From this page you can:
Home |
Search results
5 result(s) search for keyword(s) 'หลักธรรมาภิบาล'
Add the result to your basket Refine your search Apply to external sources Make a suggestion
SIU IS-T. การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไทย ในทัศนะของข้าราชการส่วนท้องถิ่น กรณีศึกษา ข้าราชการส่วนท้องถิ่นที่เข้าฝึกอบรม ณ สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น / ณัฐชนน เหลืองสมานกุล / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2016
Collection Title: SIU IS-T Title : การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไทย ในทัศนะของข้าราชการส่วนท้องถิ่น กรณีศึกษา ข้าราชการส่วนท้องถิ่นที่เข้าฝึกอบรม ณ สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น Original title : Good Governance of Local Governments in Thailand : Local Officials’ Perspectives Case Study; Local Officials Training at Local Personnel Development Institution Material Type: printed text Authors: ณัฐชนน เหลืองสมานกุล, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2016 Pagination: ix, 79 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-23
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ข้าราชการ -- ทัศนคติ
[LCSH]ธรรมาภิบาล
[LCSH]องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น -- ไทยKeywords: หลักธรรมาภิบาล
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นAbstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นการใช้หลักธรรมาภิบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไทย เปรียบเทียบการใช้หลักธรรมาภิบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในทัศนะของข้าราชการส่วนท้องถิ่นไทย และเสนอแนะแนวทางส่งเสริมการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไทย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ ข้าราชการที่ปฏิบัติงานอยู่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไทย ที่เข้ารับการอบรมกับสถาบันพัฒนาบุคลากรส่วนท้องถิ่น จำนวน 200 คน Curricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26544 SIU IS-T. การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไทย ในทัศนะของข้าราชการส่วนท้องถิ่น กรณีศึกษา ข้าราชการส่วนท้องถิ่นที่เข้าฝึกอบรม ณ สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น = Good Governance of Local Governments in Thailand : Local Officials’ Perspectives Case Study; Local Officials Training at Local Personnel Development Institution [printed text] / ณัฐชนน เหลืองสมานกุล, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016 . - ix, 79 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-23
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ข้าราชการ -- ทัศนคติ
[LCSH]ธรรมาภิบาล
[LCSH]องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น -- ไทยKeywords: หลักธรรมาภิบาล
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นAbstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นการใช้หลักธรรมาภิบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไทย เปรียบเทียบการใช้หลักธรรมาภิบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในทัศนะของข้าราชการส่วนท้องถิ่นไทย และเสนอแนะแนวทางส่งเสริมการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไทย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ ข้าราชการที่ปฏิบัติงานอยู่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไทย ที่เข้ารับการอบรมกับสถาบันพัฒนาบุคลากรส่วนท้องถิ่น จำนวน 200 คน Curricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26544 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000591840 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-23 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available 32002000591816 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-23 c.2 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU THE-T. แนวทางการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต / วิภาวรรณ หอมหวลดี / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2020
Collection Title: SIU THE-T Title : แนวทางการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต Original title : Guidelines for School Administration according to Good Governance Principles under Phuket Primary Educational Service Area Office, Phuket Province Material Type: printed text Authors: วิภาวรรณ หอมหวลดี, Author ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name ; ไชยวัฒน์ ค้ำชู, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2020 Pagination: x, 161 น. Layout: ตาราง, ภาพประกอบ Size: 30 ซม. Price: 500.00 บาท General note: SIU THE-T: IPAG-DPA-2020-02
Thesis. [DPA [รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต.ปร.ด]] มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2020Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ธรรมาภิบาล
[LCSH]สถานศึกษา -- ภูเก็ต -- การศึกษาขั้นประถมKeywords: หลักธรรมาภิบาล, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาแนวทางการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษากับแนวทางการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต และ 3) ศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
การวิจัยเป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed-Method Research) ระหว่างการวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ โดยผู้วิจัยได้อาศัยวิธีดำเนินการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้การวิจัยภาคสนามจากการสัมภาษณ์เชิงลึก จาก 3 อำเภอของจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอถลาง อำเภอกะทู้ รวมจำนวน 30 คน ประกอบกับการวิจัยเชิงปริมาณ ประชากร และกลุ่มตัวอย่างข้าราชการครูในเขตพื้นที่ศึกษา จำนวนทั้งสิ้น 269 คน จากจำนวนข้าราชการครู 866 คน โดยการใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือ สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson product-moment correlation coefficient) ควบคู่กับการสำรวจข้อมูลจากการศึกษาค้นคว้าทางเอกสาร
ผลการวิจัยพบว่า
1) แนวทางการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมาก (x̄ =3.99, S.D=0.90)
2) ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษากับแนวทางการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เมื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์โดยใช้การวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ พบว่า การบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษามีความสัมพันธ์กับแนวทางการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต โดยมีค่า r=0.865 (p<0.01) ซึ่งแสดงว่ามีความสัมพันธ์กันในระดับสูงอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
3) ปัญหาและอุปสรรคในการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต พบว่า ส่วนใหญ่ประสบปัญหาด้านการปรับปรุง รวบรวมข้อมูลสารสนเทศของสถานศึกษาอย่างเป็นปัจจุบัน ร้อยละ 25.3 รองลงมาคือ ด้านผู้บริหารสถานศึกษาไม่มีการรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ในการตัดสินใจแก้ปัญหาสำคัญร่วมกันจากบุคคลทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา ร้อยละ 17.8 ซึ่งข้อมูลและข้อค้นพบที่ได้จากการศึกษาจะนำไปใช้เป็นแนวทางสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาและผู้เกี่ยวข้องทุกระดับที่รับผิดชอบในการจัดการศึกษานำหลักธรรมาภิบาลไปใช้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไปCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=28042 SIU THE-T. แนวทางการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต = Guidelines for School Administration according to Good Governance Principles under Phuket Primary Educational Service Area Office, Phuket Province [printed text] / วิภาวรรณ หอมหวลดี, Author ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name ; ไชยวัฒน์ ค้ำชู, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2020 . - x, 161 น. : ตาราง, ภาพประกอบ ; 30 ซม.
500.00 บาท
SIU THE-T: IPAG-DPA-2020-02
Thesis. [DPA [รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต.ปร.ด]] มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2020
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ธรรมาภิบาล
[LCSH]สถานศึกษา -- ภูเก็ต -- การศึกษาขั้นประถมKeywords: หลักธรรมาภิบาล, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาแนวทางการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษากับแนวทางการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต และ 3) ศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
การวิจัยเป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed-Method Research) ระหว่างการวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ โดยผู้วิจัยได้อาศัยวิธีดำเนินการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้การวิจัยภาคสนามจากการสัมภาษณ์เชิงลึก จาก 3 อำเภอของจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอถลาง อำเภอกะทู้ รวมจำนวน 30 คน ประกอบกับการวิจัยเชิงปริมาณ ประชากร และกลุ่มตัวอย่างข้าราชการครูในเขตพื้นที่ศึกษา จำนวนทั้งสิ้น 269 คน จากจำนวนข้าราชการครู 866 คน โดยการใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือ สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson product-moment correlation coefficient) ควบคู่กับการสำรวจข้อมูลจากการศึกษาค้นคว้าทางเอกสาร
ผลการวิจัยพบว่า
1) แนวทางการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมาก (x̄ =3.99, S.D=0.90)
2) ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษากับแนวทางการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เมื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์โดยใช้การวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ พบว่า การบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษามีความสัมพันธ์กับแนวทางการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต โดยมีค่า r=0.865 (p<0.01) ซึ่งแสดงว่ามีความสัมพันธ์กันในระดับสูงอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
3) ปัญหาและอุปสรรคในการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต พบว่า ส่วนใหญ่ประสบปัญหาด้านการปรับปรุง รวบรวมข้อมูลสารสนเทศของสถานศึกษาอย่างเป็นปัจจุบัน ร้อยละ 25.3 รองลงมาคือ ด้านผู้บริหารสถานศึกษาไม่มีการรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ในการตัดสินใจแก้ปัญหาสำคัญร่วมกันจากบุคคลทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา ร้อยละ 17.8 ซึ่งข้อมูลและข้อค้นพบที่ได้จากการศึกษาจะนำไปใช้เป็นแนวทางสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาและผู้เกี่ยวข้องทุกระดับที่รับผิดชอบในการจัดการศึกษานำหลักธรรมาภิบาลไปใช้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไปCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=28042 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000607389 SIU THE-T: IPAG-DPA-2020-02 c.1 SIU Thesis and Dissertation Main Library Thesis Corner Available 32002000607391 SIU THE-T: IPAG-DPA-2020-02 c.2 SIU Thesis and Dissertation Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. แนวทางการเสริมสร้างหลักธรรมาภิบาลด้านคุณธรรม ในการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย กรณีศึกษา “ข้าราชการตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม” / ยุทธนา เสือวิเชียร / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : แนวทางการเสริมสร้างหลักธรรมาภิบาลด้านคุณธรรม ในการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย กรณีศึกษา “ข้าราชการตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม” Original title : Approach to strengthen good governance in morality crackdown arrested offenders law. A case study "Police Division 5 Suppression Division." Material Type: printed text Authors: ยุทธนา เสือวิเชียร, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: viii, 57 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-02
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]กองกำกับการปราบปราม -- ข้าราชการตำรวจ -- การปฏิบัติงาน
[LCSH]ธรรมาภิบาลKeywords: หลักธรรมาภิบาล Abstract: การศึกษาเรื่อง ศึกษาแนวทางการเสริมสร้างหลักธรรมาภิบาลด้านคุณธรรมในการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย กรณีศึกษา “ข้าราชการตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม” ได้นำแนวทางตามหลักธรรมาภิบาลมาใช้บริหารงาน สรุปผลการวิเคราะห์ในด้านต่างๆตามแนวทางการเสริมสร้างหลักธรรมาภิบาล ด้านนิติธรรมควรพิจารณาออกคำสั่งต่างๆต้องยึดหลักความเสมอภาคมีการกำหนดขอบเขตอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติงานอย่างชัดเจนยึดถือสิทธิส่วนบุคคลเป็นเรื่องสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่มีการบังคับใช้กฏหมายกับประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกันสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนด้านคุณธรรมยึดหลักความเป็นธรรม ความเสมอภาคในการปฏิบัติงานและกล้ายืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง ทำงานด้วยความซื่อสัตรย์สุจริต ไม่มีผลประโยชน์ด้านการเงินที่ขัดแย้งกับการปฏิบัติหน้าที่มีคุณธรรมในการบริหารจัดการมีความขยันหมั่นเพียรในการปฏิบัติงานโดยคำนึงถึงผลประโยชน์สาธารณะไม่ควรมีระบบอุถัมภ์ภายในหน่วยงานด้านความโปร่งใสมีระบบการตรวจสอบภายในหน่วยงานที่เข้มแข็งมีการลงโทษอย่างจริงจัง หนักเบาตามเหตุและพฤติการณ์ของการกระทำผิดมีการเผยแพร่สื่อสาร และทำความเข้าใจในวิสัยทัศน์พันธกิจและเป้าหมายของหน่วยงานให้แก่ บุคลากรในหน่วยงานและสาธารณชนโดยทั่วไปควรมีการตรวจสอบการทำงานทุกเดือนด้านการมีส่วนร่วมควรให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในระดับวางแผนเปิดโอกาสให้ท่านเข้ามามีส่วนร่วมรับรู้การปฏิบัติงานมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในการทำงานด้านความรับผิดชอบควรทำงานที่รับผิดชอบให้เสร็จก่อนกำหนดเวลาเสมอควรมีความกระตือรือร้นในการแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงาน มีความพยายามแก้ปัญหานั้นๆ ให้สำเร็จมาทำงานตรงเวลาซึ่งเมื่อนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในระบบข้าราชการตำรวจจะช่วยเสริมสร้างและส่งเสริมให้มีศักยภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ ข้าราชการตำรวจต่างทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริตและขยันหมั่นเพียร ทำให้องค์กรมีผลงาน นอกจากนี้แล้วยังทำให้ข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้อง ศรัทธาและเชื่อั่นในองค์กรของตน ส่งผลให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น องค์กรที่โปร่งใส ย่อมได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ข้าราชการตำรวจที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ย่อมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน ตลอดจนส่งผลดีต่อเสถียรภาพและความเจริญก้าวหน้าของประเทศ Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26723 SIU IS-T. แนวทางการเสริมสร้างหลักธรรมาภิบาลด้านคุณธรรม ในการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย กรณีศึกษา “ข้าราชการตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม” = Approach to strengthen good governance in morality crackdown arrested offenders law. A case study "Police Division 5 Suppression Division." [printed text] / ยุทธนา เสือวิเชียร, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - viii, 57 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-02
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]กองกำกับการปราบปราม -- ข้าราชการตำรวจ -- การปฏิบัติงาน
[LCSH]ธรรมาภิบาลKeywords: หลักธรรมาภิบาล Abstract: การศึกษาเรื่อง ศึกษาแนวทางการเสริมสร้างหลักธรรมาภิบาลด้านคุณธรรมในการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย กรณีศึกษา “ข้าราชการตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม” ได้นำแนวทางตามหลักธรรมาภิบาลมาใช้บริหารงาน สรุปผลการวิเคราะห์ในด้านต่างๆตามแนวทางการเสริมสร้างหลักธรรมาภิบาล ด้านนิติธรรมควรพิจารณาออกคำสั่งต่างๆต้องยึดหลักความเสมอภาคมีการกำหนดขอบเขตอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติงานอย่างชัดเจนยึดถือสิทธิส่วนบุคคลเป็นเรื่องสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่มีการบังคับใช้กฏหมายกับประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกันสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนด้านคุณธรรมยึดหลักความเป็นธรรม ความเสมอภาคในการปฏิบัติงานและกล้ายืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง ทำงานด้วยความซื่อสัตรย์สุจริต ไม่มีผลประโยชน์ด้านการเงินที่ขัดแย้งกับการปฏิบัติหน้าที่มีคุณธรรมในการบริหารจัดการมีความขยันหมั่นเพียรในการปฏิบัติงานโดยคำนึงถึงผลประโยชน์สาธารณะไม่ควรมีระบบอุถัมภ์ภายในหน่วยงานด้านความโปร่งใสมีระบบการตรวจสอบภายในหน่วยงานที่เข้มแข็งมีการลงโทษอย่างจริงจัง หนักเบาตามเหตุและพฤติการณ์ของการกระทำผิดมีการเผยแพร่สื่อสาร และทำความเข้าใจในวิสัยทัศน์พันธกิจและเป้าหมายของหน่วยงานให้แก่ บุคลากรในหน่วยงานและสาธารณชนโดยทั่วไปควรมีการตรวจสอบการทำงานทุกเดือนด้านการมีส่วนร่วมควรให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในระดับวางแผนเปิดโอกาสให้ท่านเข้ามามีส่วนร่วมรับรู้การปฏิบัติงานมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในการทำงานด้านความรับผิดชอบควรทำงานที่รับผิดชอบให้เสร็จก่อนกำหนดเวลาเสมอควรมีความกระตือรือร้นในการแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงาน มีความพยายามแก้ปัญหานั้นๆ ให้สำเร็จมาทำงานตรงเวลาซึ่งเมื่อนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในระบบข้าราชการตำรวจจะช่วยเสริมสร้างและส่งเสริมให้มีศักยภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ ข้าราชการตำรวจต่างทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริตและขยันหมั่นเพียร ทำให้องค์กรมีผลงาน นอกจากนี้แล้วยังทำให้ข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้อง ศรัทธาและเชื่อั่นในองค์กรของตน ส่งผลให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น องค์กรที่โปร่งใส ย่อมได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ข้าราชการตำรวจที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ย่อมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน ตลอดจนส่งผลดีต่อเสถียรภาพและความเจริญก้าวหน้าของประเทศ Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26723 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000593291 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-02 c.1 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available SIU THE-T. การปฏิรูปตำรวจ: การปรับปรุงองค์การและการบริหารจัดการ / สุวรรณ สุวรรณเวโช / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU THE-T Title : การปฏิรูปตำรวจ: การปรับปรุงองค์การและการบริหารจัดการ Original title : Police Reform: Organizational Improvement and Management Material Type: printed text Authors: สุวรรณ สุวรรณเวโช, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; วิไลพร เลาหโกศล, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: vii, 213 Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: Non - Circulating
SIU THE-T: SOM-DBA-2017-06
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2560Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การบริหารจัดการ
[LCSH]ตำรวจ -- การปรับปรุงโครงสร้างองค์กร
[LCSH]โครงสร้างองค์กรKeywords: โครงสร้างองค์กร,
ส่วนประสมการตลาดบริการ,
สภาพแวดล้อมภายนอก,
สภาพแวดล้อมเกี่ยวกับงาน,
หลักธรรมาภิบาลAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบโครงสร้างองค์กร ส่วนประสมการ
ตลาดบริการ (7P’s) สภาพแวดล้อมภายนอกทั่วไป สภาพแวดล้อมเกี่ยวกับงาน และหลักธรรมาภิบาลที่ก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานการปฏิรูปตำรวจ 2) เพื่อสร้างแนวทางการปฏิรูปตำรวจด้วยการปรับปรุงและการบริหารจัดการองค์การตำรวจสมัยใหม่ ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาคือ ผู้บังคับบัญชาตำรวจและผู้มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายตำรวจทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น เก็บรวบรวมข้อมูลจากการวิเคราะห์ข้อมูลทุติยภูมิ การวิเคราะห์เชิงประวัติ การสัมภาษณ์เชิงลึก และการสนทนากลุ่ม โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) ผลการวิจัย พบว่า 1) องค์ประกอบโครงสร้างองค์กร ได้แก่ การแบ่งงานกันทำตามความชำนาญ สายการบังคับบัญชา การกระจายอำนาจ และความเป็นทางการ 2) ส่วนประสมการตลาดบริการ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ด้านบริการ ราคา สถานที่ การส่งเสริมทางการตลาด กระบวนการ บุคลากร และสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ 3) สภาพแวดล้อมภายนอกทั่วไป ได้แก่ ด้านการเมือง และด้านเทคโนโลยี 4) สภาพแวดล้อมเกี่ยวกับงาน ได้แก่ กลุ่มประชาชน กลุ่มผู้บังคับบัญชาตำรวจ และกลุ่มรัฐบาล
5) หลักธรรมาภิบาล มีความสำคัญต่อผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานการปฏิรูปตำรวจCurricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27264 SIU THE-T. การปฏิรูปตำรวจ: การปรับปรุงองค์การและการบริหารจัดการ = Police Reform: Organizational Improvement and Management [printed text] / สุวรรณ สุวรรณเวโช, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; วิไลพร เลาหโกศล, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - vii, 213 : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
Non - Circulating
SIU THE-T: SOM-DBA-2017-06
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2560
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การบริหารจัดการ
[LCSH]ตำรวจ -- การปรับปรุงโครงสร้างองค์กร
[LCSH]โครงสร้างองค์กรKeywords: โครงสร้างองค์กร,
ส่วนประสมการตลาดบริการ,
สภาพแวดล้อมภายนอก,
สภาพแวดล้อมเกี่ยวกับงาน,
หลักธรรมาภิบาลAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบโครงสร้างองค์กร ส่วนประสมการ
ตลาดบริการ (7P’s) สภาพแวดล้อมภายนอกทั่วไป สภาพแวดล้อมเกี่ยวกับงาน และหลักธรรมาภิบาลที่ก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานการปฏิรูปตำรวจ 2) เพื่อสร้างแนวทางการปฏิรูปตำรวจด้วยการปรับปรุงและการบริหารจัดการองค์การตำรวจสมัยใหม่ ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาคือ ผู้บังคับบัญชาตำรวจและผู้มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายตำรวจทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น เก็บรวบรวมข้อมูลจากการวิเคราะห์ข้อมูลทุติยภูมิ การวิเคราะห์เชิงประวัติ การสัมภาษณ์เชิงลึก และการสนทนากลุ่ม โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) ผลการวิจัย พบว่า 1) องค์ประกอบโครงสร้างองค์กร ได้แก่ การแบ่งงานกันทำตามความชำนาญ สายการบังคับบัญชา การกระจายอำนาจ และความเป็นทางการ 2) ส่วนประสมการตลาดบริการ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ด้านบริการ ราคา สถานที่ การส่งเสริมทางการตลาด กระบวนการ บุคลากร และสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ 3) สภาพแวดล้อมภายนอกทั่วไป ได้แก่ ด้านการเมือง และด้านเทคโนโลยี 4) สภาพแวดล้อมเกี่ยวกับงาน ได้แก่ กลุ่มประชาชน กลุ่มผู้บังคับบัญชาตำรวจ และกลุ่มรัฐบาล
5) หลักธรรมาภิบาล มีความสำคัญต่อผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานการปฏิรูปตำรวจCurricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27264 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000594844 SIU THE-T: SOM-DBA-2017-06 c.1 Thesis Graduate Library Thesis Corner Available 32002000594836 SIU THE-T: SOM-DBA-2017-06 c.2 Thesis Graduate Library Thesis Corner Available SIU IS-T. การศึกษาการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตระเวนชายแดน จำกัด / จันทนา ฝ่ายกระโทก / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : การศึกษาการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตระเวนชายแดน จำกัด Original title : The Study of Management with Good Governance in the Cooperative Border Patrol Police Limited Material Type: printed text Authors: จันทนา ฝ่ายกระโทก, Author ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: ix, 99 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-01
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การบริหารงาน
[LCSH]ธรรมาภิบาล
[LCSH]สหกรณ์ออมทรัพย์Keywords: การบริหารงาน,
หลักธรรมาภิบาล,
สหกรณ์ออมทรัพย์Abstract: การศึกษาครั้งนี้เพื่อศึกษาสภาพการบริหารงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตระเวนชายแดน จำกัด ที่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล และเพื่อศึกษาเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการบริหารงานให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล เลือกกลุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย เป็นข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดนที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตระเวนชายแดน จำกัด จำนวน 300 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวมรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับสถานภาพส่วนบุคคล สิ่งสนับสนุนการบริหารงานเพื่อให้การบริหารงานเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และทำการทดสอบรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ ที่ระดับ .05 โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จำนวน 215 คน คิดเป็นร้อยละ 71.70 โดยมีอายุระหว่าง 41 – 50 ปี คิดเป็นร้อยละ 29.30 จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 36.30 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001 – 25,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 28.30 มีประสบการณ์ในการทำงาน 21 ปีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 43.70 มีส่วนร่วมตัดสินใจ คิดเป็นร้อยละ 36.00 มีความเห็นว่างบประมาณมีความเหมาะสม คิดเป็นร้อยละ 81.30 และมีการรับรู้ข่าวสารทางหนังสือ คิดเป็นร้อยละ 35.00 สมาชิกมีความคิดเห็นต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตระเวนชายแดน จำกัด โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านคุณธรรม ด้านนิติธรรม ด้านความโปร่งใส ด้านความรับผิดชอบ ด้านการมีส่วนร่วม และ ด้านความคุ้มค่า ซึ่งเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลตามหลักพื้นฐานธรรมาภิบาลของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการสร้างระบบบริหารกิจการบ้านเมือง และสังคมที่ดี พ.ศ.2542 Curricular : BBA/GE/MBA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26722 SIU IS-T. การศึกษาการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตระเวนชายแดน จำกัด = The Study of Management with Good Governance in the Cooperative Border Patrol Police Limited [printed text] / จันทนา ฝ่ายกระโทก, Author ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - ix, 99 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-01
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การบริหารงาน
[LCSH]ธรรมาภิบาล
[LCSH]สหกรณ์ออมทรัพย์Keywords: การบริหารงาน,
หลักธรรมาภิบาล,
สหกรณ์ออมทรัพย์Abstract: การศึกษาครั้งนี้เพื่อศึกษาสภาพการบริหารงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตระเวนชายแดน จำกัด ที่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล และเพื่อศึกษาเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการบริหารงานให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล เลือกกลุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย เป็นข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดนที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตระเวนชายแดน จำกัด จำนวน 300 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวมรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับสถานภาพส่วนบุคคล สิ่งสนับสนุนการบริหารงานเพื่อให้การบริหารงานเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และทำการทดสอบรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ ที่ระดับ .05 โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จำนวน 215 คน คิดเป็นร้อยละ 71.70 โดยมีอายุระหว่าง 41 – 50 ปี คิดเป็นร้อยละ 29.30 จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 36.30 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001 – 25,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 28.30 มีประสบการณ์ในการทำงาน 21 ปีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 43.70 มีส่วนร่วมตัดสินใจ คิดเป็นร้อยละ 36.00 มีความเห็นว่างบประมาณมีความเหมาะสม คิดเป็นร้อยละ 81.30 และมีการรับรู้ข่าวสารทางหนังสือ คิดเป็นร้อยละ 35.00 สมาชิกมีความคิดเห็นต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตระเวนชายแดน จำกัด โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านคุณธรรม ด้านนิติธรรม ด้านความโปร่งใส ด้านความรับผิดชอบ ด้านการมีส่วนร่วม และ ด้านความคุ้มค่า ซึ่งเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลตามหลักพื้นฐานธรรมาภิบาลของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการสร้างระบบบริหารกิจการบ้านเมือง และสังคมที่ดี พ.ศ.2542 Curricular : BBA/GE/MBA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26722 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000593275 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-01 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000593283 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-01 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available