น การถูกปรับลดความน่าเชื่อถือด้านความปลอดภัย การเสียโอกาสในการดำเนินธุรกิจ มีผู้บริหารในแต่ละหน่วยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรเพิ่มขึ้น และภัยพิบัติทางธรรมชาติ การบริหารการเงินของผู้บริหารผิดพลาด การบริหารบุคคลล้มเหลวCurricular : BBA/GE/MBA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26890 SIU IS-T. บทบาทของผู้จัดการในการนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ กรณีศึกษา : สายการบินบิสสิเนสแอร์ = The Manager’s Role in leading the Organization to Success Case Study: Business Air Airlines [printed text] / ดำรง ตะนารัตน์, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - vii, 77 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-14
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ผู้จัดการ
[LCSH]ภาวะผู้นำ -- กรณีศึกษา
[LCSH]สายการบินKeywords: บทบาท, ผู้นำ, ภาวะผู้นำ, ผู้จัดการ, การตัดสินใจ, สายการบิน บิสสิเนสแอร์ Abstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบทบาทของผู้จัดการในการนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ กรณีศึกษา : สายการบินบิสสิเนสแอร์ และเพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาบทบาทของผู้จัดการในการนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ผู้จัดการ จำนวน 10 คนซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานของสายการบินบิสสิเนสแอร์ เป็นผู้ให้ข้อมูลหลักโดยใช้วิธีการสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
ผลการศึกษา พบว่า แนวทางการบริหารงานของสายการบินบิสสิเนสแอร์ มีการกำหนดเป้าหมายขององค์กรอย่างชัดเจน ชี้แจงวัตถุประสงค์และเป้าหมายให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทราบ ด้านความรอบรู้ในงาน ผู้จัดการต้องมีความรู้ในฝ่ายอื่นๆทุกๆฝ่าย การตัดสินใจผิดพลาดไม่กล้าตัดสินใจ หรือตัดสินใจล่าช้าก็จะเกิดการสูญเสียค่าใช้จ่าย ด้านความสามารถทางการบริหาร ควรมีการสอนงาน แก้ปัญหาและให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติตามเพื่อบรรลุเป้าหมาย ด้านมนุษย์สัมพันธ์ช่วยเป็นตัวประสานงานให้งานคล่องตัวขึ้น ลดการขัดแย้ง ลดความไม่เข้าใจกันในการทำงาน บทบาทของผู้จัดการในการนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ ต้องใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารงาน
แนวทางการพัฒนาบทบาทของผู้จัดการในการนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ ควรเพิ่มทักษะการบริหารโดยการฝึกอบรมผู้จัดการ การบริหารจัดการบุคลากร และต้องมีเส้นทางความก้าวหน้าในสายวิชาชีพ
ปัญหาในการทำงาน ได้แก่ เป็นการบริหารงานแบบครอบครัว โดยเจ้าของเป็นผู้ตัดสินใจ ขาดสภาพคล่องทางการเงิน นักบินขาดแคลน เครื่องบินมีอายุเกิน 16ปี ขาดแคลนชิ้นส่วนอะไหล่ (spare part) ในการซ่อมบำรุง ฝ่ายการตลาดและการเงินยังขาดประสบการณ์การด้านการจัดการในการวางแผน กระแสเงินสดหมุนเวียน(Cash Flow) มาจาก(กำไร)Margin ต่ำและขาดผู้มีความสามารถ หรือผู้ชำนาญการทำการควบคุมต้นทุน(cost control)
อุปสรรค ได้แก่ การเปลี่ยนกฎข้อบังคับของกรมการบินพลเรือนทำให้การดำเนินธุรกิจลำบากขึ้น การถูกปรับลดความน่าเชื่อถือด้านความปลอดภัย การเสียโอกาสในการดำเนินธุรกิจ มีผู้บริหารในแต่ละหน่วยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรเพิ่มขึ้น และภัยพิบัติทางธรรมชาติ การบริหารการเงินของผู้บริหารผิดพลาด การบริหารบุคคลล้มเหลวCurricular : BBA/GE/MBA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26890 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000593655 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-14 c.1 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000593663 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-14 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available SIU IS-T. บทบาทในการทำงานของข้าราชการตำรวจกองกำกับการสายตรวจ 191 ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล / ประเดิม ดาวสว่าง / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2016
Collection Title: SIU IS-T Title : บทบาทในการทำงานของข้าราชการตำรวจกองกำกับการสายตรวจ 191 ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล Original title : Role in the Functioning of the Police Forces to Monitor Calls Directed at 191 are Efficiency and Productivity Material Type: printed text Authors: ประเดิม ดาวสว่าง, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2016 Pagination: vii, 59 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-05
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ตำรวจ -- การปฏิบัติงาน
[LCSH]ประสิทธิภาพในการทำงานKeywords: สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,
กองกำกับการสายตรวจ 191Abstract: ตำรวจไทย หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า ตำรวจแห่งชาติ (Royal Thai Police) เป็นตำรวจแห่งชาติของประเทศไทย ประกอบด้วย บรรดาเจ้าหน้าที่ของรัฐสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งเป็นส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงหรือทบวง มีฐานะเป็นกรม และอยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ตรวจตรารักษาความสงบ จับกุม และปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมาย เป็นผู้ที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงในการดูแลคุ้มครอง ให้เกิดความสงบสุขแก่พลเมืองของประเทศกองกำกับการสายตรวจ เป็นหน่วยงานหนึ่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยข้าราชการตำรวจมีบทบาท และหน้าที่ป้องกัน เพื่อป้องกันมิให้อาชญากรรมเกิดขึ้น โดยปฏิบัติหน้าที่ในเชิงรุกด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น งานสายตรวจออกตรวจป้องกันภัย งานสืบสวนหาข่าว งานตำรวจชุมชนมวลชนสัมพันธ์ ฯลฯ วัตถุประสงค์ของการศึกษาวิจัย เพื่อศึกษาถึงบทบาทในการทำงานของข้าราชการตำรวจที่มีประสิทธิภาพต่อการทำงานกองกำกับการสายตรวจ 191 และเพื่อศึกษาถึงความผูกพันในองค์กรของข้าราชการตำรวจกองกำกับการสายตรวจ 191 โดยมีกลุ่มตัวอย่างจากประชาการที่เป็นข้าราชการตำรวจกองกำกับการสายตรวจ 191 จำนวน 200 คน ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับเพื่อได้เข้าใจถึงบทบาทและประสิทธิภาพในการทำงานของข้าราชการตำรวจกองกำกับการสายตรวจ 191 ไปปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพและเพื่อได้ทราบถึงความผูกพันในองค์กรของข้าราชการตำรวจกองกำกับการสายตรวจได้ชัดเจนมากขึ้น
สรุปผลที่ได้จากการวิจัยครั้งนี้ มีข้อเสนอแนะที่ได้จากการศึกษาวิจัย เรื่องเรื่อง บทบาทในการทำงานของข้าราชการตำรวจกองกำกับการสายตรวจ 191 ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สรุปได้ว่าข้าราชการตำรวจกองกำกับการสายตรวจ 191 มีบทบาทและประสิทธภาพในเรื่อง “รับฟังความคิดเห็นของประชาชน” และ “ทำงานอย่างเต็มความสามารถ” มีความผูกพันธ์ต่อองค์กรในเรื่อง “องค์กรเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือ” แต่อาจมีความผูกพันธ์ต่อองค์กรน้อย สังเกตุจากข้อคำถามว่า “เมื่อถึงเวลาเลิกงานท่านรีบออกจากที่ทำงานโดยเร็ว” เนื่องจากมีผู้ตอบแบบสอบถามข้อนี้เป็นคะแนนเฉลี่ยสูงที่สุด และข้าราชการตำรวจกองกำกับการสายตรวจ 191 ไม่รู้สึกว่า สมาชิกในองค์กรลดลงอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นว่า ข้าราชการตำรวจดังกล่าวยังมีความประสงค์ที่จะทำงานกับองค์กรแห่งนี้ต่อไปCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26712 SIU IS-T. บทบาทในการทำงานของข้าราชการตำรวจกองกำกับการสายตรวจ 191 ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล = Role in the Functioning of the Police Forces to Monitor Calls Directed at 191 are Efficiency and Productivity [printed text] / ประเดิม ดาวสว่าง, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016 . - vii, 59 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-05
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ตำรวจ -- การปฏิบัติงาน
[LCSH]ประสิทธิภาพในการทำงานKeywords: สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,
กองกำกับการสายตรวจ 191Abstract: ตำรวจไทย หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า ตำรวจแห่งชาติ (Royal Thai Police) เป็นตำรวจแห่งชาติของประเทศไทย ประกอบด้วย บรรดาเจ้าหน้าที่ของรัฐสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งเป็นส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงหรือทบวง มีฐานะเป็นกรม และอยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ตรวจตรารักษาความสงบ จับกุม และปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมาย เป็นผู้ที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงในการดูแลคุ้มครอง ให้เกิดความสงบสุขแก่พลเมืองของประเทศกองกำกับการสายตรวจ เป็นหน่วยงานหนึ่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยข้าราชการตำรวจมีบทบาท และหน้าที่ป้องกัน เพื่อป้องกันมิให้อาชญากรรมเกิดขึ้น โดยปฏิบัติหน้าที่ในเชิงรุกด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น งานสายตรวจออกตรวจป้องกันภัย งานสืบสวนหาข่าว งานตำรวจชุมชนมวลชนสัมพันธ์ ฯลฯ วัตถุประสงค์ของการศึกษาวิจัย เพื่อศึกษาถึงบทบาทในการทำงานของข้าราชการตำรวจที่มีประสิทธิภาพต่อการทำงานกองกำกับการสายตรวจ 191 และเพื่อศึกษาถึงความผูกพันในองค์กรของข้าราชการตำรวจกองกำกับการสายตรวจ 191 โดยมีกลุ่มตัวอย่างจากประชาการที่เป็นข้าราชการตำรวจกองกำกับการสายตรวจ 191 จำนวน 200 คน ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับเพื่อได้เข้าใจถึงบทบาทและประสิทธิภาพในการทำงานของข้าราชการตำรวจกองกำกับการสายตรวจ 191 ไปปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพและเพื่อได้ทราบถึงความผูกพันในองค์กรของข้าราชการตำรวจกองกำกับการสายตรวจได้ชัดเจนมากขึ้น
สรุปผลที่ได้จากการวิจัยครั้งนี้ มีข้อเสนอแนะที่ได้จากการศึกษาวิจัย เรื่องเรื่อง บทบาทในการทำงานของข้าราชการตำรวจกองกำกับการสายตรวจ 191 ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สรุปได้ว่าข้าราชการตำรวจกองกำกับการสายตรวจ 191 มีบทบาทและประสิทธภาพในเรื่อง “รับฟังความคิดเห็นของประชาชน” และ “ทำงานอย่างเต็มความสามารถ” มีความผูกพันธ์ต่อองค์กรในเรื่อง “องค์กรเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือ” แต่อาจมีความผูกพันธ์ต่อองค์กรน้อย สังเกตุจากข้อคำถามว่า “เมื่อถึงเวลาเลิกงานท่านรีบออกจากที่ทำงานโดยเร็ว” เนื่องจากมีผู้ตอบแบบสอบถามข้อนี้เป็นคะแนนเฉลี่ยสูงที่สุด และข้าราชการตำรวจกองกำกับการสายตรวจ 191 ไม่รู้สึกว่า สมาชิกในองค์กรลดลงอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นว่า ข้าราชการตำรวจดังกล่าวยังมีความประสงค์ที่จะทำงานกับองค์กรแห่งนี้ต่อไปCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26712 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000593226 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-05 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000593218 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-05 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. ปัจจัยที่นำไปสู่การเสพยาเสพติดของผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ซึ่งถูกควบคุมตัว ณ สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการตรวจพิสูจน์เรือนจำกลางคลองเปรม แดน 13 / จามร รัตนพงศ์บวร / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : ปัจจัยที่นำไปสู่การเสพยาเสพติดของผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ซึ่งถูกควบคุมตัว ณ สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการตรวจพิสูจน์เรือนจำกลางคลองเปรม แดน 13 Original title : (Factors Leading to Drug Usage by Persons Committed for Identification Detained at the Facility for Identification of Area 13, Klong Prem Central Prison) Material Type: printed text Authors: จามร รัตนพงศ์บวร, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: vii, 66 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-12
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ยาเสพติด
[LCSH]เรือนจำกลางคลองเปรมKeywords: ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์,
สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการตรวจพิสูจน์,
การเสพยาเสพติดAbstract: การศึกษางานค้นคว้าอิสระนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทราบถึงปัจจัยที่นำไปสู่การเสพยาเสพติดของผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ซึ่งถูกควบคุมตัว ณ สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการ
ตรวจพิสูจน์ เรือนจำกลางคลองเปรม แดน 13 ซึ่งจะได้นำมาเป็นแนวทางในการปรับปรุงนโยบาย
ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยใช้วิธีการวิจัยสนาม ด้วยการสัมภาษณ์แบบเจาะจง
ในลักษณะตัวต่อตัว ซึ่งใช้คำถามแบบเดียวกันกับผู้ถูกสัมภาษณ์ทุกคน ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ซึ่งถูกควบคุมตัว ณ สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการตรวจพิสูจน์ เรือนจำกลางคลองเปรม แดน 13 จำนวน 12 คน
ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่นำไปสู่การเสพยาเสพติดของผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ซึ่งถูกควบคุมตัว ณ สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการตรวจพิสูจน์ เรือนจำกลางคลองเปรม แดน 13 เกิดจากการปัจจัยที่สำคัญ 4 ประการ คือ 1. ตัวผู้เสพยาเสพติด 2. สถาบันครอบครัว 3. สังคมและสิ่งแวดล้อม และ 4. ภาครัฐ
จากการศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษามีข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเสพยาเสพยาติด คือ ทุกภาคส่วนต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเสพยาเสพติด เช่น การให้ความรู้เกี่ยวกับโทษภัยของยาเสพติดและบทลงโทษของกฎหมาย การให้โอกาสผู้เสพยาเสพติดกลับตัวกลับใจเลิกเสพยาเสพติด ตลอดจนภาครัฐควรจัดให้มีหน่วยงานในการบำบัดรักษาผู้เสพ/ติดยาเสพติดเป็นการเฉพาะ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติดอย่างแท้จริงCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26892 SIU IS-T. ปัจจัยที่นำไปสู่การเสพยาเสพติดของผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ซึ่งถูกควบคุมตัว ณ สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการตรวจพิสูจน์เรือนจำกลางคลองเปรม แดน 13 = (Factors Leading to Drug Usage by Persons Committed for Identification Detained at the Facility for Identification of Area 13, Klong Prem Central Prison) [printed text] / จามร รัตนพงศ์บวร, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - vii, 66 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-12
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ยาเสพติด
[LCSH]เรือนจำกลางคลองเปรมKeywords: ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์,
สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการตรวจพิสูจน์,
การเสพยาเสพติดAbstract: การศึกษางานค้นคว้าอิสระนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทราบถึงปัจจัยที่นำไปสู่การเสพยาเสพติดของผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ซึ่งถูกควบคุมตัว ณ สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการ
ตรวจพิสูจน์ เรือนจำกลางคลองเปรม แดน 13 ซึ่งจะได้นำมาเป็นแนวทางในการปรับปรุงนโยบาย
ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยใช้วิธีการวิจัยสนาม ด้วยการสัมภาษณ์แบบเจาะจง
ในลักษณะตัวต่อตัว ซึ่งใช้คำถามแบบเดียวกันกับผู้ถูกสัมภาษณ์ทุกคน ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ซึ่งถูกควบคุมตัว ณ สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการตรวจพิสูจน์ เรือนจำกลางคลองเปรม แดน 13 จำนวน 12 คน
ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่นำไปสู่การเสพยาเสพติดของผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ซึ่งถูกควบคุมตัว ณ สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการตรวจพิสูจน์ เรือนจำกลางคลองเปรม แดน 13 เกิดจากการปัจจัยที่สำคัญ 4 ประการ คือ 1. ตัวผู้เสพยาเสพติด 2. สถาบันครอบครัว 3. สังคมและสิ่งแวดล้อม และ 4. ภาครัฐ
จากการศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษามีข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเสพยาเสพยาติด คือ ทุกภาคส่วนต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเสพยาเสพติด เช่น การให้ความรู้เกี่ยวกับโทษภัยของยาเสพติดและบทลงโทษของกฎหมาย การให้โอกาสผู้เสพยาเสพติดกลับตัวกลับใจเลิกเสพยาเสพติด ตลอดจนภาครัฐควรจัดให้มีหน่วยงานในการบำบัดรักษาผู้เสพ/ติดยาเสพติดเป็นการเฉพาะ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติดอย่างแท้จริงCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26892 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000593697 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-12 c.1 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000593705 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-12 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available SIU IS-T. ปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ ฝ่ายอำนวยการ 2 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน / เสน่ห์ พงศาปาน / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : ปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ ฝ่ายอำนวยการ 2 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน Original title : The Factors Influenced on Performance of Police Officers of General StaffSub-Division 2, General Staff Division, Border Patrol Police Bureau Material Type: printed text Authors: เสน่ห์ พงศาปาน, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: ix, 68 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-09
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
[LCSH]ตำรวจ -- การปฏิบัติงานKeywords: ฝ่ายอำนวยการ,
อิทธิพล,
ประสิทธิภาพAbstract: การศึกษาค้นคว้าอิสระครั้งนี้ เป็นการศึกษาเพื่อศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ ฝ่ายอำนวยการ 2 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เป็นการศึกษาในเชิงคุณภาพ โดยผู้ศึกษาได้ใช้วิธีการเก็บข้อมูลศึกษา 2 วิธี คือ การศึกษาเอกสาร โดยรวบรวมข้อมูลจากเอกสารทางวิชาการ วารสาร สิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ รายงานวิจัย วิทยานิพนธ์ รายงานการประชุม คู่มือการปฏิบัติงาน ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง เอกสารทางราชการ ที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของข้าราชตำรวจ เป็นต้น และการศึกษาวิจัยภาคสนาม โดยการใช้แบบสัมภาษณ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงาน ปัญหา อุปสรรค และศึกษาแนวทางในการปรับปรุงและเพื่อเสริมสร้างการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ ทั้งนี้ ผู้ศึกษาได้ทำการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ในการศึกษาจึงใช้วิธีการเก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 12 คน ผลการศึกษาตามวัตถุประสงค์ แยกเป็น 3 ด้าน คือ ด้านปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงาน พบว่า การแต่งตั้งโยกย้ายประจำทุกปีแต่ไม่มีกำลังพลทดแทน ทำให้การจัดกำลังพลไม่มีเหมาะสมกับงานหรือความสามารถข้าราชตำรวจ ขาดความรู้ความชำนาญ ขาดจิตวิญญาณในการเป็นตำรวจอาชีพ ไม่เต็มใจทำงาน ขาดการจัดอบรมเพื่อพัฒนาบุคคลากรอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชามีน้อย ขาดแรงจูงใจ ขาดความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ และความกระตือรือร้นในการทำงาน ด้านปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงาน พบว่า ปัญหาด้านบุคลากร ยังขาดแคลนกำลังเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงาน ผู้บังคับบัญชาไม่มีความยุติธรรม มีการใช้ระบบอุปถัมภ์ในการพิจารณาความดีความชอบผู้บังคับบัญชาขาดความเอาใจใส่ในการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชา ส่วนผู้ปฏิบัติขาดการเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับมอบหมาย การจัดอบรมพัฒนาบุคลากรมีน้อย ขาดขวัญกำลังใจในการทำงาน ปัญหาด้านวัสดุอุปกรณ์ ขาดแคลนเครื่องมือเครื่องใช้สำหรับการปฏิบัติงาน ไม่เพียงพอ ไม่ทันสมัย ไม่มีประสิทธิภาพ ขาดการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ ปัญหาด้านอาคารสถานที่ มีความคับแคบ สภาพแวดล้อมในสำนักงานไม่เอื้อต่อการปฏิบัติงาน ปัญหาด้านสวัสดิการ ค่าครองชีพ สูงเงินเดือนไม่พอใช้ในการดำรงชีพ อาคารบ้านพักสวัสดิการไม่เพียงพอ สวัสดิการช่วยเหลือข้าราชการชั้นผู้น้อย เช่น ค่าครองชีพ ค่าเช่าบ้านพัก ค่าอาหารกลางวัน ค่าตัดเย็บเครื่องแบบปฏิบัติงาน มีน้อย ส่วนการเบิกค่าการศึกษาบุตรมีความล่าช้าไม่ทันต่อความต้องการใช้เงิน ขาดเงินงบประมาณในการบริหารหน่วย ด้านแนวทางการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาการปฏิบัติงาน พบว่า ต้องจัดหากำลังเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอต่อปริมาณ ตรงกับความรู้ความสามารถ ความชำนาญ ต้องจัดอบรมพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง และต้องให้ความยุติธรรมกับข้าราชการตำรวจอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการทำงาน รวมทั้ง จัดกิจกรรมนันทนาการร่วมกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา จัดหาสวัสดิการหรือส่งเสริมอาชีพให้แก่ข้าราชการตรวจและครอบครัว สร้างบรรยากาศในการทำงานและสร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมาย จัดให้มีการประชุมตามความเหมาะสมเพื่อเปิดโอกาสให้แจ้งปัญหาข้อขัดข้องในการทำงานของแต่ละบุคคลหรือสายงาน สนับสนุนเครื่องมือ และวัสดุอุปกรณ์ให้เพียงพอต่อการใช้งาน ทันต่อเทคโนโลยี รวมทั้งการบำรุงรักษาเครื่องมือในสำนักงานให้มีสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26895 SIU IS-T. ปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ ฝ่ายอำนวยการ 2 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน = The Factors Influenced on Performance of Police Officers of General StaffSub-Division 2, General Staff Division, Border Patrol Police Bureau [printed text] / เสน่ห์ พงศาปาน, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - ix, 68 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-09
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
[LCSH]ตำรวจ -- การปฏิบัติงานKeywords: ฝ่ายอำนวยการ,
อิทธิพล,
ประสิทธิภาพAbstract: การศึกษาค้นคว้าอิสระครั้งนี้ เป็นการศึกษาเพื่อศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ ฝ่ายอำนวยการ 2 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เป็นการศึกษาในเชิงคุณภาพ โดยผู้ศึกษาได้ใช้วิธีการเก็บข้อมูลศึกษา 2 วิธี คือ การศึกษาเอกสาร โดยรวบรวมข้อมูลจากเอกสารทางวิชาการ วารสาร สิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ รายงานวิจัย วิทยานิพนธ์ รายงานการประชุม คู่มือการปฏิบัติงาน ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง เอกสารทางราชการ ที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของข้าราชตำรวจ เป็นต้น และการศึกษาวิจัยภาคสนาม โดยการใช้แบบสัมภาษณ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงาน ปัญหา อุปสรรค และศึกษาแนวทางในการปรับปรุงและเพื่อเสริมสร้างการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ ทั้งนี้ ผู้ศึกษาได้ทำการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ในการศึกษาจึงใช้วิธีการเก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 12 คน ผลการศึกษาตามวัตถุประสงค์ แยกเป็น 3 ด้าน คือ ด้านปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงาน พบว่า การแต่งตั้งโยกย้ายประจำทุกปีแต่ไม่มีกำลังพลทดแทน ทำให้การจัดกำลังพลไม่มีเหมาะสมกับงานหรือความสามารถข้าราชตำรวจ ขาดความรู้ความชำนาญ ขาดจิตวิญญาณในการเป็นตำรวจอาชีพ ไม่เต็มใจทำงาน ขาดการจัดอบรมเพื่อพัฒนาบุคคลากรอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชามีน้อย ขาดแรงจูงใจ ขาดความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ และความกระตือรือร้นในการทำงาน ด้านปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงาน พบว่า ปัญหาด้านบุคลากร ยังขาดแคลนกำลังเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงาน ผู้บังคับบัญชาไม่มีความยุติธรรม มีการใช้ระบบอุปถัมภ์ในการพิจารณาความดีความชอบผู้บังคับบัญชาขาดความเอาใจใส่ในการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชา ส่วนผู้ปฏิบัติขาดการเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับมอบหมาย การจัดอบรมพัฒนาบุคลากรมีน้อย ขาดขวัญกำลังใจในการทำงาน ปัญหาด้านวัสดุอุปกรณ์ ขาดแคลนเครื่องมือเครื่องใช้สำหรับการปฏิบัติงาน ไม่เพียงพอ ไม่ทันสมัย ไม่มีประสิทธิภาพ ขาดการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ ปัญหาด้านอาคารสถานที่ มีความคับแคบ สภาพแวดล้อมในสำนักงานไม่เอื้อต่อการปฏิบัติงาน ปัญหาด้านสวัสดิการ ค่าครองชีพ สูงเงินเดือนไม่พอใช้ในการดำรงชีพ อาคารบ้านพักสวัสดิการไม่เพียงพอ สวัสดิการช่วยเหลือข้าราชการชั้นผู้น้อย เช่น ค่าครองชีพ ค่าเช่าบ้านพัก ค่าอาหารกลางวัน ค่าตัดเย็บเครื่องแบบปฏิบัติงาน มีน้อย ส่วนการเบิกค่าการศึกษาบุตรมีความล่าช้าไม่ทันต่อความต้องการใช้เงิน ขาดเงินงบประมาณในการบริหารหน่วย ด้านแนวทางการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาการปฏิบัติงาน พบว่า ต้องจัดหากำลังเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอต่อปริมาณ ตรงกับความรู้ความสามารถ ความชำนาญ ต้องจัดอบรมพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง และต้องให้ความยุติธรรมกับข้าราชการตำรวจอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการทำงาน รวมทั้ง จัดกิจกรรมนันทนาการร่วมกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา จัดหาสวัสดิการหรือส่งเสริมอาชีพให้แก่ข้าราชการตรวจและครอบครัว สร้างบรรยากาศในการทำงานและสร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมาย จัดให้มีการประชุมตามความเหมาะสมเพื่อเปิดโอกาสให้แจ้งปัญหาข้อขัดข้องในการทำงานของแต่ละบุคคลหรือสายงาน สนับสนุนเครื่องมือ และวัสดุอุปกรณ์ให้เพียงพอต่อการใช้งาน ทันต่อเทคโนโลยี รวมทั้งการบำรุงรักษาเครื่องมือในสำนักงานให้มีสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26895 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000593762 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-09 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000593754 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-09 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว / สยาม โพธิ์เตี้ย / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2016
Collection Title: SIU IS-T Title : ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว Original title : Factors Affecting the Performance of the Police Officers in the Tourist Police Sub Division 1 Material Type: printed text Authors: สยาม โพธิ์เตี้ย, Author ; สมชาย รัตนโกมุท, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2016 Pagination: viii, 69 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-10
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ข้าราชการตำรวจ
[LCSH]ตำรวจท่องเที่ยว -- การทำงาน
[LCSH]ประสิทธิภาพในการทำงานKeywords: ปัจจัยที่ส่งผล,
ประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่,
ข้าราชการตำรวจ,
กองกำกับการ 1,
กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27299 SIU IS-T. ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว = Factors Affecting the Performance of the Police Officers in the Tourist Police Sub Division 1 [printed text] / สยาม โพธิ์เตี้ย, Author ; สมชาย รัตนโกมุท, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016 . - viii, 69 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-10
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ข้าราชการตำรวจ
[LCSH]ตำรวจท่องเที่ยว -- การทำงาน
[LCSH]ประสิทธิภาพในการทำงานKeywords: ปัจจัยที่ส่งผล,
ประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่,
ข้าราชการตำรวจ,
กองกำกับการ 1,
กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27299 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000595114 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-10 c.1 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000595122 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-10 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available SIU IS-T. ปัญหาในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครตำรวจบ้าน ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ / นาคิน จันทร์แก้ว / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : ปัญหาในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครตำรวจบ้าน ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ Original title : Obstacles in Job Performing of Volunteer Home Guards under Krabi Provincial Police’s Supervision Material Type: printed text Authors: นาคิน จันทร์แก้ว, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: vii, 74 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-24
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การทำงาน
[LCSH]อาสาสมัคร -- กระบี่Keywords: อาสาสมัครตำรวจบ้าน Abstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อทราบระดับปัญหาในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครตำรวจบ้าน ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ 2) เพื่อเปรียบเทียบปัญหาในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครตำรวจบ้าน ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพ อาชีพ และประสบการณ์ 3) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ปัญหาในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครตำรวจบ้าน ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ โดยใช้แบบสอบถามเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างอาสาสมัครตำรวจบ้านที่ปฏิบัติงาน ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ จำนวน 171 คน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าแจกแจงความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสถิติ ทดสอบที และค่าสถิติทดสอบเอฟ วิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One-Way ANOVA) และเปรียบเทียบรายคู่ด้วยวิธีการของ Scheffe
ผลการศึกษาพบว่า ปัญหาในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครตำรวจบ้าน ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ จำแนกเป็นรายด้านทุกด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านการสนับสนุนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รองลงมา ได้แก่ ด้านขวัญกำลังใจ ด้านตัวอาสาสมัคร และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมขน วิเคราะห์เปรียบเทียบปัญหาในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครตำรวจบ้าน ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ แยกตามประสบการณ์ โดยการทดสอบค่าที (T-test) พบว่า ปัญหาในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครตำรวจบ้านโดยภาพรวม ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แยกตามอายุ ระดับการศึกษา สถานภาพ อาชีพ โดยการทดสอบค่าเอฟ (F-test) จำแนกตามอายุ สถานภาพ และอาชีพ โดยภาพรวมและรายด้านไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จำแนกตามระดับการศึกษา โดยรวมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05และข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหา พบว่า ควรจัดสรรงบประมาณในการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครตำรวจบ้าน ควรจัดกิจกรรมพบปะสังสรรค์ระหว่างอาสาสมัครตำรวจบ้านเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน ควรสร้างจิตสำนึกในความเป็นเจ้าของ รักชุมชน และมีความรู้สึกเป็นเจ้าของชุมชนCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26829 SIU IS-T. ปัญหาในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครตำรวจบ้าน ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ = Obstacles in Job Performing of Volunteer Home Guards under Krabi Provincial Police’s Supervision [printed text] / นาคิน จันทร์แก้ว, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - vii, 74 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-24
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การทำงาน
[LCSH]อาสาสมัคร -- กระบี่Keywords: อาสาสมัครตำรวจบ้าน Abstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อทราบระดับปัญหาในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครตำรวจบ้าน ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ 2) เพื่อเปรียบเทียบปัญหาในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครตำรวจบ้าน ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพ อาชีพ และประสบการณ์ 3) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ปัญหาในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครตำรวจบ้าน ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ โดยใช้แบบสอบถามเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างอาสาสมัครตำรวจบ้านที่ปฏิบัติงาน ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ จำนวน 171 คน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าแจกแจงความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสถิติ ทดสอบที และค่าสถิติทดสอบเอฟ วิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One-Way ANOVA) และเปรียบเทียบรายคู่ด้วยวิธีการของ Scheffe
ผลการศึกษาพบว่า ปัญหาในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครตำรวจบ้าน ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ จำแนกเป็นรายด้านทุกด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านการสนับสนุนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รองลงมา ได้แก่ ด้านขวัญกำลังใจ ด้านตัวอาสาสมัคร และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมขน วิเคราะห์เปรียบเทียบปัญหาในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครตำรวจบ้าน ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ แยกตามประสบการณ์ โดยการทดสอบค่าที (T-test) พบว่า ปัญหาในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครตำรวจบ้านโดยภาพรวม ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แยกตามอายุ ระดับการศึกษา สถานภาพ อาชีพ โดยการทดสอบค่าเอฟ (F-test) จำแนกตามอายุ สถานภาพ และอาชีพ โดยภาพรวมและรายด้านไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จำแนกตามระดับการศึกษา โดยรวมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05และข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหา พบว่า ควรจัดสรรงบประมาณในการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครตำรวจบ้าน ควรจัดกิจกรรมพบปะสังสรรค์ระหว่างอาสาสมัครตำรวจบ้านเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน ควรสร้างจิตสำนึกในความเป็นเจ้าของ รักชุมชน และมีความรู้สึกเป็นเจ้าของชุมชนCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26829 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000593622 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-24 c.1 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000593614 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-24 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available SIU IS-T. สำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 / วิภาพร ทิมอุบล / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : สำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 Original title : Organization Awareness of Police Officers of the General Staff Sub-Division, Metropolitan Police Division 3 Material Type: printed text Authors: วิภาพร ทิมอุบล, Author ; สมชาย รัตนโกมุท, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: viii, 51 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-39
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ความสุขในการทำงาน
[LCSH]ตำรวจAbstract: การศึกษา เรื่อง สำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับพื้นฐานสำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ในด้านความภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ด้านความเชื่อมั่นและศรัทธาในนโยบายและเป้าหมายขององค์กร ด้านความได้รับการยอมรับ และด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพการสมรส รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ และการได้รับพิจารณาความดีความชอบ
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม สรุประดับสำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุตั้งแต่ 41 ปีขึ้นไป ระดับการศึกษาระดับปริญญาตรี สถานภาพสมรส รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,000 บาท ขึ้นไป ระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่มากกว่า 10 ปี และได้เลื่อนขั้น 2 ขั้น โดยวิเคราะห์ข้อมูลสำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ในภาพรวมอยู่ ระดับมาก โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ ด้านความภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ด้านความเชื่อมั่นและศรัทธาในนโยบายและเป้าหมายขององค์กร ด้านการได้รับและการยอมรับ ด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการ ตามลำดับ จะเห็นว่าความสุขในการทำงานเกิดจากพื้นฐานสำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27202 SIU IS-T. สำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 = Organization Awareness of Police Officers of the General Staff Sub-Division, Metropolitan Police Division 3 [printed text] / วิภาพร ทิมอุบล, Author ; สมชาย รัตนโกมุท, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - viii, 51 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-39
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ความสุขในการทำงาน
[LCSH]ตำรวจAbstract: การศึกษา เรื่อง สำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับพื้นฐานสำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ในด้านความภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ด้านความเชื่อมั่นและศรัทธาในนโยบายและเป้าหมายขององค์กร ด้านความได้รับการยอมรับ และด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพการสมรส รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ และการได้รับพิจารณาความดีความชอบ
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม สรุประดับสำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุตั้งแต่ 41 ปีขึ้นไป ระดับการศึกษาระดับปริญญาตรี สถานภาพสมรส รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,000 บาท ขึ้นไป ระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่มากกว่า 10 ปี และได้เลื่อนขั้น 2 ขั้น โดยวิเคราะห์ข้อมูลสำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ในภาพรวมอยู่ ระดับมาก โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ ด้านความภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ด้านความเชื่อมั่นและศรัทธาในนโยบายและเป้าหมายขององค์กร ด้านการได้รับและการยอมรับ ด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการ ตามลำดับ จะเห็นว่าความสุขในการทำงานเกิดจากพื้นฐานสำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27202 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000594505 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-39 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000594562 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-39 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. องค์ประกอบในการประสานงานที่มีผลต่อประสิทธิผลในการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ทำการปกครองอำเภอ จังหวัดสตูล / สายทิพย์ บุญวิโรจน์ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : องค์ประกอบในการประสานงานที่มีผลต่อประสิทธิผลในการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ทำการปกครองอำเภอ จังหวัดสตูล Original title : Liaison Elements Influencing on Work Effectiveness of District Administrative Officers in Satul Province Material Type: printed text Authors: สายทิพย์ บุญวิโรจน์, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: vii, 62 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-25
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การประสานงาน
[LCSH]ที่ทำการปกครองอำเภอสตูล
[LCSH]เจ้าหน้าที่ที่ทำการปกครองอำเภอ -- การทำงานKeywords: การประสานงาน,
ประสิทธิผลAbstract: วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้าอิสระในครั้งนี้เพื่อศึกษาระดับปัญหาขององค์ประกอบใน การประสานงานที่มีผลต่อประสิทธิผลในการทำงาน และหาแนวทางแก้ปัญหาในการประสานงานของเจ้าหน้าที่ที่ทำการปกครองอำเภอ จังหวัดสตูล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ เจ้าหน้าที่ที่ทำการปกครองอำเภอ จังหวัดสตูล จำนวน 7 อำเภอ จำนวนทั้งสิ้น 132 คน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้สถิติเชิงพรรณนาในการวิเคราะห์ข้อมูล
ผลการวิจัย พบว่า ในภาพรวมองค์ประกอบในการประสานงานมีอิทธิพลต่อประสิทธิผลในการทำงาน ของผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นทุกด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นองค์ประกอบพบว่า องค์ประกอบที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ นโยบายอยู่ในระดับมาก ด้านบุคคลอยู่ในระดับมาก ด้านการดำเนินงานอยู่ในระดับมาก ผู้ตอบแบบสอบถามให้ข้อเสนอแนะแนวทางการประสานงานที่มีผลต่อประสิทธิผลในการทำงาน พบว่า ควรให้ความสำคัญต่อนโยบายการดำเนินงาน และการประสานนโยบายการดำเนินงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านบุคคล ควรศึกษาการดำเนินงานให้เข้าใจและจัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงเป้าหมายของการดำเนินงาน จัดประชุมวางแผนการดำเนินงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และควรส่งหนังสือชี้แจงการดำเนินงานให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบก่อนเริ่มดำเนินงานCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26906 SIU IS-T. องค์ประกอบในการประสานงานที่มีผลต่อประสิทธิผลในการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ทำการปกครองอำเภอ จังหวัดสตูล = Liaison Elements Influencing on Work Effectiveness of District Administrative Officers in Satul Province [printed text] / สายทิพย์ บุญวิโรจน์, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - vii, 62 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-25
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การประสานงาน
[LCSH]ที่ทำการปกครองอำเภอสตูล
[LCSH]เจ้าหน้าที่ที่ทำการปกครองอำเภอ -- การทำงานKeywords: การประสานงาน,
ประสิทธิผลAbstract: วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้าอิสระในครั้งนี้เพื่อศึกษาระดับปัญหาขององค์ประกอบใน การประสานงานที่มีผลต่อประสิทธิผลในการทำงาน และหาแนวทางแก้ปัญหาในการประสานงานของเจ้าหน้าที่ที่ทำการปกครองอำเภอ จังหวัดสตูล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ เจ้าหน้าที่ที่ทำการปกครองอำเภอ จังหวัดสตูล จำนวน 7 อำเภอ จำนวนทั้งสิ้น 132 คน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้สถิติเชิงพรรณนาในการวิเคราะห์ข้อมูล
ผลการวิจัย พบว่า ในภาพรวมองค์ประกอบในการประสานงานมีอิทธิพลต่อประสิทธิผลในการทำงาน ของผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นทุกด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นองค์ประกอบพบว่า องค์ประกอบที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ นโยบายอยู่ในระดับมาก ด้านบุคคลอยู่ในระดับมาก ด้านการดำเนินงานอยู่ในระดับมาก ผู้ตอบแบบสอบถามให้ข้อเสนอแนะแนวทางการประสานงานที่มีผลต่อประสิทธิผลในการทำงาน พบว่า ควรให้ความสำคัญต่อนโยบายการดำเนินงาน และการประสานนโยบายการดำเนินงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านบุคคล ควรศึกษาการดำเนินงานให้เข้าใจและจัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงเป้าหมายของการดำเนินงาน จัดประชุมวางแผนการดำเนินงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และควรส่งหนังสือชี้แจงการดำเนินงานให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบก่อนเริ่มดำเนินงานCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26906 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000593937 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-25 c.1 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000593960 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-25 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available SIU IS-T. แนวทางการเสริมสร้างหลักธรรมาภิบาลด้านคุณธรรม ในการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย กรณีศึกษา “ข้าราชการตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม” / ยุทธนา เสือวิเชียร / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : แนวทางการเสริมสร้างหลักธรรมาภิบาลด้านคุณธรรม ในการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย กรณีศึกษา “ข้าราชการตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม” Original title : Approach to strengthen good governance in morality crackdown arrested offenders law. A case study "Police Division 5 Suppression Division." Material Type: printed text Authors: ยุทธนา เสือวิเชียร, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: viii, 57 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-02
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]กองกำกับการปราบปราม -- ข้าราชการตำรวจ -- การปฏิบัติงาน
[LCSH]ธรรมาภิบาลKeywords: หลักธรรมาภิบาล Abstract: การศึกษาเรื่อง ศึกษาแนวทางการเสริมสร้างหลักธรรมาภิบาลด้านคุณธรรมในการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย กรณีศึกษา “ข้าราชการตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม” ได้นำแนวทางตามหลักธรรมาภิบาลมาใช้บริหารงาน สรุปผลการวิเคราะห์ในด้านต่างๆตามแนวทางการเสริมสร้างหลักธรรมาภิบาล ด้านนิติธรรมควรพิจารณาออกคำสั่งต่างๆต้องยึดหลักความเสมอภาคมีการกำหนดขอบเขตอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติงานอย่างชัดเจนยึดถือสิทธิส่วนบุคคลเป็นเรื่องสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่มีการบังคับใช้กฏหมายกับประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกันสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนด้านคุณธรรมยึดหลักความเป็นธรรม ความเสมอภาคในการปฏิบัติงานและกล้ายืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง ทำงานด้วยความซื่อสัตรย์สุจริต ไม่มีผลประโยชน์ด้านการเงินที่ขัดแย้งกับการปฏิบัติหน้าที่มีคุณธรรมในการบริหารจัดการมีความขยันหมั่นเพียรในการปฏิบัติงานโดยคำนึงถึงผลประโยชน์สาธารณะไม่ควรมีระบบอุถัมภ์ภายในหน่วยงานด้านความโปร่งใสมีระบบการตรวจสอบภายในหน่วยงานที่เข้มแข็งมีการลงโทษอย่างจริงจัง หนักเบาตามเหตุและพฤติการณ์ของการกระทำผิดมีการเผยแพร่สื่อสาร และทำความเข้าใจในวิสัยทัศน์พันธกิจและเป้าหมายของหน่วยงานให้แก่ บุคลากรในหน่วยงานและสาธารณชนโดยทั่วไปควรมีการตรวจสอบการทำงานทุกเดือนด้านการมีส่วนร่วมควรให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในระดับวางแผนเปิดโอกาสให้ท่านเข้ามามีส่วนร่วมรับรู้การปฏิบัติงานมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในการทำงานด้านความรับผิดชอบควรทำงานที่รับผิดชอบให้เสร็จก่อนกำหนดเวลาเสมอควรมีความกระตือรือร้นในการแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงาน มีความพยายามแก้ปัญหานั้นๆ ให้สำเร็จมาทำงานตรงเวลาซึ่งเมื่อนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในระบบข้าราชการตำรวจจะช่วยเสริมสร้างและส่งเสริมให้มีศักยภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ ข้าราชการตำรวจต่างทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริตและขยันหมั่นเพียร ทำให้องค์กรมีผลงาน นอกจากนี้แล้วยังทำให้ข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้อง ศรัทธาและเชื่อั่นในองค์กรของตน ส่งผลให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น องค์กรที่โปร่งใส ย่อมได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ข้าราชการตำรวจที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ย่อมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน ตลอดจนส่งผลดีต่อเสถียรภาพและความเจริญก้าวหน้าของประเทศ Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26723 SIU IS-T. แนวทางการเสริมสร้างหลักธรรมาภิบาลด้านคุณธรรม ในการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย กรณีศึกษา “ข้าราชการตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม” = Approach to strengthen good governance in morality crackdown arrested offenders law. A case study "Police Division 5 Suppression Division." [printed text] / ยุทธนา เสือวิเชียร, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - viii, 57 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-02
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]กองกำกับการปราบปราม -- ข้าราชการตำรวจ -- การปฏิบัติงาน
[LCSH]ธรรมาภิบาลKeywords: หลักธรรมาภิบาล Abstract: การศึกษาเรื่อง ศึกษาแนวทางการเสริมสร้างหลักธรรมาภิบาลด้านคุณธรรมในการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย กรณีศึกษา “ข้าราชการตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม” ได้นำแนวทางตามหลักธรรมาภิบาลมาใช้บริหารงาน สรุปผลการวิเคราะห์ในด้านต่างๆตามแนวทางการเสริมสร้างหลักธรรมาภิบาล ด้านนิติธรรมควรพิจารณาออกคำสั่งต่างๆต้องยึดหลักความเสมอภาคมีการกำหนดขอบเขตอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติงานอย่างชัดเจนยึดถือสิทธิส่วนบุคคลเป็นเรื่องสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่มีการบังคับใช้กฏหมายกับประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกันสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนด้านคุณธรรมยึดหลักความเป็นธรรม ความเสมอภาคในการปฏิบัติงานและกล้ายืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง ทำงานด้วยความซื่อสัตรย์สุจริต ไม่มีผลประโยชน์ด้านการเงินที่ขัดแย้งกับการปฏิบัติหน้าที่มีคุณธรรมในการบริหารจัดการมีความขยันหมั่นเพียรในการปฏิบัติงานโดยคำนึงถึงผลประโยชน์สาธารณะไม่ควรมีระบบอุถัมภ์ภายในหน่วยงานด้านความโปร่งใสมีระบบการตรวจสอบภายในหน่วยงานที่เข้มแข็งมีการลงโทษอย่างจริงจัง หนักเบาตามเหตุและพฤติการณ์ของการกระทำผิดมีการเผยแพร่สื่อสาร และทำความเข้าใจในวิสัยทัศน์พันธกิจและเป้าหมายของหน่วยงานให้แก่ บุคลากรในหน่วยงานและสาธารณชนโดยทั่วไปควรมีการตรวจสอบการทำงานทุกเดือนด้านการมีส่วนร่วมควรให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในระดับวางแผนเปิดโอกาสให้ท่านเข้ามามีส่วนร่วมรับรู้การปฏิบัติงานมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในการทำงานด้านความรับผิดชอบควรทำงานที่รับผิดชอบให้เสร็จก่อนกำหนดเวลาเสมอควรมีความกระตือรือร้นในการแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงาน มีความพยายามแก้ปัญหานั้นๆ ให้สำเร็จมาทำงานตรงเวลาซึ่งเมื่อนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในระบบข้าราชการตำรวจจะช่วยเสริมสร้างและส่งเสริมให้มีศักยภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ ข้าราชการตำรวจต่างทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริตและขยันหมั่นเพียร ทำให้องค์กรมีผลงาน นอกจากนี้แล้วยังทำให้ข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้อง ศรัทธาและเชื่อั่นในองค์กรของตน ส่งผลให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น องค์กรที่โปร่งใส ย่อมได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ข้าราชการตำรวจที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ย่อมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน ตลอดจนส่งผลดีต่อเสถียรภาพและความเจริญก้าวหน้าของประเทศ Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26723 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000593291 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-02 c.1 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available SIU IS-T. แนวทางในการสร้างแรงจูงใจในการทำงานของข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด / สุนันทา สาภูงา / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : แนวทางในการสร้างแรงจูงใจในการทำงานของข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด Original title : Motivation Building Direction of Polices in Narcotics Suppression Police Bureau Material Type: printed text Authors: สุนันทา สาภูงา, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: viii, 73 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-34
Independent Study [MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด
[LCSH]การจูงใจในการทำงาน
[LCSH]ข้าราชการตำรวจKeywords: การทำงาน,
แรงจูงใจ,
ตำรวจAbstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเพื่อเปรียบเทียบระดับแรงจูงใจในการทำงานของข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ ข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จำนวน 310 คน ใช้สถิติ เช่น ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลและใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว One-Way ANOVA ในการทดสอบสมมติฐาน
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนมากมีอายุระหว่าง 31 ถึง 40 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี มีระดับตำแหน่งชั้นยศ ส.ต.ต. ถึง ส.ต.อ. มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,000 ถึง 20,000 บาท และมีอายุราชการระหว่าง 1 ถึง 10 ปี ผลการวิจัยพบว่า ข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด มีระดับแรงจูงในการทำงาน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านความรับผิดชอบ รองลงมา คือ ด้านความสำเร็จในการงาน ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติ ด้านความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และด้านการได้รับการยอมรับนับถือ ตามลำดับ ผลการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่าปัจจัยส่วนบุคคลกับแรงจูงใจในการทำงาน พบว่า ข้าราชการตำรวจที่มีอายุ ระดับการศึกษา ระดับตำแหน่งชั้นยศ รายได้ และอายุราชการ แตกต่างกัน มีแรงจูงใจในการทำงาน ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดไม่แตกต่างกันCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27271 SIU IS-T. แนวทางในการสร้างแรงจูงใจในการทำงานของข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด = Motivation Building Direction of Polices in Narcotics Suppression Police Bureau [printed text] / สุนันทา สาภูงา, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - viii, 73 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-34
Independent Study [MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด
[LCSH]การจูงใจในการทำงาน
[LCSH]ข้าราชการตำรวจKeywords: การทำงาน,
แรงจูงใจ,
ตำรวจAbstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเพื่อเปรียบเทียบระดับแรงจูงใจในการทำงานของข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ ข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จำนวน 310 คน ใช้สถิติ เช่น ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลและใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว One-Way ANOVA ในการทดสอบสมมติฐาน
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนมากมีอายุระหว่าง 31 ถึง 40 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี มีระดับตำแหน่งชั้นยศ ส.ต.ต. ถึง ส.ต.อ. มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,000 ถึง 20,000 บาท และมีอายุราชการระหว่าง 1 ถึง 10 ปี ผลการวิจัยพบว่า ข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด มีระดับแรงจูงในการทำงาน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านความรับผิดชอบ รองลงมา คือ ด้านความสำเร็จในการงาน ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติ ด้านความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และด้านการได้รับการยอมรับนับถือ ตามลำดับ ผลการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่าปัจจัยส่วนบุคคลกับแรงจูงใจในการทำงาน พบว่า ข้าราชการตำรวจที่มีอายุ ระดับการศึกษา ระดับตำแหน่งชั้นยศ รายได้ และอายุราชการ แตกต่างกัน มีแรงจูงใจในการทำงาน ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดไม่แตกต่างกันCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27271 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000594950 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-34 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000594968 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-34 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. แผนบูรณาการเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ในช่วง พ.ศ. 2555–2559 / บุษบา ไชยสลี / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : แผนบูรณาการเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ในช่วง พ.ศ. 2555–2559 Original title : Road Safety Directing Center’s Integration Plan for Road Accidental Prevention and Reduction during Songkran Festival 2012-2016 Material Type: printed text Authors: บุษบา ไชยสลี, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: viii, 69 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-15
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ถนน -- การบำรุงรักษาและการซ่อมแซม
[LCSH]ถนน -- มาตรการความปลอดภัย
[LCSH]ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนKeywords: อุบัติเหตุ,
แผนบูรณาการ,
ความปลอดภัยทางถนนAbstract: การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพและสาเหตุของปัญหาการเกิดอุบัติเหตุ หรือการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน จากการใช้มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตามแผนบูรณาการเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ในช่วง พ.ศ.2555–2559 และเพื่อนำผลการศึกษาเสนอผู้บังคับบัญชาเป็นแนวทางปรับปรุง และข้อเสนอแนะ มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตามแผนบูรณาการเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ในโอกาสต่อไป
กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาครั้งนี้ คือ ข้าราชการตำรวจกองแผนงานกิจการพิเศษ สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ จำนวน 60 คน จากประชากรที่เป็นข้าราชการตำรวจกองแผนงานกิจการพิเศษ สำนักงานยุทธศาสตร์ ทั้งหมด 68 คน เป็นการศึกษาเชิงปริมาณ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ โปรแกรมสำเร็จรูปทางคอมพิวเตอร์โดยใช้ค่าร้อยละ (Percentage), ค่าเฉลี่ย (Mean) และ ค่าเฉลี่ยเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) โดยให้แทนค่าเฉลี่ยและ sd แทนค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
โดยสรุป ผลการวิเคราะห์ปัจจัยส่วนบุคคลพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด จำนวน 60 คน ส่วนมากเป็นเพศหญิง มีอายุ 41-50 ปี ระดับชั้นยศ พ.ต.ต.-พ.ต.อ. รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001 บาทขึ้นไป ระดับการศึกษาปริญญาตรี และมีอายุราชการ 16 ปีขึ้นไป กล่าวโดยสรุป ผลการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า ความคิดเห็นของข้าราชการตำรวจ กองแผนงานกิจการพิเศษ สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ ที่มีต่อสาเหตุของปัญหาการเกิดอุบัติเหตุ หรือการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน จากการใช้มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตามแผนบูรณาการเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ในช่วง พ.ศ.2555-2559 เมื่อพิจารณาแต่ละปัจจัย พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า มาตรการด้านการบังคับใช้กฎหมาย ด้านพฤติกรรมเสี่ยงขับรถเร็ว, ด้านพฤติกรรมเสี่ยงไม่สวมหมวกนิรภัย อยู่ในระดับมากที่สุดตามลำดับ และด้านพฤติกรรมเสี่ยงเมาสุรา มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26904 SIU IS-T. แผนบูรณาการเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ในช่วง พ.ศ. 2555–2559 = Road Safety Directing Center’s Integration Plan for Road Accidental Prevention and Reduction during Songkran Festival 2012-2016 [printed text] / บุษบา ไชยสลี, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - viii, 69 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-15
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ถนน -- การบำรุงรักษาและการซ่อมแซม
[LCSH]ถนน -- มาตรการความปลอดภัย
[LCSH]ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนKeywords: อุบัติเหตุ,
แผนบูรณาการ,
ความปลอดภัยทางถนนAbstract: การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพและสาเหตุของปัญหาการเกิดอุบัติเหตุ หรือการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน จากการใช้มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตามแผนบูรณาการเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ในช่วง พ.ศ.2555–2559 และเพื่อนำผลการศึกษาเสนอผู้บังคับบัญชาเป็นแนวทางปรับปรุง และข้อเสนอแนะ มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตามแผนบูรณาการเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ในโอกาสต่อไป
กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาครั้งนี้ คือ ข้าราชการตำรวจกองแผนงานกิจการพิเศษ สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ จำนวน 60 คน จากประชากรที่เป็นข้าราชการตำรวจกองแผนงานกิจการพิเศษ สำนักงานยุทธศาสตร์ ทั้งหมด 68 คน เป็นการศึกษาเชิงปริมาณ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ โปรแกรมสำเร็จรูปทางคอมพิวเตอร์โดยใช้ค่าร้อยละ (Percentage), ค่าเฉลี่ย (Mean) และ ค่าเฉลี่ยเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) โดยให้แทนค่าเฉลี่ยและ sd แทนค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
โดยสรุป ผลการวิเคราะห์ปัจจัยส่วนบุคคลพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด จำนวน 60 คน ส่วนมากเป็นเพศหญิง มีอายุ 41-50 ปี ระดับชั้นยศ พ.ต.ต.-พ.ต.อ. รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001 บาทขึ้นไป ระดับการศึกษาปริญญาตรี และมีอายุราชการ 16 ปีขึ้นไป กล่าวโดยสรุป ผลการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า ความคิดเห็นของข้าราชการตำรวจ กองแผนงานกิจการพิเศษ สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ ที่มีต่อสาเหตุของปัญหาการเกิดอุบัติเหตุ หรือการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน จากการใช้มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตามแผนบูรณาการเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ในช่วง พ.ศ.2555-2559 เมื่อพิจารณาแต่ละปัจจัย พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า มาตรการด้านการบังคับใช้กฎหมาย ด้านพฤติกรรมเสี่ยงขับรถเร็ว, ด้านพฤติกรรมเสี่ยงไม่สวมหมวกนิรภัย อยู่ในระดับมากที่สุดตามลำดับ และด้านพฤติกรรมเสี่ยงเมาสุรา มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26904 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000593911 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-15 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000593945 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-15 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจงานสายตรวจ 4 (รถนำขบวน) กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร / เรืองฤทธิ์ โล่ห์คำ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2014
Collection Title: SIU IS-T Title : แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจงานสายตรวจ 4 (รถนำขบวน) กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร Original title : Work Motivation for Police Patrol Officers 4 (Vehicle Convoy), Division 1, Traffic Police Division Material Type: printed text Authors: เรืองฤทธิ์ โล่ห์คำ, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2014 Pagination: ix, 87 หน้า Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-07
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2014.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ข้าราชการ -- การปฏิบัติงาน
[LCSH]ตำรวจ -- ไทย
[LCSH]แรงจูงใจในการทำงาน -- ไทยKeywords: แรงจูงใจในการปฏิบัติงาน
การทำงานเป็นทีม
ข้าราชการตำรวจงานสายตรวจ 4 (รถนำขบวน) กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจรAbstract: การที่คนเราจะเกิดความพึงพอใจในการปฏิบัติงานได้จะต้องมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานดังนั้นแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรในองค์การมีผลต่อความสำเร็จของงานและองค์การงานสายตรวจ 4 กก.1 บก.จร. เป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัด กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีภารกิจหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับการประสานงานสนับสนุนและดำเนินการเกี่ยวกับงานอำนวยการจราจรในการนำขบวนเพื่อถวายความปลอดภัยและรักษาความปลอดภัยขบวนบุคคลสำคัญ ตลอดจนอำนวยการนำขบวนในงานกิจการพิเศษต่างๆ วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานและการทำงานเป็นทีมของข้าราชการตำรวจงานสายตรวจ 4 (รถนำขบวน) กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร Curricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26082 SIU IS-T. แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจงานสายตรวจ 4 (รถนำขบวน) กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร = Work Motivation for Police Patrol Officers 4 (Vehicle Convoy), Division 1, Traffic Police Division [printed text] / เรืองฤทธิ์ โล่ห์คำ, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2014 . - ix, 87 หน้า : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-07
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2014.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ข้าราชการ -- การปฏิบัติงาน
[LCSH]ตำรวจ -- ไทย
[LCSH]แรงจูงใจในการทำงาน -- ไทยKeywords: แรงจูงใจในการปฏิบัติงาน
การทำงานเป็นทีม
ข้าราชการตำรวจงานสายตรวจ 4 (รถนำขบวน) กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจรAbstract: การที่คนเราจะเกิดความพึงพอใจในการปฏิบัติงานได้จะต้องมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานดังนั้นแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรในองค์การมีผลต่อความสำเร็จของงานและองค์การงานสายตรวจ 4 กก.1 บก.จร. เป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัด กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีภารกิจหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับการประสานงานสนับสนุนและดำเนินการเกี่ยวกับงานอำนวยการจราจรในการนำขบวนเพื่อถวายความปลอดภัยและรักษาความปลอดภัยขบวนบุคคลสำคัญ ตลอดจนอำนวยการนำขบวนในงานกิจการพิเศษต่างๆ วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานและการทำงานเป็นทีมของข้าราชการตำรวจงานสายตรวจ 4 (รถนำขบวน) กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร Curricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26082 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000506905 SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-07 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000506848 SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-07 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available 32002000591469 SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-07 c.3 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี / ณรงค์ หาญสันเทียะ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2016
Collection Title: SIU IS-T Title : แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี Original title : Motivation in work of police officers in Children and Women Protection Sub-Division Material Type: printed text Authors: ณรงค์ หาญสันเทียะ, Author ; สมชาย รัตนโกมุท, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2016 Pagination: vii, 57 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-09
IS [MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]กองกำก้บการสวัสดิภาพเด็กและสตรี -- ข้าราชการตำรวจ
[LCSH]การจูงใจในการทำงาน
[LCSH]ข้าราชการตำรวจKeywords: แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่
ข้าราชการตำรวจ
กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรีAbstract: การศึกษาเรื่องแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรีและเพื่อนำผลการศึกษาเสนอผู้บังคับบัญชาเป็นแนวทางในการเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรีให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ประชากรที่ใช้ศึกษาครั้งนี้ คือ ข้าราชการตำรวจข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี จำนวน 190 นาย เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือแบบสอบถาม ผู้ศึกษาได้ทำการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางคอมพิวเตอร์โดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนมากมีอายุ 31-40 ปี มีระดับการศึกษาปริญญาตรี มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 15,001 – 20,000 บาท มีระดับชั้นยศสิบตำรวจเอก-สิบตำรวจตรี มีอายุราชการ 11 – 15 ปี ตามลำดับ แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี โดยภาพรวมในระดับมาก เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีความพึงพอใจอันดับที่หนึ่ง คือ ด้านลักษณะของงาน อันดับที่สอง คือ ด้านการได้รับการยอมรับ อันดับที่สาม คือ ด้านความก้าวหน้าในงาน อันดับที่สี่ คือ ด้านสภาพแวดล้อมในการทำงาน และอันดับสุดท้าย คือ ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานตามลำดับ ตามลำดับ
Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26499 SIU IS-T. แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี = Motivation in work of police officers in Children and Women Protection Sub-Division [printed text] / ณรงค์ หาญสันเทียะ, Author ; สมชาย รัตนโกมุท, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016 . - vii, 57 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-09
IS [MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]กองกำก้บการสวัสดิภาพเด็กและสตรี -- ข้าราชการตำรวจ
[LCSH]การจูงใจในการทำงาน
[LCSH]ข้าราชการตำรวจKeywords: แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่
ข้าราชการตำรวจ
กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรีAbstract: การศึกษาเรื่องแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรีและเพื่อนำผลการศึกษาเสนอผู้บังคับบัญชาเป็นแนวทางในการเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรีให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ประชากรที่ใช้ศึกษาครั้งนี้ คือ ข้าราชการตำรวจข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี จำนวน 190 นาย เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือแบบสอบถาม ผู้ศึกษาได้ทำการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางคอมพิวเตอร์โดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนมากมีอายุ 31-40 ปี มีระดับการศึกษาปริญญาตรี มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 15,001 – 20,000 บาท มีระดับชั้นยศสิบตำรวจเอก-สิบตำรวจตรี มีอายุราชการ 11 – 15 ปี ตามลำดับ แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี โดยภาพรวมในระดับมาก เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีความพึงพอใจอันดับที่หนึ่ง คือ ด้านลักษณะของงาน อันดับที่สอง คือ ด้านการได้รับการยอมรับ อันดับที่สาม คือ ด้านความก้าวหน้าในงาน อันดับที่สี่ คือ ด้านสภาพแวดล้อมในการทำงาน และอันดับสุดท้าย คือ ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานตามลำดับ ตามลำดับ
Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26499 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000591642 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-09 c.1 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000591634 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-09 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available