From this page you can:
Home |
Collection details
Collection SIU IS-T
Documents available under this collective title
Add the result to your basketSIU IS-T. ความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการใช้บริการเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง กรุงเทพมหานคร / ชโยธรณ์ ชุ่มอูป / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : ความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการใช้บริการเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง กรุงเทพมหานคร Original title : The Satisfaction of the Public towards the Police Service Don Muang Police Station, Bangkok Material Type: printed text Authors: ชโยธรณ์ ชุ่มอูป, Author ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: viii, 70 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-29
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ตำรวจ -- การมีส่วนร่วมของประชาชน
[LCSH]ประชาชน -- ทัศนคติ -- ตำรวจKeywords: ความพึงพอใจของประชาชน,
การใช้บริการเจ้าหน้าที่ตำรวจ,
สถานีตำรวจนครบาลดอนเมืองCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26907 SIU IS-T. ความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการใช้บริการเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง กรุงเทพมหานคร = The Satisfaction of the Public towards the Police Service Don Muang Police Station, Bangkok [printed text] / ชโยธรณ์ ชุ่มอูป, Author ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - viii, 70 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-29
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ตำรวจ -- การมีส่วนร่วมของประชาชน
[LCSH]ประชาชน -- ทัศนคติ -- ตำรวจKeywords: ความพึงพอใจของประชาชน,
การใช้บริการเจ้าหน้าที่ตำรวจ,
สถานีตำรวจนครบาลดอนเมืองCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26907 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000593986 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-29 c.1 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000593952 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-29 c.2 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครตำรวจบ้านในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม กรณีศึกษาสถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานี / ศราวุฒิ ดีทองอ่อน / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2016
Collection Title: SIU IS-T Title : การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครตำรวจบ้านในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม กรณีศึกษาสถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานี Original title : Community Volunteer Police’s Participation in Crime Suppression: The Case of Mueang Surat Thani Police Station Material Type: printed text Authors: ศราวุฒิ ดีทองอ่อน, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมพร เพชรสงค์, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2016 Pagination: vii, 78 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-33
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การมีส่วนร่วม
[LCSH]อาชญากรรม -- การป้องกันKeywords: การมีส่วนร่วม,
การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม,
อาสาสมัครตำรวจบ้านAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วม และเพื่อเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครตำรวจบ้านในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม : กรณีศึกษาสถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฏร์ธานี จำแนกตามอายุ ระดับการศึกษา และระยะเวลาในการเป็นอาสาสมัครตำรวจบ้าน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ อาสาสมัครตำรวจบ้านทั้งหมดของสถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฏร์ธานีจำนวน 360 คน ใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติเชิงพรรณนาที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้การทดสอบค่า F-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) ในการทดสอบสมมุติฐาน
ผลการวิจัย พบว่า การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครตำรวจบ้านในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า การปฏิบัติงานตามแผนที่กำหนดมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือการมีส่วนร่วม การประเมินผลการปฏิบัติงาน การมีส่วนร่วมในการปรับปรุงแผนการทำงาน และการวางแผนการปฏิบัติงาน ตามลำดับ ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบระดับการมีส่วนร่วมจำแนกตามอายุ ระดับการศึกษา และระยะเวลาในการเป็นอาสาสมัครตำรวจบ้าน พบว่า โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน
Curricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26949 SIU IS-T. การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครตำรวจบ้านในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม กรณีศึกษาสถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานี = Community Volunteer Police’s Participation in Crime Suppression: The Case of Mueang Surat Thani Police Station [printed text] / ศราวุฒิ ดีทองอ่อน, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมพร เพชรสงค์, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016 . - vii, 78 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-33
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การมีส่วนร่วม
[LCSH]อาชญากรรม -- การป้องกันKeywords: การมีส่วนร่วม,
การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม,
อาสาสมัครตำรวจบ้านAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วม และเพื่อเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครตำรวจบ้านในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม : กรณีศึกษาสถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฏร์ธานี จำแนกตามอายุ ระดับการศึกษา และระยะเวลาในการเป็นอาสาสมัครตำรวจบ้าน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ อาสาสมัครตำรวจบ้านทั้งหมดของสถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฏร์ธานีจำนวน 360 คน ใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติเชิงพรรณนาที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้การทดสอบค่า F-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) ในการทดสอบสมมุติฐาน
ผลการวิจัย พบว่า การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครตำรวจบ้านในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า การปฏิบัติงานตามแผนที่กำหนดมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือการมีส่วนร่วม การประเมินผลการปฏิบัติงาน การมีส่วนร่วมในการปรับปรุงแผนการทำงาน และการวางแผนการปฏิบัติงาน ตามลำดับ ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบระดับการมีส่วนร่วมจำแนกตามอายุ ระดับการศึกษา และระยะเวลาในการเป็นอาสาสมัครตำรวจบ้าน พบว่า โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน
Curricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26949 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000594273 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-33 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000594265 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-33 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิผลในการควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 8 / ไพรวัลย์ ทิพย์พิมล / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2016
Collection Title: SIU IS-T Title : ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิผลในการควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 8 Original title : Factors Influence on the Efficiency of Crowd Control of Police Officers at Investigation Police Sub-Division, 8th Region Material Type: printed text Authors: ไพรวัลย์ ทิพย์พิมล, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมพร เพชรสงค์, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2016 Pagination: vii, 72 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-30
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ตำรวจ -- การทำงาน
[LCSH]ฝูงชน -- การควบคุมKeywords: ประสิทธิผลในการควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ Abstract: การศึกษาครั้งนี้เพื่อศึกษาระดับปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิผลในการควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2) เปรียบเทียบปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิผลในการควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำแนกตามอายุ ระดับการศึกษา ระดับชั้นยศ ประสบการณ์การทำงาน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ข้าราชการตำรวจ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 8 จำนวน 155 นาย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่า สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบค่าที (t-test) ค่าเอฟ (F-test) และความแปรปรวนทางเดียว (One-Way Anova) เปรียบเทียบรายคู่ด้วยวิธีการของ LSD (LSD post hoc comparison)
ผลการวิจัยพบว่า โดยภาพรวมระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ 1) ด้านโครงสร้างหน่วยงาน 2) ด้านกฎหมาย มาตรการ และนโยบาย 3) ด้านบุคลากร 4) ด้านอาวุธ ยุทโธปกรณ์และเครื่องมือ เครื่องใช้ เมื่อเปรียบเทียบระดับปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิผลในการควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำแนกตามระดับชั้นยศ โดยภาพรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน จำแนกตามอายุ โดยภาพรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน จำแนกตามระดับการศึกษา พบว่า โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านอาวุธ ยุทโธปกรณ์และเครื่องมือ เครื่องใช้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สำหรับด้านอื่นๆ พบว่า ไม่แตกต่างกัน จำแนกตามประสบการณ์การทำงาน พบว่า โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกันเมื่อทำการทดสอบรายคู่ พบว่า ด้านอาวุธ ยุทโธปกรณ์และเครื่องมือ เครื่องใช้ ที่มีระดับการศึกษาต่างกัน พบว่า ระดับการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี มีประสิทธิผลในการควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่าระดับการศึกษาปริญญาโทหรือสูงกว่า
Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26950 SIU IS-T. ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิผลในการควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 8 = Factors Influence on the Efficiency of Crowd Control of Police Officers at Investigation Police Sub-Division, 8th Region [printed text] / ไพรวัลย์ ทิพย์พิมล, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมพร เพชรสงค์, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016 . - vii, 72 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-30
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ตำรวจ -- การทำงาน
[LCSH]ฝูงชน -- การควบคุมKeywords: ประสิทธิผลในการควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ Abstract: การศึกษาครั้งนี้เพื่อศึกษาระดับปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิผลในการควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2) เปรียบเทียบปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิผลในการควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำแนกตามอายุ ระดับการศึกษา ระดับชั้นยศ ประสบการณ์การทำงาน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ข้าราชการตำรวจ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 8 จำนวน 155 นาย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่า สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบค่าที (t-test) ค่าเอฟ (F-test) และความแปรปรวนทางเดียว (One-Way Anova) เปรียบเทียบรายคู่ด้วยวิธีการของ LSD (LSD post hoc comparison)
ผลการวิจัยพบว่า โดยภาพรวมระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ 1) ด้านโครงสร้างหน่วยงาน 2) ด้านกฎหมาย มาตรการ และนโยบาย 3) ด้านบุคลากร 4) ด้านอาวุธ ยุทโธปกรณ์และเครื่องมือ เครื่องใช้ เมื่อเปรียบเทียบระดับปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิผลในการควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำแนกตามระดับชั้นยศ โดยภาพรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน จำแนกตามอายุ โดยภาพรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน จำแนกตามระดับการศึกษา พบว่า โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านอาวุธ ยุทโธปกรณ์และเครื่องมือ เครื่องใช้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สำหรับด้านอื่นๆ พบว่า ไม่แตกต่างกัน จำแนกตามประสบการณ์การทำงาน พบว่า โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกันเมื่อทำการทดสอบรายคู่ พบว่า ด้านอาวุธ ยุทโธปกรณ์และเครื่องมือ เครื่องใช้ ที่มีระดับการศึกษาต่างกัน พบว่า ระดับการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี มีประสิทธิผลในการควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่าระดับการศึกษาปริญญาโทหรือสูงกว่า
Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26950 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000594232 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-30 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000594240 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-30 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. ปัจจัยที่มีต่อการตัดสินใจใช้บริการสินเชื่อของลูกค้าธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาถนนศรีวิชัย จังหวัดสุราษฎร์ธานี / เอกพจน์ แสนภักดี / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2016
Collection Title: SIU IS-T Title : ปัจจัยที่มีต่อการตัดสินใจใช้บริการสินเชื่อของลูกค้าธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาถนนศรีวิชัย จังหวัดสุราษฎร์ธานี Original title : Factors Affecting the Customers’ Decision-Making in Using Credit Services at Krung Thai Bank Public Company Limited, Srivichai Road Branch, Suratthani Material Type: printed text Authors: เอกพจน์ แสนภักดี, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมพร เพชรสงค์, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2016 Pagination: vii, 84 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-29
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การตัดสินใจ
[LCSH]ธนาคารกรุงไทย
[LCSH]สินเชื่อKeywords: การตัดสินใจ,
บริการ,
สินเชื่อ,
ธนาคารAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีต่อการตัดสินใจใช้บริการสินเชื่อของลูกค้าธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)สาขาถนนศรีวิชัย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เก็บรวบรวมข้อมูลจาก ลูกค้าธนาคารจำกัด (มหาชน)สาขาถนนศรีวิชัย จังหวัดสุราษฎร์ ปีการศึกษา 2558 จำนวน 182 คน โดยใช้แบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.89 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบ ได้แก่ สถิติทดสอบที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว
ผลการวิจัยพบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 31-40 ปี มีอาชีพรับราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ มีสถานภาพสมรส มีการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป และมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,000-20,000 บาท ปัจจัยการใช้บริการสินเชื่อ ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้บริการสินเชื่อกรุงไทยธนวัฏวงเงินอนุมัติไม่เกิน 100,000 บาท ระยะเวลาการกู้ยืมไม่เกิน 5 ปี และใช้บุคคลค้ำประกันลูกค้ามีระดับการตัดสินใจใช้บริการสินเชื่อ ตามด้วยการให้ความสำคัญในระดับมากที่สุดด้านเงื่อนไขการขอสินเชื่อ ด้านพนักงานผู้ให้บริการ และลูกค้ามีระดับการตัดสินใจใช้บริการสินเชื่อ โดยให้ความสำคัญในระดับมาก ในด้านอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม ด้านการส่งเสริมสินเชื่อ และด้านกระบวนการ ขอสินเชื่อ ปัจจัยส่วนบุคคลของลูกค้าที่มีเพศ อายุ อาชีพ สถานภาพสมรสและระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีระดับการตัดสินใจใช้บริการสินเชื่อโดยรวมไม่แตกต่างกันCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26995 SIU IS-T. ปัจจัยที่มีต่อการตัดสินใจใช้บริการสินเชื่อของลูกค้าธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาถนนศรีวิชัย จังหวัดสุราษฎร์ธานี = Factors Affecting the Customers’ Decision-Making in Using Credit Services at Krung Thai Bank Public Company Limited, Srivichai Road Branch, Suratthani [printed text] / เอกพจน์ แสนภักดี, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมพร เพชรสงค์, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016 . - vii, 84 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-29
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การตัดสินใจ
[LCSH]ธนาคารกรุงไทย
[LCSH]สินเชื่อKeywords: การตัดสินใจ,
บริการ,
สินเชื่อ,
ธนาคารAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีต่อการตัดสินใจใช้บริการสินเชื่อของลูกค้าธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)สาขาถนนศรีวิชัย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เก็บรวบรวมข้อมูลจาก ลูกค้าธนาคารจำกัด (มหาชน)สาขาถนนศรีวิชัย จังหวัดสุราษฎร์ ปีการศึกษา 2558 จำนวน 182 คน โดยใช้แบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.89 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบ ได้แก่ สถิติทดสอบที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว
ผลการวิจัยพบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 31-40 ปี มีอาชีพรับราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ มีสถานภาพสมรส มีการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป และมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,000-20,000 บาท ปัจจัยการใช้บริการสินเชื่อ ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้บริการสินเชื่อกรุงไทยธนวัฏวงเงินอนุมัติไม่เกิน 100,000 บาท ระยะเวลาการกู้ยืมไม่เกิน 5 ปี และใช้บุคคลค้ำประกันลูกค้ามีระดับการตัดสินใจใช้บริการสินเชื่อ ตามด้วยการให้ความสำคัญในระดับมากที่สุดด้านเงื่อนไขการขอสินเชื่อ ด้านพนักงานผู้ให้บริการ และลูกค้ามีระดับการตัดสินใจใช้บริการสินเชื่อ โดยให้ความสำคัญในระดับมาก ในด้านอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม ด้านการส่งเสริมสินเชื่อ และด้านกระบวนการ ขอสินเชื่อ ปัจจัยส่วนบุคคลของลูกค้าที่มีเพศ อายุ อาชีพ สถานภาพสมรสและระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีระดับการตัดสินใจใช้บริการสินเชื่อโดยรวมไม่แตกต่างกันCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26995 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000594299 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-29 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000594281 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-29 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. การมีส่วนร่วมของผู้นำภาคประชาสังคมในการจัดการศึกษาของ โรงเรียนประถมศึกษา อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี / ฉวีวรรณ พรหมช่วย / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2016
Collection Title: SIU IS-T Title : การมีส่วนร่วมของผู้นำภาคประชาสังคมในการจัดการศึกษาของ โรงเรียนประถมศึกษา อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี Original title : Leaders of Civil Society’s Participation in Education Management of Primary Schools in Koh Samui, Surat Thani Province Material Type: printed text Authors: ฉวีวรรณ พรหมช่วย, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมพร เพชรสงค์, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2016 Pagination: vii, 75 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-31
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การมีส่วนร่วม
[LCSH]ประชาสังคมKeywords: การมีส่วนร่วม,
ภาคประชาสังคมAbstract: วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้ 1) เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของผู้นำภาคประชาสังคมใน การจัดการศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะในการมีส่วนร่วมของผู้นำภาคประชาสังคมในการจัดการศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้นำผู้ปกครอง ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา ผู้นำสมาชกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ผู้นำกลุ่มเรือประมงชายฝั่ง ผู้นำกลุ่มพัฒนาสมุย ผู้นำสมาคมรักษ์ป่าชายเลน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนประถมศึกษาศึกษา จำนวน 108 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่าที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษา พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านโดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ย ด้านการวางแผนในการจัดการศึกษา การจัดสรรทรัพยากรในด้านการจัดการศึกษา การประสานงานด้านการจัดการศึกษา และการประเมินผลด้านการจัดการศึกษา ตามลำดับ สำหรับข้อเสนอแนะ ได้แก่ ควรมีการประสานงานกับองค์กรต่าง ๆ ทั้งในและนอกชุมชน ควรเพิ่มการประสานงานให้หลากหลายวิธี ผู้นำภาคประชาสังคมควรมีส่วนร่วมในการวางแผนการจัดการศึกษาให้มากขึ้น ควรมีการระดมทุนในรูปแบบต่างๆ เพื่อการพัฒนาโรงเรียน และควรเพิ่มการประสานงานกับศิษย์เก่าให้มากขึ้นCurricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27018 SIU IS-T. การมีส่วนร่วมของผู้นำภาคประชาสังคมในการจัดการศึกษาของ โรงเรียนประถมศึกษา อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี = Leaders of Civil Society’s Participation in Education Management of Primary Schools in Koh Samui, Surat Thani Province [printed text] / ฉวีวรรณ พรหมช่วย, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมพร เพชรสงค์, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016 . - vii, 75 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-31
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การมีส่วนร่วม
[LCSH]ประชาสังคมKeywords: การมีส่วนร่วม,
ภาคประชาสังคมAbstract: วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้ 1) เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของผู้นำภาคประชาสังคมใน การจัดการศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะในการมีส่วนร่วมของผู้นำภาคประชาสังคมในการจัดการศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษา อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้นำผู้ปกครอง ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา ผู้นำสมาชกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ผู้นำกลุ่มเรือประมงชายฝั่ง ผู้นำกลุ่มพัฒนาสมุย ผู้นำสมาคมรักษ์ป่าชายเลน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนประถมศึกษาศึกษา จำนวน 108 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่าที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษา พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านโดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ย ด้านการวางแผนในการจัดการศึกษา การจัดสรรทรัพยากรในด้านการจัดการศึกษา การประสานงานด้านการจัดการศึกษา และการประเมินผลด้านการจัดการศึกษา ตามลำดับ สำหรับข้อเสนอแนะ ได้แก่ ควรมีการประสานงานกับองค์กรต่าง ๆ ทั้งในและนอกชุมชน ควรเพิ่มการประสานงานให้หลากหลายวิธี ผู้นำภาคประชาสังคมควรมีส่วนร่วมในการวางแผนการจัดการศึกษาให้มากขึ้น ควรมีการระดมทุนในรูปแบบต่างๆ เพื่อการพัฒนาโรงเรียน และควรเพิ่มการประสานงานกับศิษย์เก่าให้มากขึ้นCurricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27018 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000594372 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-31 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000594364 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-31 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. บทบาทของผู้ใหญ่บ้านในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในหมู่บ้าน อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี / อารีรัตน์ พรหมวิเชียร / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2016
Collection Title: SIU IS-T Title : บทบาทของผู้ใหญ่บ้านในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในหมู่บ้าน อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี Original title : Roles of Village Headman in Village’s Conflict Solving in Amphoe Kanchanadit, Surat Thani Province Material Type: printed text Authors: อารีรัตน์ พรหมวิเชียร, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมพร เพชรสงค์, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2016 Pagination: ix, 98 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-32
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ความขัดแย้ง (จิตวิทยา)
[LCSH]ผู้ใหญ่บ้าน -- บทบาท
[LCSH]ผู้ใหญ่บ้าน -- สุราษฎร์ธานีKeywords: การแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง,
บทบาท,
ผู้ใหญ่บ้านAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบทบาทและเพื่อเปรียบเทียบวิธีการในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในหมู่บ้านในอำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำแนกอายุ ระดับการศึกษา และประสบการณ์ทำงานในตำแหน่ง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ผู้ใหญ่บ้านในอำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 117 คน ใน 13 ตำบล เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามเชิงสำรวจ สถิติเชิงพรรณนาที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในการทดสอบสมมุติฐานใช้การทดสอบค่า F-test และการวิเคราะห์ ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA)
ผลการวิจัยพบว่า บทบาทของผู้ใหญ่บ้านในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในหมู่บ้านทุกด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านการหลีกเลี่ยง รองลงมา ด้านการปรองดอง ด้านการประนีประนอม ด้านความร่วมมือร่วมใจ และด้านการบังคับ ตามลำดับ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ใหญ่บ้านที่มีอายุต่างกัน ระดับการศึกษาต่างกัน มีบทบาทในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในภาพรวมไม่แตกต่างกัน แต่ผู้ใหญ่บ้านที่มีประสบการณ์ต่างกันมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในหมู่บ้านโดยภาพรวมต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05.Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27021 SIU IS-T. บทบาทของผู้ใหญ่บ้านในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในหมู่บ้าน อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี = Roles of Village Headman in Village’s Conflict Solving in Amphoe Kanchanadit, Surat Thani Province [printed text] / อารีรัตน์ พรหมวิเชียร, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมพร เพชรสงค์, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016 . - ix, 98 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-32
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ความขัดแย้ง (จิตวิทยา)
[LCSH]ผู้ใหญ่บ้าน -- บทบาท
[LCSH]ผู้ใหญ่บ้าน -- สุราษฎร์ธานีKeywords: การแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง,
บทบาท,
ผู้ใหญ่บ้านAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบทบาทและเพื่อเปรียบเทียบวิธีการในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในหมู่บ้านในอำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำแนกอายุ ระดับการศึกษา และประสบการณ์ทำงานในตำแหน่ง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ผู้ใหญ่บ้านในอำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 117 คน ใน 13 ตำบล เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามเชิงสำรวจ สถิติเชิงพรรณนาที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในการทดสอบสมมุติฐานใช้การทดสอบค่า F-test และการวิเคราะห์ ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA)
ผลการวิจัยพบว่า บทบาทของผู้ใหญ่บ้านในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในหมู่บ้านทุกด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านการหลีกเลี่ยง รองลงมา ด้านการปรองดอง ด้านการประนีประนอม ด้านความร่วมมือร่วมใจ และด้านการบังคับ ตามลำดับ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ใหญ่บ้านที่มีอายุต่างกัน ระดับการศึกษาต่างกัน มีบทบาทในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในภาพรวมไม่แตกต่างกัน แต่ผู้ใหญ่บ้านที่มีประสบการณ์ต่างกันมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในหมู่บ้านโดยภาพรวมต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05.Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27021 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000594414 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-32 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000594380 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-32 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. ปัญหาการปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี / ศักดิ์ชาย เจริญขุน / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2016
Collection Title: SIU IS-T Title : ปัญหาการปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี Original title : Problems in Crime Suppression of Boh Phud Police Station, Samui Island, Suratthani Province Material Type: printed text Authors: ศักดิ์ชาย เจริญขุน, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมพร เพชรสงค์, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2016 Pagination: vii, 80 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-37
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ตำรวจ -- การปฏิบัติงาน
[LCSH]อาชญากรรม -- การป้องกันและควบคุม
[LCSH]อาชญากรรม -- สุราษฎร์ธานีKeywords: ปราบปรามอาชญากรรม,
ปัญหาAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาระดับปัญหาที่เกิดจากการปราบปรามอาชญากรรม และศึกษาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรบ่อผุด กลุ่มตัวอย่าง คือ ข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรบ่อผุด จำนวน 135 นาย ใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้สถิติเชิงพรรณาและสถิติเชิงอนุมานในการวิเคราะห์ข้อมูลและทดสอบสมมุติฐาน
ผลการวิจัยพบว่า ปัญหาการปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านการจัดการ ด้านงบประมาณ ด้านวัสดุอุปกรณ์ และ ด้านบุคลากรเมื่อพิจารณาด้านบุคลากร เป็นรายข้อ พบว่า การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหรือสถานการณ์วิกฤตอยู่ในระดับสูงที่สุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ กำลังคนที่ได้รับการพัฒนา เมื่อพิจารณาด้านงบประมาณเป็นรายข้อ พบว่า การจัดตั้งงบประมาณ อยู่ในระดับสูงที่สุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การรายงานการเงิน สำหรับด้านวัสดุอุปกรณ์ เมื่อพิจารณาในเป็นรายข้อ พบว่า ความรวดเร็วคล่องตัวในการเบิกรับนำไปใช้อยู่ในระดับสูงที่สุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ เครื่องมือสื่อสารทันสมัย สะดวกในการใช้ สุดท้ายคือด้านการจัดการ เมื่อพิจารณาในเป็นรายข้อ พบว่า การมอบหมายงานแก่ผู้ปฏิบัติมีความเหมาะสม อยู่ในระดับสูงที่สุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การส่งเสริมความก้าวหน้าในตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27023 SIU IS-T. ปัญหาการปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี = Problems in Crime Suppression of Boh Phud Police Station, Samui Island, Suratthani Province [printed text] / ศักดิ์ชาย เจริญขุน, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมพร เพชรสงค์, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016 . - vii, 80 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-37
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ตำรวจ -- การปฏิบัติงาน
[LCSH]อาชญากรรม -- การป้องกันและควบคุม
[LCSH]อาชญากรรม -- สุราษฎร์ธานีKeywords: ปราบปรามอาชญากรรม,
ปัญหาAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาระดับปัญหาที่เกิดจากการปราบปรามอาชญากรรม และศึกษาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรบ่อผุด กลุ่มตัวอย่าง คือ ข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรบ่อผุด จำนวน 135 นาย ใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้สถิติเชิงพรรณาและสถิติเชิงอนุมานในการวิเคราะห์ข้อมูลและทดสอบสมมุติฐาน
ผลการวิจัยพบว่า ปัญหาการปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านการจัดการ ด้านงบประมาณ ด้านวัสดุอุปกรณ์ และ ด้านบุคลากรเมื่อพิจารณาด้านบุคลากร เป็นรายข้อ พบว่า การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหรือสถานการณ์วิกฤตอยู่ในระดับสูงที่สุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ กำลังคนที่ได้รับการพัฒนา เมื่อพิจารณาด้านงบประมาณเป็นรายข้อ พบว่า การจัดตั้งงบประมาณ อยู่ในระดับสูงที่สุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การรายงานการเงิน สำหรับด้านวัสดุอุปกรณ์ เมื่อพิจารณาในเป็นรายข้อ พบว่า ความรวดเร็วคล่องตัวในการเบิกรับนำไปใช้อยู่ในระดับสูงที่สุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ เครื่องมือสื่อสารทันสมัย สะดวกในการใช้ สุดท้ายคือด้านการจัดการ เมื่อพิจารณาในเป็นรายข้อ พบว่า การมอบหมายงานแก่ผู้ปฏิบัติมีความเหมาะสม อยู่ในระดับสูงที่สุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การส่งเสริมความก้าวหน้าในตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27023 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000594216 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-37 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000594257 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-37 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. การเสริมสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการทหาร สังกัดกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 7 / สถาพร บุญชู / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2016
Collection Title: SIU IS-T Title : การเสริมสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการทหาร สังกัดกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 7 Original title : Build-up Working Morale for Soldiers in the Royal Thai Air Force Security Forces, WING 7 Material Type: printed text Authors: สถาพร บุญชู, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมพร เพชรสงค์, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2016 Pagination: vii, 53 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-34
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]กองทัพอากาศ -- ไทย
[LCSH]ขวัญในการทำงาน
[LCSH]ทหาร -- การปฏิบัติงานKeywords: การเสริมสร้างขวัญกำลังใจ,
กองทัพอากาศไทย,
ทหาร,
อากาศโยธินAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาระดับขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการทหาร สังกัดกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 7 การวิจัยครั้งนี้ใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากข้าราชการทหาร สังกัดกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 7 ทั้งหมด จำนวน 145 คน และใช้สถิติเชิงพรรณนาได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ผลการวิจัย พบว่าขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการทหาร สังกัดกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 7 ในภาพรวมในปัจจุบันทุกด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านการกำหนดนโยบาย มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา ได้แก่ การเปิดโอกาสการมีส่วน การเสริมสร้างความสามัคคี เงินเดือนและค่าตอบแทน และการเสริมสร้างความพึงพอใจในการทำงาน ตามลำดับ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลข้อเสนอแนะแนวที่รวบรวมจากผู้ตอบแบบสอบถามพบว่า ผู้บังคับบัญชาควรสามารถเข้าใจความรู้สึกที่ดีในการทำงานโดยพิจารณาความเหมาะสมด้านความรู้ความสามารถ เปิดโอกาสให้บุคลากรได้แสดงความคิดเห็นและตัดสินใจในงานที่ได้รับมอบหมาย สร้างความรู้สึกว่าลูกน้องเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรได้ศึกษาต่อเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานและความก้าวหน้า กำหนดวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงานในรูปของคณะกรรมการ และควรจัดกิจกรรมเสริมสร้างความสามัคคีในหน่วยงานCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27027 SIU IS-T. การเสริมสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการทหาร สังกัดกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 7 = Build-up Working Morale for Soldiers in the Royal Thai Air Force Security Forces, WING 7 [printed text] / สถาพร บุญชู, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมพร เพชรสงค์, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016 . - vii, 53 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-34
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]กองทัพอากาศ -- ไทย
[LCSH]ขวัญในการทำงาน
[LCSH]ทหาร -- การปฏิบัติงานKeywords: การเสริมสร้างขวัญกำลังใจ,
กองทัพอากาศไทย,
ทหาร,
อากาศโยธินAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาระดับขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการทหาร สังกัดกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 7 การวิจัยครั้งนี้ใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากข้าราชการทหาร สังกัดกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 7 ทั้งหมด จำนวน 145 คน และใช้สถิติเชิงพรรณนาได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ผลการวิจัย พบว่าขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการทหาร สังกัดกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 7 ในภาพรวมในปัจจุบันทุกด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านการกำหนดนโยบาย มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา ได้แก่ การเปิดโอกาสการมีส่วน การเสริมสร้างความสามัคคี เงินเดือนและค่าตอบแทน และการเสริมสร้างความพึงพอใจในการทำงาน ตามลำดับ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลข้อเสนอแนะแนวที่รวบรวมจากผู้ตอบแบบสอบถามพบว่า ผู้บังคับบัญชาควรสามารถเข้าใจความรู้สึกที่ดีในการทำงานโดยพิจารณาความเหมาะสมด้านความรู้ความสามารถ เปิดโอกาสให้บุคลากรได้แสดงความคิดเห็นและตัดสินใจในงานที่ได้รับมอบหมาย สร้างความรู้สึกว่าลูกน้องเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรได้ศึกษาต่อเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานและความก้าวหน้า กำหนดวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงานในรูปของคณะกรรมการ และควรจัดกิจกรรมเสริมสร้างความสามัคคีในหน่วยงานCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27027 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000594356 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-34 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000594349 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-34 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. ปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยของอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาเกาะเต่า / พงศกร ลวนานนท์ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2016
Collection Title: SIU IS-T Title : ปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยของอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาเกาะเต่า Original title : Problem and Obstacle in Sufferers Rescue Operation of Khuson Shatta Foundation’s Volunteers, Koh Tao, Suratthani Province Material Type: printed text Authors: พงศกร ลวนานนท์, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมพร เพชรสงค์, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2016 Pagination: vii, 85 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-36
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การทำงาน
[LCSH]อาสาสมัครKeywords: การกู้ภัย,
การปฏิบัติงาน,
เกาะเต่า,
ปัญหาและอุปสรรค,
อาสาสมัครAbstract: วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้คือเพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการ ปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยของอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากอาสาสมัครมูลนิธิจำนวน 87 คน ใช้สถิติเชิงพรรณนาในการวิเคราะห์ข้อมูลประชากรศาสตร์และพฤติกรรมและใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของตัวแปรและทดสอบสมมุติฐาน
ผลการวิจัยพบว่า ปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยของอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาเกาะเต่าทุกด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านการจัดองค์การ รองลงมาได้แก่ ด้านงบประมาณและวัสดุอุปกรณ์ ด้านการสนับสนุนช่วยเหลือ และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือด้านบุคลากร เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน การจัดการองค์การ อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายสถาณการณ์ พบว่า การมอบอำนาจการตัดสินใจแก่ผู้ปฏิบัติเป็นอุปสรรคระดับสูงสุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การแจ้งและรายงานผลการปฏิบัติงาน นอกจากนี้พบว่า การรับสมัคร และการคัดเลือกคนเข้ามาเป็นอาสาสมัคร มีอุปสรรคอยู่ในระดับสูงที่สุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การสร้างระบบการทำงานเป็นทีม ด้านการสนับสนุนช่วยเหลืออยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า การดำเนินการกู้ภัยระหว่างอาสาสมัครมูลนิธิอื่นอยู่ในระดับสูงสุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การส่งต่อผู้ประสบเหตุไปยังหน่วยงานอื่น ด้านงบประมาณและวัสดุอุปกรณ์อยู่ในระดับมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดหาอุปกรณ์กู้ภัยและการปฐมพยาบาลอยู่ในระดับสูงสุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การบำรุงรักษาซ่อมแซมอุปกรณ์กู้ภัยและการปฐมพยาบาล ท้ายสุดผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบระดับปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยของอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธา เกาะเต่า พบว่าอาสาสมัครที่มีประชากรศาสตร์แตกต่างกัน มีปัญหาและอุปสรรคในการทำงานไม่แตกต่างกันCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27029 SIU IS-T. ปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยของอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาเกาะเต่า = Problem and Obstacle in Sufferers Rescue Operation of Khuson Shatta Foundation’s Volunteers, Koh Tao, Suratthani Province [printed text] / พงศกร ลวนานนท์, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมพร เพชรสงค์, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016 . - vii, 85 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-36
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การทำงาน
[LCSH]อาสาสมัครKeywords: การกู้ภัย,
การปฏิบัติงาน,
เกาะเต่า,
ปัญหาและอุปสรรค,
อาสาสมัครAbstract: วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้คือเพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการ ปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยของอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากอาสาสมัครมูลนิธิจำนวน 87 คน ใช้สถิติเชิงพรรณนาในการวิเคราะห์ข้อมูลประชากรศาสตร์และพฤติกรรมและใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของตัวแปรและทดสอบสมมุติฐาน
ผลการวิจัยพบว่า ปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยของอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาเกาะเต่าทุกด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านการจัดองค์การ รองลงมาได้แก่ ด้านงบประมาณและวัสดุอุปกรณ์ ด้านการสนับสนุนช่วยเหลือ และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือด้านบุคลากร เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน การจัดการองค์การ อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายสถาณการณ์ พบว่า การมอบอำนาจการตัดสินใจแก่ผู้ปฏิบัติเป็นอุปสรรคระดับสูงสุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การแจ้งและรายงานผลการปฏิบัติงาน นอกจากนี้พบว่า การรับสมัคร และการคัดเลือกคนเข้ามาเป็นอาสาสมัคร มีอุปสรรคอยู่ในระดับสูงที่สุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การสร้างระบบการทำงานเป็นทีม ด้านการสนับสนุนช่วยเหลืออยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า การดำเนินการกู้ภัยระหว่างอาสาสมัครมูลนิธิอื่นอยู่ในระดับสูงสุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การส่งต่อผู้ประสบเหตุไปยังหน่วยงานอื่น ด้านงบประมาณและวัสดุอุปกรณ์อยู่ในระดับมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดหาอุปกรณ์กู้ภัยและการปฐมพยาบาลอยู่ในระดับสูงสุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การบำรุงรักษาซ่อมแซมอุปกรณ์กู้ภัยและการปฐมพยาบาล ท้ายสุดผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบระดับปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยของอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธา เกาะเต่า พบว่าอาสาสมัครที่มีประชากรศาสตร์แตกต่างกัน มีปัญหาและอุปสรรคในการทำงานไม่แตกต่างกันCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27029 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000594331 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-36 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000594323 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-36 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. บทบาทในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร / บุญเกื้อ พูลชัย / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2016
Collection Title: SIU IS-T Title : บทบาทในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร Original title : The Roles in Drug Prevention and Suppression of Police Officers in Chumphon Material Type: printed text Authors: บุญเกื้อ พูลชัย, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมพร เพชรสงค์, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2016 Pagination: ix, 77 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-35
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ความร่วมมือ
[LCSH]ยาเสพติด -- การป้องกัน -- ชุมพรKeywords: การจัดระบบสายตรวจ,
การประสานงานระหว่างภาครัฐและเอกชน,
การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด,
ความร่วมมือจากประชาชนAbstract: การวิจัยครั้งนี้ศึกษาและเปรียบเทียบบทบาทในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพรจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลกลุ่มตัวอย่างที่ใช้คือข้าราชการตำรวจในสถานีตำรวจภูธรจังหวัดชุมพรจำนวน 171 คนใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณาในการวิเคราะห์ข้อมูลประชากรศาสตร์และพฤติกรรมของผู้ตอบแบบสอบถาม และใช้สถิติเชิงอนุมานโดยการทดสอบค่าที (t-test) และค่า F-test ในการวิเคราะห์ตัวแปรและทดสอบสมมติฐาน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05
ผลการวิจัยพบว่าบทบาทในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพรอยู่ในระดับปานกลางที่ค่าเฉลี่ย (x̄ = 3.20) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านของบทบาทในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจการจัดระบบสายตรวจพบว่าการแสวงหาความร่วมมือมีมากสุด ตามด้วยการประสานงานระหว่างภาครัฐและเอกชนการสืบสวนจับกุมและการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานตามลำดับ ผลการเปรียบเทียบบทบาทในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพรจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีปัจจัยส่วนบุคคลแตกต่างกันมีบทบาทในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดไม่แตกต่างกันCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27145 SIU IS-T. บทบาทในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร = The Roles in Drug Prevention and Suppression of Police Officers in Chumphon [printed text] / บุญเกื้อ พูลชัย, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมพร เพชรสงค์, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016 . - ix, 77 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-35
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ความร่วมมือ
[LCSH]ยาเสพติด -- การป้องกัน -- ชุมพรKeywords: การจัดระบบสายตรวจ,
การประสานงานระหว่างภาครัฐและเอกชน,
การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด,
ความร่วมมือจากประชาชนAbstract: การวิจัยครั้งนี้ศึกษาและเปรียบเทียบบทบาทในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพรจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลกลุ่มตัวอย่างที่ใช้คือข้าราชการตำรวจในสถานีตำรวจภูธรจังหวัดชุมพรจำนวน 171 คนใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณาในการวิเคราะห์ข้อมูลประชากรศาสตร์และพฤติกรรมของผู้ตอบแบบสอบถาม และใช้สถิติเชิงอนุมานโดยการทดสอบค่าที (t-test) และค่า F-test ในการวิเคราะห์ตัวแปรและทดสอบสมมติฐาน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05
ผลการวิจัยพบว่าบทบาทในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพรอยู่ในระดับปานกลางที่ค่าเฉลี่ย (x̄ = 3.20) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านของบทบาทในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจการจัดระบบสายตรวจพบว่าการแสวงหาความร่วมมือมีมากสุด ตามด้วยการประสานงานระหว่างภาครัฐและเอกชนการสืบสวนจับกุมและการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานตามลำดับ ผลการเปรียบเทียบบทบาทในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพรจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีปัจจัยส่วนบุคคลแตกต่างกันมีบทบาทในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดไม่แตกต่างกันCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27145 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000594307 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-35 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000594315 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-35 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. การสื่อสารกับสาธารณชนเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรค ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทย / ดลยา วิโรจน์วรรธนะ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : การสื่อสารกับสาธารณชนเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรค ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทย Original title : Communication with Segments of the Public about Problems and Barriers in Disseminating Social News and Information by Digital TV Stations in Thailand Material Type: printed text Authors: ดลยา วิโรจน์วรรธนะ, Author ; ปาลพล รอดลอยทุกข์, Associated Name ; วิษณุ สุวรรณเพิ่ม, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: viii, 40 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: SOLA-MAMIC-2017-02
Independent Study [MAMIC.[Arts in Media Information and Communication]]. Shinawatra University, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ข่าว -- การนำเสนอ
[LCSH]ผู้สื่อข่าว
[LCSH]สถานีโทรทัศน์ -- ไทยKeywords: ข่าวสังคม,
ผู้สื่อข่าวสายสังคม,
สถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทยAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึง 1) เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการนำเสนอข่าวสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทย 2) เพื่อเผยแพร่ปัญหาและอุปสรรคในการนำเสนอข่าวสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทยแก่สาธารณชน 3) เพื่อศึกษาทัศนคติของผู้สื่อข่าวสังคมของแต่ละสถานีที่มีต่อปัญหาและอุปสรรคในการนำเสนอข่าวสังคม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้สื่อข่าวอาวุโส และผู้สื่อข่าวสายสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอล 3 สถานี ตามประเภทช่อง ได้แก่ ประเภทรายการทั่วไป ภาพคมชัดสูง (HD), ประเภทรายการข่าวสาร และสาระ (SD) และประเภทบริการสาธารณะ ประเภท 1 สถานี จำนวน 18 คน การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม และการสัมภาษณ์เชิงลึก สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ (Frequency) และค่าร้อยละ (Percentage)
ผลการวิจัย พบว่า ปัญหาและอุปสรรคในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทย มีเวลาในการทำข่าวจำกัด จึงต้องลงพื้นที่ทำงานแข่งกับเวลา และแข่งกับสื่อออนไลน์ที่เข้าถึงสาธารณชนได้รวดเร็วกว่า ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น มือถือ ขณะที่การทำข่าวสังคมเป็นประเภทข่าวที่มีเนื้อหาใกล้ตัวประชาชนมากกว่าข่าวประเภทอื่น ในกระบวนการผลิตจึงต้องอาศัยข้อมูลหลากหลายด้าน เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาเรียบเรียง เพื่อตอบโจทย์ปัญหา และวิธีแก้ไขปัญหาของสังคม นอกจากนี้ ยังพบว่า นโยบายของสถานียังส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตข่าวก่อนออกเผยแพร่สู่สาธารณชนด้วย
Curricular : BALA/MTEIL Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27200 SIU IS-T. การสื่อสารกับสาธารณชนเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรค ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทย = Communication with Segments of the Public about Problems and Barriers in Disseminating Social News and Information by Digital TV Stations in Thailand [printed text] / ดลยา วิโรจน์วรรธนะ, Author ; ปาลพล รอดลอยทุกข์, Associated Name ; วิษณุ สุวรรณเพิ่ม, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - viii, 40 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: SOLA-MAMIC-2017-02
Independent Study [MAMIC.[Arts in Media Information and Communication]]. Shinawatra University, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ข่าว -- การนำเสนอ
[LCSH]ผู้สื่อข่าว
[LCSH]สถานีโทรทัศน์ -- ไทยKeywords: ข่าวสังคม,
ผู้สื่อข่าวสายสังคม,
สถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทยAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึง 1) เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการนำเสนอข่าวสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทย 2) เพื่อเผยแพร่ปัญหาและอุปสรรคในการนำเสนอข่าวสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทยแก่สาธารณชน 3) เพื่อศึกษาทัศนคติของผู้สื่อข่าวสังคมของแต่ละสถานีที่มีต่อปัญหาและอุปสรรคในการนำเสนอข่าวสังคม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้สื่อข่าวอาวุโส และผู้สื่อข่าวสายสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอล 3 สถานี ตามประเภทช่อง ได้แก่ ประเภทรายการทั่วไป ภาพคมชัดสูง (HD), ประเภทรายการข่าวสาร และสาระ (SD) และประเภทบริการสาธารณะ ประเภท 1 สถานี จำนวน 18 คน การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม และการสัมภาษณ์เชิงลึก สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ (Frequency) และค่าร้อยละ (Percentage)
ผลการวิจัย พบว่า ปัญหาและอุปสรรคในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทย มีเวลาในการทำข่าวจำกัด จึงต้องลงพื้นที่ทำงานแข่งกับเวลา และแข่งกับสื่อออนไลน์ที่เข้าถึงสาธารณชนได้รวดเร็วกว่า ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น มือถือ ขณะที่การทำข่าวสังคมเป็นประเภทข่าวที่มีเนื้อหาใกล้ตัวประชาชนมากกว่าข่าวประเภทอื่น ในกระบวนการผลิตจึงต้องอาศัยข้อมูลหลากหลายด้าน เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาเรียบเรียง เพื่อตอบโจทย์ปัญหา และวิธีแก้ไขปัญหาของสังคม นอกจากนี้ ยังพบว่า นโยบายของสถานียังส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตข่าวก่อนออกเผยแพร่สู่สาธารณชนด้วย
Curricular : BALA/MTEIL Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27200 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000594489 SIU IS-T: SOLA-MAMIC-2017-02 c.1 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000594430 SIU IS-T: SOLA-MAMIC-2017-02 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available SIU IS-T. การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ประเพณีชักพระ ของวัดในอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี / พระมหาสมชาย กนฺตสีโล / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ประเพณีชักพระ ของวัดในอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี Original title : People’s Participation in the Traditional Conservation of Chak Phra Festival at Wat in Bannasang Sub-District, Surat Thani Province Material Type: printed text Authors: พระมหาสมชาย กนฺตสีโล, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: viii, 78 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-30
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การมีส่วนร่วม
[LCSH]ประชาชน
[LCSH]ประเพณีชักพระKeywords: การมีส่วนร่วมของประชาชน,
การอนุรักษ์ประเพณีชักพระAbstract: วัตถุประสงค์ของการวิจัยครั้งนี้คือศึกษาและเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ประเพณีชักพระของวัดของประชาชนที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ ต่างกัน ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลกลุ่มตัวอย่างจำนวน 393 คน นำมาวิเคราะห์สถิติเชิงพรรณา และสถิติเชิงอนุมาน คือการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) ในการวิเคราะห์ข้อมูลและทดสอบสมมุติฐาน
ผลการวิจัยพบว่า การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ประเพณีชักพระทุกด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านมีส่วนรวมในการรับผลประโยชน์ รองลงมาได้แก่ ด้านมีส่วนรวมในการประเมินผล ด้านมีส่วนรวมในการตัดสินใจและ ด้านมีส่วนรวมในการดำเนินการ ตามลำดับ ผลการ วิเคราะห์เปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ประเพณีชักพระของวัดในอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำแนกตามข้อมูลส่วนบุคคล พบว่า กลุ่มรายได้ไม่แตกต่างกันที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 ส่วนเพศมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยทางสถิตจึงได้ทดสอบเป็นรายคู่ด้วยวิธีของ scheffe ด้านการมีส่วนรวมในการรับผลประโยชน์ประชาชนที่เป็นเพศหญิง มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ประเพณีชักพระมากกว่าเพศชาย ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาและการแก้ไขปัญหาการอนุรักษ์ประเพณีชักพระของวัดใน อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ควรมีการปรับปรุงแก้ไข แบ่งงานกันทำ ลงมือปฏิบัติและพัฒนาวิธีการเพื่อให้ประเพณีชักพระอยู่สืบทอดให้ยั่งยืนไปสู่ระดับประเพณีวัฒนธรรมอาเซียนในอนาคต
Curricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27201 SIU IS-T. การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ประเพณีชักพระ ของวัดในอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี = People’s Participation in the Traditional Conservation of Chak Phra Festival at Wat in Bannasang Sub-District, Surat Thani Province [printed text] / พระมหาสมชาย กนฺตสีโล, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - viii, 78 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-30
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การมีส่วนร่วม
[LCSH]ประชาชน
[LCSH]ประเพณีชักพระKeywords: การมีส่วนร่วมของประชาชน,
การอนุรักษ์ประเพณีชักพระAbstract: วัตถุประสงค์ของการวิจัยครั้งนี้คือศึกษาและเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ประเพณีชักพระของวัดของประชาชนที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ ต่างกัน ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลกลุ่มตัวอย่างจำนวน 393 คน นำมาวิเคราะห์สถิติเชิงพรรณา และสถิติเชิงอนุมาน คือการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) ในการวิเคราะห์ข้อมูลและทดสอบสมมุติฐาน
ผลการวิจัยพบว่า การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ประเพณีชักพระทุกด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านมีส่วนรวมในการรับผลประโยชน์ รองลงมาได้แก่ ด้านมีส่วนรวมในการประเมินผล ด้านมีส่วนรวมในการตัดสินใจและ ด้านมีส่วนรวมในการดำเนินการ ตามลำดับ ผลการ วิเคราะห์เปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ประเพณีชักพระของวัดในอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำแนกตามข้อมูลส่วนบุคคล พบว่า กลุ่มรายได้ไม่แตกต่างกันที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 ส่วนเพศมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยทางสถิตจึงได้ทดสอบเป็นรายคู่ด้วยวิธีของ scheffe ด้านการมีส่วนรวมในการรับผลประโยชน์ประชาชนที่เป็นเพศหญิง มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ประเพณีชักพระมากกว่าเพศชาย ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาและการแก้ไขปัญหาการอนุรักษ์ประเพณีชักพระของวัดใน อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ควรมีการปรับปรุงแก้ไข แบ่งงานกันทำ ลงมือปฏิบัติและพัฒนาวิธีการเพื่อให้ประเพณีชักพระอยู่สืบทอดให้ยั่งยืนไปสู่ระดับประเพณีวัฒนธรรมอาเซียนในอนาคต
Curricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27201 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000594612 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-30 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000594604 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-30 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. สำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 / วิภาพร ทิมอุบล / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : สำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 Original title : Organization Awareness of Police Officers of the General Staff Sub-Division, Metropolitan Police Division 3 Material Type: printed text Authors: วิภาพร ทิมอุบล, Author ; สมชาย รัตนโกมุท, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: viii, 51 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-39
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ความสุขในการทำงาน
[LCSH]ตำรวจAbstract: การศึกษา เรื่อง สำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับพื้นฐานสำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ในด้านความภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ด้านความเชื่อมั่นและศรัทธาในนโยบายและเป้าหมายขององค์กร ด้านความได้รับการยอมรับ และด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพการสมรส รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ และการได้รับพิจารณาความดีความชอบ
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม สรุประดับสำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุตั้งแต่ 41 ปีขึ้นไป ระดับการศึกษาระดับปริญญาตรี สถานภาพสมรส รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,000 บาท ขึ้นไป ระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่มากกว่า 10 ปี และได้เลื่อนขั้น 2 ขั้น โดยวิเคราะห์ข้อมูลสำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ในภาพรวมอยู่ ระดับมาก โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ ด้านความภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ด้านความเชื่อมั่นและศรัทธาในนโยบายและเป้าหมายขององค์กร ด้านการได้รับและการยอมรับ ด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการ ตามลำดับ จะเห็นว่าความสุขในการทำงานเกิดจากพื้นฐานสำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27202 SIU IS-T. สำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 = Organization Awareness of Police Officers of the General Staff Sub-Division, Metropolitan Police Division 3 [printed text] / วิภาพร ทิมอุบล, Author ; สมชาย รัตนโกมุท, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - viii, 51 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-39
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ความสุขในการทำงาน
[LCSH]ตำรวจAbstract: การศึกษา เรื่อง สำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับพื้นฐานสำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ในด้านความภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ด้านความเชื่อมั่นและศรัทธาในนโยบายและเป้าหมายขององค์กร ด้านความได้รับการยอมรับ และด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพการสมรส รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ และการได้รับพิจารณาความดีความชอบ
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม สรุประดับสำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุตั้งแต่ 41 ปีขึ้นไป ระดับการศึกษาระดับปริญญาตรี สถานภาพสมรส รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,000 บาท ขึ้นไป ระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่มากกว่า 10 ปี และได้เลื่อนขั้น 2 ขั้น โดยวิเคราะห์ข้อมูลสำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ในภาพรวมอยู่ ระดับมาก โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ ด้านความภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ด้านความเชื่อมั่นและศรัทธาในนโยบายและเป้าหมายขององค์กร ด้านการได้รับและการยอมรับ ด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการ ตามลำดับ จะเห็นว่าความสุขในการทำงานเกิดจากพื้นฐานสำนึกรักที่มีต่อองค์กรของข้าราชการตำรวจCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27202 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000594505 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-39 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000594562 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-39 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. ความต้องการของประชาชนในการพัฒนาชุมชนของอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี / ศักดิ์เกษม แก้วสุข / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : ความต้องการของประชาชนในการพัฒนาชุมชนของอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี Original title : People’s Demand in Community Development of Ban Nasarn District, Surat Thani Province Material Type: printed text Authors: ศักดิ์เกษม แก้วสุข, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: ix, 102 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-31
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การพัฒนาชุมชน
[LCSH]ชุมชน -- สุราษฎร์ธานี -- บ้านนาสารKeywords: ความต้องการ,
ประชาชน,
พัฒนาชุมชนAbstract: การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบระดับความต้องการของประชาชนในการพัฒนาชุมชน จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามจากประชาชนที่อาศัยอยู่ที่อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 400 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และสถิติเชิงอนุมานการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว
ผลการวิจัยพบว่า ความต้องการของประชาชนในการพัฒนาชุมชนในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านการเสริมสร้างสุขภาพอนามัย รองลงมาคือ การสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้านการศึกษา ด้านโครงสร้างพื้นฐาน และด้านเศรษฐกิจและการเกษตร ตามลำดับ ผลการเปรียบเทียบระดับความต้องการในการพัฒนาชุมชน จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า เพศ อายุ อาชีพ รายได้ การศึกษาที่แตกต่างกันมีระดับความต้องการแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สำหรับข้อเสนอแนะ พบว่า ควรก่อสร้างถนนทางเข้าหมู่บ้านให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ช่วยเหลือดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ เด็ก สตรีและคนพิการ จัดอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกร รณรงค์ให้ความรู้และปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสนับสนุนงบประมาณด้านการศึกษาเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการศึกษา เช่น คอมพิวเตอร์Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27203 SIU IS-T. ความต้องการของประชาชนในการพัฒนาชุมชนของอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี = People’s Demand in Community Development of Ban Nasarn District, Surat Thani Province [printed text] / ศักดิ์เกษม แก้วสุข, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - ix, 102 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-31
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การพัฒนาชุมชน
[LCSH]ชุมชน -- สุราษฎร์ธานี -- บ้านนาสารKeywords: ความต้องการ,
ประชาชน,
พัฒนาชุมชนAbstract: การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบระดับความต้องการของประชาชนในการพัฒนาชุมชน จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามจากประชาชนที่อาศัยอยู่ที่อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 400 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และสถิติเชิงอนุมานการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว
ผลการวิจัยพบว่า ความต้องการของประชาชนในการพัฒนาชุมชนในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านการเสริมสร้างสุขภาพอนามัย รองลงมาคือ การสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้านการศึกษา ด้านโครงสร้างพื้นฐาน และด้านเศรษฐกิจและการเกษตร ตามลำดับ ผลการเปรียบเทียบระดับความต้องการในการพัฒนาชุมชน จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า เพศ อายุ อาชีพ รายได้ การศึกษาที่แตกต่างกันมีระดับความต้องการแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สำหรับข้อเสนอแนะ พบว่า ควรก่อสร้างถนนทางเข้าหมู่บ้านให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ช่วยเหลือดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ เด็ก สตรีและคนพิการ จัดอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกร รณรงค์ให้ความรู้และปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสนับสนุนงบประมาณด้านการศึกษาเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการศึกษา เช่น คอมพิวเตอร์Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27203 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000594588 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-31 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000594596 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-31 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. การศึกษาการนำนโยบายการป้องกันอุบัติเหตุจากจราจรทางบกไปปฏิบัติ ในสถานีตำรวจนครบาลบางชัน / วุฒิชัย ธรรมมิยะ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : การศึกษาการนำนโยบายการป้องกันอุบัติเหตุจากจราจรทางบกไปปฏิบัติ ในสถานีตำรวจนครบาลบางชัน Original title : A Study of Implementation of Land Transportation Accident Prevention Policy Practice at Bang Chan Metropolitan Police Station Material Type: printed text Authors: วุฒิชัย ธรรมมิยะ, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: vi, 70 น. Layout: ภาพประกอบ Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-39
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]อุบัติเหตุ -- การป้องกัน Keywords: นโยบาย,
การป้องกัน,
อุบัติเหตุAbstract: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการดำเนินงาน ปัญหาและอุปสรรคในการนำนโยบายป้องกันอุบัติเหตุจากจราจรทางบกไปปฏิบัติในสถานีตำรวจนครบาลบางชัน เป็นการในเชิงคุณภาพ (qualitative research) เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงจากตำรวจที่ทำงานที่สถานีตำรวจบางรักด้วยการสัมภาษณ์ เชิงลึก วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลจากการศึกษา พบว่า นโยบายการป้องกันอุบัติเหตุจากจราจรทางบกไปปฏิบัติเป็นนโยบายที่มาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีแนวทางการปฏิบัติตามนโยบายจึงมีส่วนคล้ายกันทั่วประเทศ ยกเว้นเขตสถานีตำรวจไหนที่มีความเสี่ยงมากก็จะมีโครงการต่างๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้อำนาจแก่สถานีตำรวจต่างๆ อยู่แล้ว การดำเนินตามนโยบายการป้องกันอุบัติเหตุจากจราจรทางบกไปปฏิบัติในสถานีตำรวจนครบาลบางชัน ได้ปฏิบัติตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเคร่งครัดโดยมีโครงการต่างๆ ทั้งโครงการที่มาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและโครงการที่สถานีตำรวจนครบาลบางชันจัดขึ้น ส่วนอุปสรรคในการนำนโยบายการป้องกันอุบัติเหตุจากจราจรทางบกไปปฏิบัติ ส่วนใหญ่เกิดจากงบประมาณมีน้อย การจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ที่นำมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะอุปกรณ์พวกนี้ทางสถานีไม่ได้จัดซื้อเอง เจ้าหน้าที่ขาดทักษะในการ ใช้งาน ขาดการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ได้มาใหม่ นอกจากนี้แนวทางในการแก้ไขปัญหาการป้องกันอุบัติเหตุจากจราจรทางบกไปปฏิบัติในสถานีตำรวจนครบาลบางชัน พบว่าควรมีการจัดป้ายประชาสัมพันธ์ เพื่อลดอุบัติเหตุ ประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนทราบทุกวัน การอบรมเรื่องวินัยจราจร ตามโรงเรียนต่างๆ จะชวยแก้ปัญหาได้Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27266 SIU IS-T. การศึกษาการนำนโยบายการป้องกันอุบัติเหตุจากจราจรทางบกไปปฏิบัติ ในสถานีตำรวจนครบาลบางชัน = A Study of Implementation of Land Transportation Accident Prevention Policy Practice at Bang Chan Metropolitan Police Station [printed text] / วุฒิชัย ธรรมมิยะ, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - vi, 70 น. : ภาพประกอบ ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-39
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]อุบัติเหตุ -- การป้องกัน Keywords: นโยบาย,
การป้องกัน,
อุบัติเหตุAbstract: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการดำเนินงาน ปัญหาและอุปสรรคในการนำนโยบายป้องกันอุบัติเหตุจากจราจรทางบกไปปฏิบัติในสถานีตำรวจนครบาลบางชัน เป็นการในเชิงคุณภาพ (qualitative research) เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงจากตำรวจที่ทำงานที่สถานีตำรวจบางรักด้วยการสัมภาษณ์ เชิงลึก วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลจากการศึกษา พบว่า นโยบายการป้องกันอุบัติเหตุจากจราจรทางบกไปปฏิบัติเป็นนโยบายที่มาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีแนวทางการปฏิบัติตามนโยบายจึงมีส่วนคล้ายกันทั่วประเทศ ยกเว้นเขตสถานีตำรวจไหนที่มีความเสี่ยงมากก็จะมีโครงการต่างๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้อำนาจแก่สถานีตำรวจต่างๆ อยู่แล้ว การดำเนินตามนโยบายการป้องกันอุบัติเหตุจากจราจรทางบกไปปฏิบัติในสถานีตำรวจนครบาลบางชัน ได้ปฏิบัติตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเคร่งครัดโดยมีโครงการต่างๆ ทั้งโครงการที่มาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและโครงการที่สถานีตำรวจนครบาลบางชันจัดขึ้น ส่วนอุปสรรคในการนำนโยบายการป้องกันอุบัติเหตุจากจราจรทางบกไปปฏิบัติ ส่วนใหญ่เกิดจากงบประมาณมีน้อย การจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ที่นำมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะอุปกรณ์พวกนี้ทางสถานีไม่ได้จัดซื้อเอง เจ้าหน้าที่ขาดทักษะในการ ใช้งาน ขาดการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ได้มาใหม่ นอกจากนี้แนวทางในการแก้ไขปัญหาการป้องกันอุบัติเหตุจากจราจรทางบกไปปฏิบัติในสถานีตำรวจนครบาลบางชัน พบว่าควรมีการจัดป้ายประชาสัมพันธ์ เพื่อลดอุบัติเหตุ ประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนทราบทุกวัน การอบรมเรื่องวินัยจราจร ตามโรงเรียนต่างๆ จะชวยแก้ปัญหาได้Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27266 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000594851 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-39 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000594869 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-39 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available