From this page you can:
Home |
Search results
8 result(s) search for keyword(s) 'ยาบ้า. การเสพยา. การบำบัด การรักษา.'
Add the result to your basket Refine your search Apply to external sources Make a suggestion
รายงานการวิจัยเรื่อง การรับรู้และการสนับสนุนของสมาชิกในครอบครัวให้ผู้เสพติดยาบ้า / อุไรวรรณ วงศ์พรประทีป / โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข - 2544
Title : รายงานการวิจัยเรื่อง การรับรู้และการสนับสนุนของสมาชิกในครอบครัวให้ผู้เสพติดยาบ้า : สมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาในโรงพยาบาลธัญญารักษ์ Material Type: printed text Authors: อุไรวรรณ วงศ์พรประทีป, Author ; อัมพร วิเศษชาติ, Author ; ราตรี หุ่นดี, Author Publisher: โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข Publication Date: 2544 Pagination: 48 แผ่น. Layout: ตารางประกอบ, แผนภูมิ Size: 30 ซม. ISBN (or other code): 978-974-774-018-4 Price: บริจาค. Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ผู้ป่วย -- ยาเสพติด -- การบำบัด
[LCSH]พฤติกรรมการใช้สารเสพติดประเภทยาบ้า -- ไทย
[LCSH]ยาบ้า -- การเสพติดKeywords: ยาบ้า.
การเสพยา.
การบำบัด
การรักษา.Class number: WM270 อ949 2544 Abstract: การศึกษาครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพแบบปรากฎการณ์วิทยา โดยแบ่งการศึกษาออกเป็นการศึกษาค้นคว้าวิจัยจากเอกสารและงานวิจัย ผู้ศึกษาได้ออกแบบสอบถามให้ครอบคลุมเนื้อหา และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการศึกษา ตลอดจนได้วิเคราะห์ข้อมูลโดยการจัดกลุ่ม และอภิปรายผลโดยการให้การพรรณาความประกอบ
ผลการศึกษาพบว่า ผู้เสพยาบ้าส่สนใหญ่ไม่ได้อาศัยอยู่บ้านเดียวกับผู้นำเข้ารัีบการบำบัดรักษา แสดงให้เห็นว่าการรับรู้ของบุคคลในครอบครัวที่มิใช่บิดา มารดา มีการแสดงออกของการรับรู้ การยอมรับในตัวผู้เสพยา และให้ความช่วยเหลือนำผู้เสพติดยาบ้าเข้ารับการบำบัดรักษาด้วยความสมัครใจดีกว่าบิดา มารดา ในกรณีที่ผู้เสพติดมีปัญหาทางด้านสัมพันธภาพในครอบครัว และการใช้สถานการณ์ที่สำคัญที่เกิดขึ้นกับตัวผู้เสพเป็นเครื่องมือในการนำไปสู่การตรวจหาสารเสพติดเพื่อยืนยันว่าผู้เสพมีการเสพยาเสพติด ทำให้ผู้เสพยายอมรับว่าเสพยาและสมาชิกในครอบครัวที่การนำผู้เสพยาบ้าสมัครใจเข้ารับการบำบัดส่วนใหญ่เป็นน้า ร้อยละ 50 และเป็นเพศหญิงร้อยละ 70
จากการศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึุกษาได้ให้ข้อเสนอแนะว่า ควรมีการนำเอาสมาชิกในครอบครัวมาร่วมกันและเปลี่ยนแนวคิดในการที่จะะนำผู้เสพยาบ้าเข้าบำบัดรักษาด้วยความสมัครใจและช่วยประชาสัมพันธ์แก่ครอบครัวผู้เสพติดรายอื่นCurricular : BALA/BNS/GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23302 รายงานการวิจัยเรื่อง การรับรู้และการสนับสนุนของสมาชิกในครอบครัวให้ผู้เสพติดยาบ้า : สมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาในโรงพยาบาลธัญญารักษ์ [printed text] / อุไรวรรณ วงศ์พรประทีป, Author ; อัมพร วิเศษชาติ, Author ; ราตรี หุ่นดี, Author . - [S.l.] : โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข, 2544 . - 48 แผ่น. : ตารางประกอบ, แผนภูมิ ; 30 ซม.
ISSN : 978-974-774-018-4 : บริจาค.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ผู้ป่วย -- ยาเสพติด -- การบำบัด
[LCSH]พฤติกรรมการใช้สารเสพติดประเภทยาบ้า -- ไทย
[LCSH]ยาบ้า -- การเสพติดKeywords: ยาบ้า.
การเสพยา.
การบำบัด
การรักษา.Class number: WM270 อ949 2544 Abstract: การศึกษาครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพแบบปรากฎการณ์วิทยา โดยแบ่งการศึกษาออกเป็นการศึกษาค้นคว้าวิจัยจากเอกสารและงานวิจัย ผู้ศึกษาได้ออกแบบสอบถามให้ครอบคลุมเนื้อหา และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการศึกษา ตลอดจนได้วิเคราะห์ข้อมูลโดยการจัดกลุ่ม และอภิปรายผลโดยการให้การพรรณาความประกอบ
ผลการศึกษาพบว่า ผู้เสพยาบ้าส่สนใหญ่ไม่ได้อาศัยอยู่บ้านเดียวกับผู้นำเข้ารัีบการบำบัดรักษา แสดงให้เห็นว่าการรับรู้ของบุคคลในครอบครัวที่มิใช่บิดา มารดา มีการแสดงออกของการรับรู้ การยอมรับในตัวผู้เสพยา และให้ความช่วยเหลือนำผู้เสพติดยาบ้าเข้ารับการบำบัดรักษาด้วยความสมัครใจดีกว่าบิดา มารดา ในกรณีที่ผู้เสพติดมีปัญหาทางด้านสัมพันธภาพในครอบครัว และการใช้สถานการณ์ที่สำคัญที่เกิดขึ้นกับตัวผู้เสพเป็นเครื่องมือในการนำไปสู่การตรวจหาสารเสพติดเพื่อยืนยันว่าผู้เสพมีการเสพยาเสพติด ทำให้ผู้เสพยายอมรับว่าเสพยาและสมาชิกในครอบครัวที่การนำผู้เสพยาบ้าสมัครใจเข้ารับการบำบัดส่วนใหญ่เป็นน้า ร้อยละ 50 และเป็นเพศหญิงร้อยละ 70
จากการศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึุกษาได้ให้ข้อเสนอแนะว่า ควรมีการนำเอาสมาชิกในครอบครัวมาร่วมกันและเปลี่ยนแนวคิดในการที่จะะนำผู้เสพยาบ้าเข้าบำบัดรักษาด้วยความสมัครใจและช่วยประชาสัมพันธ์แก่ครอบครัวผู้เสพติดรายอื่นCurricular : BALA/BNS/GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23302 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000355204 THE WM270 อ949 2544 Thesis Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. ปัจจัยที่นำไปสู่การเสพยาเสพติดของผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ซึ่งถูกควบคุมตัว ณ สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการตรวจพิสูจน์เรือนจำกลางคลองเปรม แดน 13 / จามร รัตนพงศ์บวร / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : ปัจจัยที่นำไปสู่การเสพยาเสพติดของผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ซึ่งถูกควบคุมตัว ณ สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการตรวจพิสูจน์เรือนจำกลางคลองเปรม แดน 13 Original title : (Factors Leading to Drug Usage by Persons Committed for Identification Detained at the Facility for Identification of Area 13, Klong Prem Central Prison) Material Type: printed text Authors: จามร รัตนพงศ์บวร, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: vii, 66 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-12
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ยาเสพติด
[LCSH]เรือนจำกลางคลองเปรมKeywords: ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์,
สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการตรวจพิสูจน์,
การเสพยาเสพติดAbstract: การศึกษางานค้นคว้าอิสระนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทราบถึงปัจจัยที่นำไปสู่การเสพยาเสพติดของผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ซึ่งถูกควบคุมตัว ณ สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการ
ตรวจพิสูจน์ เรือนจำกลางคลองเปรม แดน 13 ซึ่งจะได้นำมาเป็นแนวทางในการปรับปรุงนโยบาย
ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยใช้วิธีการวิจัยสนาม ด้วยการสัมภาษณ์แบบเจาะจง
ในลักษณะตัวต่อตัว ซึ่งใช้คำถามแบบเดียวกันกับผู้ถูกสัมภาษณ์ทุกคน ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ซึ่งถูกควบคุมตัว ณ สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการตรวจพิสูจน์ เรือนจำกลางคลองเปรม แดน 13 จำนวน 12 คน
ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่นำไปสู่การเสพยาเสพติดของผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ซึ่งถูกควบคุมตัว ณ สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการตรวจพิสูจน์ เรือนจำกลางคลองเปรม แดน 13 เกิดจากการปัจจัยที่สำคัญ 4 ประการ คือ 1. ตัวผู้เสพยาเสพติด 2. สถาบันครอบครัว 3. สังคมและสิ่งแวดล้อม และ 4. ภาครัฐ
จากการศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษามีข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเสพยาเสพยาติด คือ ทุกภาคส่วนต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเสพยาเสพติด เช่น การให้ความรู้เกี่ยวกับโทษภัยของยาเสพติดและบทลงโทษของกฎหมาย การให้โอกาสผู้เสพยาเสพติดกลับตัวกลับใจเลิกเสพยาเสพติด ตลอดจนภาครัฐควรจัดให้มีหน่วยงานในการบำบัดรักษาผู้เสพ/ติดยาเสพติดเป็นการเฉพาะ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติดอย่างแท้จริงCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26892 SIU IS-T. ปัจจัยที่นำไปสู่การเสพยาเสพติดของผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ซึ่งถูกควบคุมตัว ณ สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการตรวจพิสูจน์เรือนจำกลางคลองเปรม แดน 13 = (Factors Leading to Drug Usage by Persons Committed for Identification Detained at the Facility for Identification of Area 13, Klong Prem Central Prison) [printed text] / จามร รัตนพงศ์บวร, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - vii, 66 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-12
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ยาเสพติด
[LCSH]เรือนจำกลางคลองเปรมKeywords: ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์,
สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการตรวจพิสูจน์,
การเสพยาเสพติดAbstract: การศึกษางานค้นคว้าอิสระนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทราบถึงปัจจัยที่นำไปสู่การเสพยาเสพติดของผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ซึ่งถูกควบคุมตัว ณ สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการ
ตรวจพิสูจน์ เรือนจำกลางคลองเปรม แดน 13 ซึ่งจะได้นำมาเป็นแนวทางในการปรับปรุงนโยบาย
ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยใช้วิธีการวิจัยสนาม ด้วยการสัมภาษณ์แบบเจาะจง
ในลักษณะตัวต่อตัว ซึ่งใช้คำถามแบบเดียวกันกับผู้ถูกสัมภาษณ์ทุกคน ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ซึ่งถูกควบคุมตัว ณ สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการตรวจพิสูจน์ เรือนจำกลางคลองเปรม แดน 13 จำนวน 12 คน
ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่นำไปสู่การเสพยาเสพติดของผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ซึ่งถูกควบคุมตัว ณ สถานที่เพื่อการควบคุมตัวและสถานที่เพื่อการตรวจพิสูจน์ เรือนจำกลางคลองเปรม แดน 13 เกิดจากการปัจจัยที่สำคัญ 4 ประการ คือ 1. ตัวผู้เสพยาเสพติด 2. สถาบันครอบครัว 3. สังคมและสิ่งแวดล้อม และ 4. ภาครัฐ
จากการศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษามีข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเสพยาเสพยาติด คือ ทุกภาคส่วนต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเสพยาเสพติด เช่น การให้ความรู้เกี่ยวกับโทษภัยของยาเสพติดและบทลงโทษของกฎหมาย การให้โอกาสผู้เสพยาเสพติดกลับตัวกลับใจเลิกเสพยาเสพติด ตลอดจนภาครัฐควรจัดให้มีหน่วยงานในการบำบัดรักษาผู้เสพ/ติดยาเสพติดเป็นการเฉพาะ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติดอย่างแท้จริงCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26892 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000593697 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-12 c.1 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000593705 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-12 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available กระบวนการติดเฮโรอีน / รักซ้อน รัตน์วิจิตต์เวช / บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ - 2538
Title : กระบวนการติดเฮโรอีน Original title : The processes of heroin addiction Material Type: printed text Authors: รักซ้อน รัตน์วิจิตต์เวช, Author Publisher: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ Publication Date: 2538 Pagination: 201 หน้า. Layout: ตารางประกอบ, แผนภูมิ Size: 30 ซม. Price: บริจาค. General note: ปริญญานิพนธ์ (ศศ.ด (พัฒนศึกษาศาสตร์))-- มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2538 Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การติดยาเสพติด -- แง่จิตวิทยา
[LCSH]การติดยาเสพติด -- แง่สังคม
[LCSH]การติดเฮโรอีน
[LCSH]ยาเสพติดกับเยาวชนKeywords: เฮโรอีน.
การเสพยา.Class number: WM270 ร711 2538 Abstract: การวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการใช้การสัมภาษณ์ระดับลึก รายละเอียดประวัติชีวิตของกลุ่มผู้ติดยาเสพติดเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสู่กระบวนการติดเฮโรอีนและทัศนะของพวกเขาเกี่ยวกับเงื่อนไขที่เกิดขึ้นในชีวิตที่ทำให้เขาเป็นผู้ติดเฮโรอีน กลุ่มตัวอย่างได้จากการเลือกแบบเชิงทฤษฎีจากเยาวชนผู้ติดเฮโรอีนที่มารับบริการบำบัดรักษาที่คลินิคยาเสพติด โดยการถอนพิษยด้วยเมทาโดน เพศชาย อายุระหว่าง 15-25 ปี จำนวนทั้งหมด 32 ราย
ผลการวิจัยพบว่า กระบวนการติดเฮโรอีนของเยาวชนประกอบด้วยขั้นตอนต่อเนื่องดังนี้
1.ขั้นเริ่มต้นเสพ เงื่อนไขที่ทำให้เยาวชนเข้าสู่ขั้นเริ่มต้นเสพ ได้แก่ เงื่อนไขด้านบุคคล เงื่อนไขด้านเพื่อน เงื่อนไขด้านครอบครัว เงื่อนไขด้านโรงเรียน เงื่อนไขเีกี่ยวกับเฮโรอีน และเงื่อนไขเสพด้วยความไม่รู้
2. ขั้นเสพต่อเนื่อง เงื่อนไขที่ทำให้เยาวชนเมื่อผ่านขั้นเริ่มต้นเสพแล้วมีการเสพต่อเนื่อง ได้แก่ ความรู้สึกเคลิบเคลิ้มสุขสบาย การประเมินความรู้สึกตนเอง การอธิบายเหตุผล การปฎิสังสรรค์กับเพื่อนที่เสพเฮโรอีน การหลีกเลี่ยงกลุ่มอาการเนื่องจากการหยุดยา และติดใจรสชาดของเฮโรอีน
ผลการวิจัยพบว่า มีเงื่อนไขที่ทำให้กระบวนการติดเฮโรอีนถูกชะลอให้ช้าออกไป ได้แก่ การให้ความหมายในเชิงลบ การไม่รู้วิธีเสพที่ถูกต้อง และเงื่อนไขด้านสถานการณ์ที่ไม่เอื้อต่อการเสพเฮโรอีนต่อ
นอกจากนั้น การธำรงการเป็นผู้ติดเฮโรอีนขึ้นอยู่กับการยอมรับและให้นิยามตนเอง เครือข่ายสัมพันธ์ ลักษณะความสัมพันธ์ การถูกประทับตรา และการมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนแบบซ่อนเร้นด้วยการแสดงตัวเหมือนคนอื่น ๆ เป็นต้น
ผลการวิจัยนี้ นำไปสู่ข้อเสนอแนะในด้านต่าง ๆ ได้แก่ การป้องกันและให้การศึกษาเกี่ยวกับการใช้ยาเสพติด การบำบัดรักษา การฟื้นฟูสมรรถภาพ การติดตามผล และการดูแลภายหลังการบำบัดรักษา ผลการวิจัยนี่จะเป็นประโยชน์ต่อพ่อ แม่ ครู อาจารย์ นักเรียน และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาเสพติดCurricular : BNS Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23292 กระบวนการติดเฮโรอีน = The processes of heroin addiction [printed text] / รักซ้อน รัตน์วิจิตต์เวช, Author . - กรุงเทพ ฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2538 . - 201 หน้า. : ตารางประกอบ, แผนภูมิ ; 30 ซม.
บริจาค.
ปริญญานิพนธ์ (ศศ.ด (พัฒนศึกษาศาสตร์))-- มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2538
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การติดยาเสพติด -- แง่จิตวิทยา
[LCSH]การติดยาเสพติด -- แง่สังคม
[LCSH]การติดเฮโรอีน
[LCSH]ยาเสพติดกับเยาวชนKeywords: เฮโรอีน.
การเสพยา.Class number: WM270 ร711 2538 Abstract: การวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการใช้การสัมภาษณ์ระดับลึก รายละเอียดประวัติชีวิตของกลุ่มผู้ติดยาเสพติดเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสู่กระบวนการติดเฮโรอีนและทัศนะของพวกเขาเกี่ยวกับเงื่อนไขที่เกิดขึ้นในชีวิตที่ทำให้เขาเป็นผู้ติดเฮโรอีน กลุ่มตัวอย่างได้จากการเลือกแบบเชิงทฤษฎีจากเยาวชนผู้ติดเฮโรอีนที่มารับบริการบำบัดรักษาที่คลินิคยาเสพติด โดยการถอนพิษยด้วยเมทาโดน เพศชาย อายุระหว่าง 15-25 ปี จำนวนทั้งหมด 32 ราย
ผลการวิจัยพบว่า กระบวนการติดเฮโรอีนของเยาวชนประกอบด้วยขั้นตอนต่อเนื่องดังนี้
1.ขั้นเริ่มต้นเสพ เงื่อนไขที่ทำให้เยาวชนเข้าสู่ขั้นเริ่มต้นเสพ ได้แก่ เงื่อนไขด้านบุคคล เงื่อนไขด้านเพื่อน เงื่อนไขด้านครอบครัว เงื่อนไขด้านโรงเรียน เงื่อนไขเีกี่ยวกับเฮโรอีน และเงื่อนไขเสพด้วยความไม่รู้
2. ขั้นเสพต่อเนื่อง เงื่อนไขที่ทำให้เยาวชนเมื่อผ่านขั้นเริ่มต้นเสพแล้วมีการเสพต่อเนื่อง ได้แก่ ความรู้สึกเคลิบเคลิ้มสุขสบาย การประเมินความรู้สึกตนเอง การอธิบายเหตุผล การปฎิสังสรรค์กับเพื่อนที่เสพเฮโรอีน การหลีกเลี่ยงกลุ่มอาการเนื่องจากการหยุดยา และติดใจรสชาดของเฮโรอีน
ผลการวิจัยพบว่า มีเงื่อนไขที่ทำให้กระบวนการติดเฮโรอีนถูกชะลอให้ช้าออกไป ได้แก่ การให้ความหมายในเชิงลบ การไม่รู้วิธีเสพที่ถูกต้อง และเงื่อนไขด้านสถานการณ์ที่ไม่เอื้อต่อการเสพเฮโรอีนต่อ
นอกจากนั้น การธำรงการเป็นผู้ติดเฮโรอีนขึ้นอยู่กับการยอมรับและให้นิยามตนเอง เครือข่ายสัมพันธ์ ลักษณะความสัมพันธ์ การถูกประทับตรา และการมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนแบบซ่อนเร้นด้วยการแสดงตัวเหมือนคนอื่น ๆ เป็นต้น
ผลการวิจัยนี้ นำไปสู่ข้อเสนอแนะในด้านต่าง ๆ ได้แก่ การป้องกันและให้การศึกษาเกี่ยวกับการใช้ยาเสพติด การบำบัดรักษา การฟื้นฟูสมรรถภาพ การติดตามผล และการดูแลภายหลังการบำบัดรักษา ผลการวิจัยนี่จะเป็นประโยชน์ต่อพ่อ แม่ ครู อาจารย์ นักเรียน และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาเสพติดCurricular : BNS Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23292 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000357044 THE WM270 ร711 2538 Book Main Library General Shelf Available รายงานการวิจัยเรื่อง กระบวนการกลายเป็นผู้ติดยาบ้าของวัยรุ่นชาย / สุกุมา แสงเดือนฉาย / โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข - 2544
Title : รายงานการวิจัยเรื่อง กระบวนการกลายเป็นผู้ติดยาบ้าของวัยรุ่นชาย Material Type: printed text Authors: สุกุมา แสงเดือนฉาย, Author ; ขนิ็ิษฐา ขันตี, Author ; ฉวีวรรณ ปัญจบุศย์, Author Publisher: โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข Publication Date: 2544 Pagination: 71 แผ่น Layout: ตาราง. Size: 30 ซม. ISBN (or other code): 978-974-774-009-5 Price: บริจาค. Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การควบคุมยาเสพติด -- ไทย
[LCSH]พฤติกรรมการใช้สารเสพติดประเภทยาบ้า -- ไทย
[LCSH]พฤติกรรมการใช้แอมฟิตะมีนในทางที่ผิด -- ไทย
[LCSH]ยาบ้า -- การบำบัดKeywords: ยาบ้า
วัยรุ่นชาย.
การเสพ.
การบำบัด.
พฤติกรรม.Class number: HV5840 ส841 2544 Abstract: เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เพื่อศึกษากระบวนการกลายเป็นผู้ติดยาบ้า และปัจจัยที่ทำให้มีการพัฒนาในการเสพยาบ้า ตั้งแต่ระยะปลูกฝัง ระยะเสพ และระยะเสพประจำของวัยรุ่นชาย อันจะนำไปสู่แนวทางป้องกันและการวางแผนในการดูแลบำบัดรักษาผู้เสพติดยาเสพติด เพื่อให้เลิกยาบ้าได้อย่างถาวร กลุ่มตัวอย่าง คือ วัยรุ่นชายอายุ 15-19 ปี ที่เข้ารับการบำบัดรักษายาบ้าในระยะบำบัดด้วยยา ในโรงพยาบาลธัญญารักษ์ระหว่างเดือนมีนาคม - เมษายน 2544 จำนวน 8 รายเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์มาวิเคราะห์ กระบวนการกลายเป็นผู้เสพติดยาบ้าในวัยรุ่นชาย
ผลการวิจัย พบว่า การเกิดกระบวนการกลายเป็นผู้เสพติดยาบ้า ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน คือ ระยะปลูกฝัง ซึ่งเป็นระยะที่หล่อหลอมความคิด ความรู้สึก ค่านิยมของวัยรุ่นที่มีต่อยาบ้าแล้วดำเนินผ่านจากระยะปลูกฝังสู่ีระยะเีริ่มเสพ ซึ่งเป็นการลองเสพในครั้งแรก โดยมีปัจจัยสาเหตุต่าง ๆ เช่น เพื่อนชวน อยากลอง สัมภันธภาพในครอบครัวไม่ดี และมีการเสพครั้งต่อ ๆ ไป เนื่องจากติดใจในรสชาดของยาบ้า มองว่ายาบ้าใช้ แล้วไม่ติด ทำให้การเสพเข้าสู่ระยะเสพประจำ ระยะนี้จะมีการเพิ่มปริมาณ และจำนวนครั้งของการเสพมากขึ้น มีความต้องการพึ่งพายาบ้าทั้งร่างกาย และจิตใจเป็นผู้เสพติดยาบ้าในที่สุด
ผลการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า ควรพัฒนานโยบายในการแก้ไขปัญหาอย่างครบวงจร โดยเฉพาะการป้องกันตั้งแต่ระยะปลูกฝัง ก่อนที่เยาวชนจะเข้าสู่กระบวนการกลายเป็นผู้ติดยาบ้าใหมีความรู้ ความคิด ทัศนคติ และค่านิยม ที่ถูกต้องเกี่ยวกับยาเสพติดในทุกระบบ และประสานความร่วมมือทุกหน่วยงานทั้งภาคเอกชน และรัฐบาลในการแก้ปัญหาอย่างจริงจังCurricular : BALA/BNS/GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23296 รายงานการวิจัยเรื่อง กระบวนการกลายเป็นผู้ติดยาบ้าของวัยรุ่นชาย [printed text] / สุกุมา แสงเดือนฉาย, Author ; ขนิ็ิษฐา ขันตี, Author ; ฉวีวรรณ ปัญจบุศย์, Author . - [S.l.] : โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข, 2544 . - 71 แผ่น : ตาราง. ; 30 ซม.
ISSN : 978-974-774-009-5 : บริจาค.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การควบคุมยาเสพติด -- ไทย
[LCSH]พฤติกรรมการใช้สารเสพติดประเภทยาบ้า -- ไทย
[LCSH]พฤติกรรมการใช้แอมฟิตะมีนในทางที่ผิด -- ไทย
[LCSH]ยาบ้า -- การบำบัดKeywords: ยาบ้า
วัยรุ่นชาย.
การเสพ.
การบำบัด.
พฤติกรรม.Class number: HV5840 ส841 2544 Abstract: เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เพื่อศึกษากระบวนการกลายเป็นผู้ติดยาบ้า และปัจจัยที่ทำให้มีการพัฒนาในการเสพยาบ้า ตั้งแต่ระยะปลูกฝัง ระยะเสพ และระยะเสพประจำของวัยรุ่นชาย อันจะนำไปสู่แนวทางป้องกันและการวางแผนในการดูแลบำบัดรักษาผู้เสพติดยาเสพติด เพื่อให้เลิกยาบ้าได้อย่างถาวร กลุ่มตัวอย่าง คือ วัยรุ่นชายอายุ 15-19 ปี ที่เข้ารับการบำบัดรักษายาบ้าในระยะบำบัดด้วยยา ในโรงพยาบาลธัญญารักษ์ระหว่างเดือนมีนาคม - เมษายน 2544 จำนวน 8 รายเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์มาวิเคราะห์ กระบวนการกลายเป็นผู้เสพติดยาบ้าในวัยรุ่นชาย
ผลการวิจัย พบว่า การเกิดกระบวนการกลายเป็นผู้เสพติดยาบ้า ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน คือ ระยะปลูกฝัง ซึ่งเป็นระยะที่หล่อหลอมความคิด ความรู้สึก ค่านิยมของวัยรุ่นที่มีต่อยาบ้าแล้วดำเนินผ่านจากระยะปลูกฝังสู่ีระยะเีริ่มเสพ ซึ่งเป็นการลองเสพในครั้งแรก โดยมีปัจจัยสาเหตุต่าง ๆ เช่น เพื่อนชวน อยากลอง สัมภันธภาพในครอบครัวไม่ดี และมีการเสพครั้งต่อ ๆ ไป เนื่องจากติดใจในรสชาดของยาบ้า มองว่ายาบ้าใช้ แล้วไม่ติด ทำให้การเสพเข้าสู่ระยะเสพประจำ ระยะนี้จะมีการเพิ่มปริมาณ และจำนวนครั้งของการเสพมากขึ้น มีความต้องการพึ่งพายาบ้าทั้งร่างกาย และจิตใจเป็นผู้เสพติดยาบ้าในที่สุด
ผลการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า ควรพัฒนานโยบายในการแก้ไขปัญหาอย่างครบวงจร โดยเฉพาะการป้องกันตั้งแต่ระยะปลูกฝัง ก่อนที่เยาวชนจะเข้าสู่กระบวนการกลายเป็นผู้ติดยาบ้าใหมีความรู้ ความคิด ทัศนคติ และค่านิยม ที่ถูกต้องเกี่ยวกับยาเสพติดในทุกระบบ และประสานความร่วมมือทุกหน่วยงานทั้งภาคเอกชน และรัฐบาลในการแก้ปัญหาอย่างจริงจังCurricular : BALA/BNS/GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23296 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000354819 THE HV5840 ส841 2544 Book Main Library General Shelf Available รายงานการวิจัยเรื่อง การตัดสินใจใช้ยาบ้าของผู้เสพติดชายวันทำงาน / เสริมสุข ราษฎร์ดุษฎี / โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข - 2544
Title : รายงานการวิจัยเรื่อง การตัดสินใจใช้ยาบ้าของผู้เสพติดชายวันทำงาน Material Type: printed text Authors: เสริมสุข ราษฎร์ดุษฎี, Author ; ดุษณีย์ ชาญปรีชา, Author ; อภิรดี พฤกษาพนาชาตื, Author ; รุจิรา อาภาุบุษยพันธุ์, Author Publisher: โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข Publication Date: 2544 Pagination: ก-ค, 39 หน้า Layout: ตารางประกอบ. Size: 30 ซม. ISBN (or other code): 978-974-773-994-1 Price: บริจาค. Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]พฤติกรรมการใช้สารเสพติดประเภทยาบ้า -- ไทย
[LCSH]ยาบ้า -- การบำบัีด
[LCSH]ยาบ้า -- การเสพติดKeywords: ยาบ้า.
วัยทำงาน.
การใช้สารเสพติด.Class number: HV5840 ร726 2544 Abstract: งานวิจัยนี้เพื่อศึกษา การรับรู้ การให้ึความหมาย และการตัดสินใจใช้ยาบ้าของชายวัยทำงาน วิธีการศึกษาใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก แบบกึ่งโครงสร้าง จากผู้ป่วยตึกมุกและตึกมรกตในโรงพยาบาลธัญญารักษ์ จำนวน 8 ราย ผลการศึกษามีดังนี้ ประเด็นที่เกี่ยวข้องและส่งผลให้เกิดการตัดสินใจใช้ยาบ้าของผู้เสพติดชายวัยทำงานได้แก่
การขาดความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องโทษ พิษภัยของยาบ้า ทำให้ผู้ป่วยมีความเชื่อและทัศนคติต่อยาบ้าไม่เหมาะสม โดยเชื่อว่าการเสพยาบ้าไม่ทำให้ติด และใช้แล้วจะทำงานได้มากขึ้น จึงทดลองใช้
โอกาสและประสบการณ์ที่ผู้ป่วยได้สัมผัสและคลุกคลีกับกลุ่มผู้ใช้ยาบ้า เมื่อมีโอกาสได้เข้าไปรับรู้และเห็นบ่อย ๆ ถูกเพื่อนชักชวย บางครั้งต้องการเป็นคนเด่น เท่ห์ เป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มเพื่อน จึงตัดสินใจทดลองใช้
การที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีการแพร่ระบาดของยาบ้า จนเห็นเป็นเรื่องปกติ เมื่อถูกเพื่อนชักชวนจึงเข้าไปร่วมเสพโดยง่าย
การเผชิญความเครียดที่ไม่มีประสิทธิภาพ ปัญหาต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้ป่วยเกิดความเครียด ได้แก่ ปัญหาครอบครัวแตกแยก ความขัดแย้งในครอบครัว ภาระหนี้ิสิน การขาดผู้ให้คำปรึกษา เมื่อผู้ป่วยไม่สามารถจัดการกับต้นเหตุของความเครียดได้สำเร็จ จึงเกิดพฤติกรรมการใช้ยาบ้าที่ทำให้ความเครียดลดลงได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น
แนวทางการแำก้่ไขเพื่อลดปัญหาให้อยู่ในระดับที่มีผลเสียหายต่อสังคมน้อยที่สุด มีดังนี้
การให้ความรู้แก่ประชาชนโดยผ่านทางสือมวลชนแขนงต่าง ๆ เกี่ยวกับโทษและพิษของยาบ้า เพื่อลดการอยากรู้อยากลอง การเพิ่มบทบาทของชุมชน ส่งเสริมให้ชุมชนมีการรวมตัวกันเพื่อให้ชุมชนเข้มแข็ง ปลุกจิตสำนึกให้ทุกคนเกิดความรับผิดชอบ ป้องกันยาเสพติดที่อาจเกิดขี้นกับชุมชนของตนเอง กำจัดแหล่งมั่วสุมและแหล่งอบายมุขต่าง ๆ ที่อาจนำไปสู่ปัญหายาเสพติด และการเพิ่มหน่วยบริการให้คำปรึกษาปัญหายาเสพติดให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ การเปิดบริการโทรศัพท์สายด่วนตอบปัญหายาเสพติด และปัญหาที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ที่มีปัญหาได้มีที่ปรึกษาและได้รับความช่วยเหลือที่ถูกต้อง เป็นการแก้ไขและลดปัญหาทางสังคม
Curricular : BALA/BNS/GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23297 รายงานการวิจัยเรื่อง การตัดสินใจใช้ยาบ้าของผู้เสพติดชายวันทำงาน [printed text] / เสริมสุข ราษฎร์ดุษฎี, Author ; ดุษณีย์ ชาญปรีชา, Author ; อภิรดี พฤกษาพนาชาตื, Author ; รุจิรา อาภาุบุษยพันธุ์, Author . - [S.l.] : โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข, 2544 . - ก-ค, 39 หน้า : ตารางประกอบ. ; 30 ซม.
ISSN : 978-974-773-994-1 : บริจาค.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]พฤติกรรมการใช้สารเสพติดประเภทยาบ้า -- ไทย
[LCSH]ยาบ้า -- การบำบัีด
[LCSH]ยาบ้า -- การเสพติดKeywords: ยาบ้า.
วัยทำงาน.
การใช้สารเสพติด.Class number: HV5840 ร726 2544 Abstract: งานวิจัยนี้เพื่อศึกษา การรับรู้ การให้ึความหมาย และการตัดสินใจใช้ยาบ้าของชายวัยทำงาน วิธีการศึกษาใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก แบบกึ่งโครงสร้าง จากผู้ป่วยตึกมุกและตึกมรกตในโรงพยาบาลธัญญารักษ์ จำนวน 8 ราย ผลการศึกษามีดังนี้ ประเด็นที่เกี่ยวข้องและส่งผลให้เกิดการตัดสินใจใช้ยาบ้าของผู้เสพติดชายวัยทำงานได้แก่
การขาดความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องโทษ พิษภัยของยาบ้า ทำให้ผู้ป่วยมีความเชื่อและทัศนคติต่อยาบ้าไม่เหมาะสม โดยเชื่อว่าการเสพยาบ้าไม่ทำให้ติด และใช้แล้วจะทำงานได้มากขึ้น จึงทดลองใช้
โอกาสและประสบการณ์ที่ผู้ป่วยได้สัมผัสและคลุกคลีกับกลุ่มผู้ใช้ยาบ้า เมื่อมีโอกาสได้เข้าไปรับรู้และเห็นบ่อย ๆ ถูกเพื่อนชักชวย บางครั้งต้องการเป็นคนเด่น เท่ห์ เป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มเพื่อน จึงตัดสินใจทดลองใช้
การที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีการแพร่ระบาดของยาบ้า จนเห็นเป็นเรื่องปกติ เมื่อถูกเพื่อนชักชวนจึงเข้าไปร่วมเสพโดยง่าย
การเผชิญความเครียดที่ไม่มีประสิทธิภาพ ปัญหาต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้ป่วยเกิดความเครียด ได้แก่ ปัญหาครอบครัวแตกแยก ความขัดแย้งในครอบครัว ภาระหนี้ิสิน การขาดผู้ให้คำปรึกษา เมื่อผู้ป่วยไม่สามารถจัดการกับต้นเหตุของความเครียดได้สำเร็จ จึงเกิดพฤติกรรมการใช้ยาบ้าที่ทำให้ความเครียดลดลงได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น
แนวทางการแำก้่ไขเพื่อลดปัญหาให้อยู่ในระดับที่มีผลเสียหายต่อสังคมน้อยที่สุด มีดังนี้
การให้ความรู้แก่ประชาชนโดยผ่านทางสือมวลชนแขนงต่าง ๆ เกี่ยวกับโทษและพิษของยาบ้า เพื่อลดการอยากรู้อยากลอง การเพิ่มบทบาทของชุมชน ส่งเสริมให้ชุมชนมีการรวมตัวกันเพื่อให้ชุมชนเข้มแข็ง ปลุกจิตสำนึกให้ทุกคนเกิดความรับผิดชอบ ป้องกันยาเสพติดที่อาจเกิดขี้นกับชุมชนของตนเอง กำจัดแหล่งมั่วสุมและแหล่งอบายมุขต่าง ๆ ที่อาจนำไปสู่ปัญหายาเสพติด และการเพิ่มหน่วยบริการให้คำปรึกษาปัญหายาเสพติดให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ การเปิดบริการโทรศัพท์สายด่วนตอบปัญหายาเสพติด และปัญหาที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ที่มีปัญหาได้มีที่ปรึกษาและได้รับความช่วยเหลือที่ถูกต้อง เป็นการแก้ไขและลดปัญหาทางสังคม
Curricular : BALA/BNS/GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23297 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000355188 THE HV5840 ร726 2544 Thesis Main Library Thesis Corner Available รายงานการวิจัยเรื่อง การรับรู้และการช่วยเหลือของพ่อแม่ที่มีบุตรชายวัยรุ่นเสพติดยาบ้า / วันเพ็ญ ใจปทุม / โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข - 2544
Title : รายงานการวิจัยเรื่อง การรับรู้และการช่วยเหลือของพ่อแม่ที่มีบุตรชายวัยรุ่นเสพติดยาบ้า Material Type: printed text Authors: วันเพ็ญ ใจปทุม, Author ; สุภาริณีย์ สายแสงทอง, Author ; ศศลักษณ์ กล้าไพรี, Author Publisher: โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข Publication Date: 2544 Pagination: 63 หน้า. Layout: ตารางประกอบ. Size: 30 ซม. ISBN (or other code): 978-974-774-028-1 Price: บริจาค. Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]พฤติกรรมการใช้สารเสพติดประเภทยาบ้า -- ไทย
[LCSH]ยาบ้า -- การบำบัีด
[LCSH]ยาบ้า -- การเสพติดKeywords: การรับรู้.
วัยรุ่นชาย.
การเสพยา.Class number: HV5840 ว715 2544 Abstract: เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา คือพ่อ แม่ที่มีบุตรชายวัยรุ่นเสพติดยาบ้า อายุระหว่าง 15-19 ปี ตึกโกเมน โรงพยาบาลธัญญารักษ์ จำนวน 20 คน โดยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก แบบกึ่งโครงสร้าง เป็นรายบุคคลโดยการสัมภาษณ์พร้อมกับทั้งพ่อและแม่ เพื่อให้ได้ข้อมูลเป็นจริงและการใช้คำถามเดียวกันทั้งพ่อแม่ที่บ่งบอกถึงการรับรู้ การให้ความหมายเกี่ยวกับยาบ้าและพฤติกรรมการช่วยเหลือของพ่อแม่ที่แตกต่างกันออกไป ข้อมูลที่ได้จ้ากการสัมภาษณ์นำมาประมวล และวิเคราะห์เพื่อหาคำอธิบายพฤติกรรมที่เกิดขึ้น
ผลจากการศึกษาพบว่า การรับรู้ของพ่อแม่เกี่ยวกับความหมายของยาบ้า พ่อ แม่ให้ความหมายของยาบ้าในทางที่ไม่ดี คือ ยาบ้าเมื่อเสพเข้าไปแล้วทำให้เกิดผลกระทบทั้งต่อร่างกายและจิตใจ พฤติกรรมทำให้สังคมไม่ยอมนับ ส่วนความหมายของยาบ้าในทางที่ดี คือ ใช้แล้วขยันทำงาน ไม่หลับ ร่างกายกระปรี้ กระเปร่า ซึ่งพ่อบางคนรับรู้โดยประสบการณ์ตรง คือ การทดลองใช้ และมีแม่บางรายไม่สามารถบอกความหมายของยาบ้าได้ เนื่องจากไม่ทราบ หรือรู้จักมาก่อน
การรับรู้ว่าลูกติดยาบ้าของพ่อแม่ รับรู้โดยการสังเกตจาก อาการทางร่างกาย จิตใจ และพฤติกรรม มีผู้อื่นมาบอก เช่น ครู และเพื่อนบ้าน จึงทราบว่าลูกเสพยาบ้า
ความรู้สึกของพ่อแม่เมื่อรู้ว่าลูกติดยา ความรู้สึกแรกที่พบ คือ รู้สึกเสียใจมาก บางรายโกรธถึงขั้นทุบตีลูก โทษตนเองว่าดูแลลูกไม่ดี น้อยใจที่ลูกไม่เชื่อฟัง รู้สึกท้อแท้กลัวลูกจะรักษาไมาหาย อายกลัวเสียชื่อเสียง
การค้นหาสาเหตุ จากการศึกษาพบว่า สาเหตุที่ทำให้ลูกติดยาคือ การคบเพื่อนที่ติดยาเสพติด และพฤติกรรมเกเร มีสมาชิกในครอบครัวที่ติดยาบ้า จึงมีพฤติกรรมที่เลียนแบบ ติดจาการมีโรคประจำตัว มีปมด้อย เช่น หอบหืด ชัก พ่อแม่ไม่เข้าใจลูกไม่ฟังเหตุผล พ่อแม่ไม่มีเวลาดูลูก ให้เงินลูกมากเกินไป อุปนิสัยของลูกชอบประชด พ่อแม่ตามใจ หรือบีบบังคับมากเกินไปCurricular : BALA/BNS/GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23300 รายงานการวิจัยเรื่อง การรับรู้และการช่วยเหลือของพ่อแม่ที่มีบุตรชายวัยรุ่นเสพติดยาบ้า [printed text] / วันเพ็ญ ใจปทุม, Author ; สุภาริณีย์ สายแสงทอง, Author ; ศศลักษณ์ กล้าไพรี, Author . - [S.l.] : โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข, 2544 . - 63 หน้า. : ตารางประกอบ. ; 30 ซม.
ISSN : 978-974-774-028-1 : บริจาค.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]พฤติกรรมการใช้สารเสพติดประเภทยาบ้า -- ไทย
[LCSH]ยาบ้า -- การบำบัีด
[LCSH]ยาบ้า -- การเสพติดKeywords: การรับรู้.
วัยรุ่นชาย.
การเสพยา.Class number: HV5840 ว715 2544 Abstract: เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา คือพ่อ แม่ที่มีบุตรชายวัยรุ่นเสพติดยาบ้า อายุระหว่าง 15-19 ปี ตึกโกเมน โรงพยาบาลธัญญารักษ์ จำนวน 20 คน โดยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก แบบกึ่งโครงสร้าง เป็นรายบุคคลโดยการสัมภาษณ์พร้อมกับทั้งพ่อและแม่ เพื่อให้ได้ข้อมูลเป็นจริงและการใช้คำถามเดียวกันทั้งพ่อแม่ที่บ่งบอกถึงการรับรู้ การให้ความหมายเกี่ยวกับยาบ้าและพฤติกรรมการช่วยเหลือของพ่อแม่ที่แตกต่างกันออกไป ข้อมูลที่ได้จ้ากการสัมภาษณ์นำมาประมวล และวิเคราะห์เพื่อหาคำอธิบายพฤติกรรมที่เกิดขึ้น
ผลจากการศึกษาพบว่า การรับรู้ของพ่อแม่เกี่ยวกับความหมายของยาบ้า พ่อ แม่ให้ความหมายของยาบ้าในทางที่ไม่ดี คือ ยาบ้าเมื่อเสพเข้าไปแล้วทำให้เกิดผลกระทบทั้งต่อร่างกายและจิตใจ พฤติกรรมทำให้สังคมไม่ยอมนับ ส่วนความหมายของยาบ้าในทางที่ดี คือ ใช้แล้วขยันทำงาน ไม่หลับ ร่างกายกระปรี้ กระเปร่า ซึ่งพ่อบางคนรับรู้โดยประสบการณ์ตรง คือ การทดลองใช้ และมีแม่บางรายไม่สามารถบอกความหมายของยาบ้าได้ เนื่องจากไม่ทราบ หรือรู้จักมาก่อน
การรับรู้ว่าลูกติดยาบ้าของพ่อแม่ รับรู้โดยการสังเกตจาก อาการทางร่างกาย จิตใจ และพฤติกรรม มีผู้อื่นมาบอก เช่น ครู และเพื่อนบ้าน จึงทราบว่าลูกเสพยาบ้า
ความรู้สึกของพ่อแม่เมื่อรู้ว่าลูกติดยา ความรู้สึกแรกที่พบ คือ รู้สึกเสียใจมาก บางรายโกรธถึงขั้นทุบตีลูก โทษตนเองว่าดูแลลูกไม่ดี น้อยใจที่ลูกไม่เชื่อฟัง รู้สึกท้อแท้กลัวลูกจะรักษาไมาหาย อายกลัวเสียชื่อเสียง
การค้นหาสาเหตุ จากการศึกษาพบว่า สาเหตุที่ทำให้ลูกติดยาคือ การคบเพื่อนที่ติดยาเสพติด และพฤติกรรมเกเร มีสมาชิกในครอบครัวที่ติดยาบ้า จึงมีพฤติกรรมที่เลียนแบบ ติดจาการมีโรคประจำตัว มีปมด้อย เช่น หอบหืด ชัก พ่อแม่ไม่เข้าใจลูกไม่ฟังเหตุผล พ่อแม่ไม่มีเวลาดูลูก ให้เงินลูกมากเกินไป อุปนิสัยของลูกชอบประชด พ่อแม่ตามใจ หรือบีบบังคับมากเกินไปCurricular : BALA/BNS/GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23300 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000354892 HV5840 ว715 2544 Book Main Library General Shelf Available รายงานการวิจัียเรื่อง ปัจจัยที่มีผลต่อการเลิกเสพยาเสพติดของผู้ที่เคยผ่านการบำบัีดรักษา / สุนีรัตน์ บริพันธ์ / โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข - 2544
Title : รายงานการวิจัียเรื่อง ปัจจัยที่มีผลต่อการเลิกเสพยาเสพติดของผู้ที่เคยผ่านการบำบัีดรักษา Material Type: printed text Authors: สุนีรัตน์ บริพันธ์, Author ; ศรีพรรณ สว่างวงศ์, Author Publisher: โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข Publication Date: 2544 Pagination: 58 แผ่น Layout: ตารางประกอบ Size: 30 ซม. ISBN (or other code): 978-974-774-019-2 Price: บริจาค. Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]พฤติกรรมการใช้สารเสพติดประเภทยาบ้า -- ไทย
[LCSH]ยาบ้า -- การบำบัีด
[LCSH]ยาบ้า -- การเสพติดKeywords: ยาบ้า.
การเสพติด.
การบำบัด.
การรักษา.Class number: WM270 ส845 2544 Abstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ ศึกษาปัจจัย เงื่อนไขที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลิกยาเสพติดของผู้ที่เคยผ่านการบำบัดรักษา โดยเก็บรวบรวมข้อมูลใช้แนวการสัมภาษณ์แบบกึ่งโคีรงสร้างลักษณะคำถามปลายเปิดที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ผู้ให้ข้อมูลถูกคัดเลือกอย่างเฉพาะเจาะจง โดยต้องเป็นผู้ที่เคยผ่านการบำบัดรักษาจากศูนย์บำบัดรักษายาเสพติดจังหวัดเชียงใหม่ และไม่กลับไปเสพซ้ำเป็นเวลามากกว่า 1 ปีขึ้นไป มีภูมิลำเนาอยู่ใน 17 จังหวัดภาคเหนือจำนวน 10 ราย
ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่น่าจะเป็นปัจจัยเบื้องต้นที่นำไปสู่การเลิกยาได้ในที่สุด คือ ความสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาจากสถานบำบัด โดยพบว่าแรงบันดาลใจที่สำคัญที่ทำให้ต้องการเลิกยา ได้แก่ ความรับผิดชอบและภาระหน้าที่ที่ต้องเลี้ยงดูครอบครัว เพราตระหนักในความรัก ความห่วงใยของพ่อแม่ ไม่อยากให้พ่อแม่เสียใจและเป็นทุกข์ ต้องการเอาชนะคำสบประมาทและการดูถูกดูแคลนจากผู้อื่น ต่อมาเมื่อผู้ติดยาได้รับการจำหน่ายจากสถานบำบัด หลังจากได้รับการบำบัดครบขั้นตอนแล้ว จะมีการหลีกเลี่ยงภาวะเสี่ยงที่จะไม่กลับไปเสพซ้ำด้วยการตัดขาดจากสังคมเดิม ไม่คบเพื่อนกลุ่มเก่า การรู้จักปฏิเสธ บางรายพักงานอยู่กับบ้านเป็นปี หรือพักการเรียนระยะหนึ่ง แล้วจึงย้ายโรงเรียนใหม่ นอกจากนี้ความเชื่อมั่นว่ายาเสพติิดเป็นสิ่งที่สามารถเลิกได้ได้ใจเข็มแข็ง เป็นแรงจูงใจที่สำคัญที่ทำให้ผู้ติดยาเสพติดมีความมุ่งมั่นที่จะเลิกให้ได้ การรับรู้โทษและผลเสียของการติดยาเสพติด โดยเฉพาะการรัีบรู้ที่เป็นประสบการณ์ตรงจากการมีชีวิตเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ครอบครัวให้ความรัก ความใอลอุ่นมากขึ้น การมีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น การเห็นคุณค่าของตนเองจากความรู้สึกว่าเป็นที่ต้องการของผู้อื่น และพึ่งพาได้ มีความรู้สึกนึิกคิดต่อตนเองในทางบวกตรงตามสภาพความเป็นจริง เข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อ่ืื่อนและเมื่อมีปัญหาก็มีแหล่งใหคำปรึกษา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนในครอบครัว และเพื่อน ๆ ตลอดจนการได้รับโอกาสและการยอมรับจากชุมชน ทำให้ผู้เลิกยามีความพึงพอใจในตนเองในระดับหนึ่ง ช่วยลดความคับข้องใจและความเครียด ทำให้ผู้เลิกยามีความพึงพอใจในตนเองในระดับหนึ่ง ช่วยลดความคับข้องใจและความเครียด ทำให้ไม่ต้องหันกลับไปพึ่งพายาเสพติด
ผลการศึกษานี้เป็นประโยชน์สำหรับองค์กร และบุุคลากรทางด้านสาธารณสุข ในการนำไปกำหนดนโยบาย และประยุกต์ใช้ในด้านการปฏิบัติการพยาบาลเชิงรุก เพื่อให้ผู้บำบัดมีการรับรู้
Curricular : BALA/BNS/GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23303 รายงานการวิจัียเรื่อง ปัจจัยที่มีผลต่อการเลิกเสพยาเสพติดของผู้ที่เคยผ่านการบำบัีดรักษา [printed text] / สุนีรัตน์ บริพันธ์, Author ; ศรีพรรณ สว่างวงศ์, Author . - [S.l.] : โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข, 2544 . - 58 แผ่น : ตารางประกอบ ; 30 ซม.
ISSN : 978-974-774-019-2 : บริจาค.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]พฤติกรรมการใช้สารเสพติดประเภทยาบ้า -- ไทย
[LCSH]ยาบ้า -- การบำบัีด
[LCSH]ยาบ้า -- การเสพติดKeywords: ยาบ้า.
การเสพติด.
การบำบัด.
การรักษา.Class number: WM270 ส845 2544 Abstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ ศึกษาปัจจัย เงื่อนไขที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลิกยาเสพติดของผู้ที่เคยผ่านการบำบัดรักษา โดยเก็บรวบรวมข้อมูลใช้แนวการสัมภาษณ์แบบกึ่งโคีรงสร้างลักษณะคำถามปลายเปิดที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ผู้ให้ข้อมูลถูกคัดเลือกอย่างเฉพาะเจาะจง โดยต้องเป็นผู้ที่เคยผ่านการบำบัดรักษาจากศูนย์บำบัดรักษายาเสพติดจังหวัดเชียงใหม่ และไม่กลับไปเสพซ้ำเป็นเวลามากกว่า 1 ปีขึ้นไป มีภูมิลำเนาอยู่ใน 17 จังหวัดภาคเหนือจำนวน 10 ราย
ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่น่าจะเป็นปัจจัยเบื้องต้นที่นำไปสู่การเลิกยาได้ในที่สุด คือ ความสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาจากสถานบำบัด โดยพบว่าแรงบันดาลใจที่สำคัญที่ทำให้ต้องการเลิกยา ได้แก่ ความรับผิดชอบและภาระหน้าที่ที่ต้องเลี้ยงดูครอบครัว เพราตระหนักในความรัก ความห่วงใยของพ่อแม่ ไม่อยากให้พ่อแม่เสียใจและเป็นทุกข์ ต้องการเอาชนะคำสบประมาทและการดูถูกดูแคลนจากผู้อื่น ต่อมาเมื่อผู้ติดยาได้รับการจำหน่ายจากสถานบำบัด หลังจากได้รับการบำบัดครบขั้นตอนแล้ว จะมีการหลีกเลี่ยงภาวะเสี่ยงที่จะไม่กลับไปเสพซ้ำด้วยการตัดขาดจากสังคมเดิม ไม่คบเพื่อนกลุ่มเก่า การรู้จักปฏิเสธ บางรายพักงานอยู่กับบ้านเป็นปี หรือพักการเรียนระยะหนึ่ง แล้วจึงย้ายโรงเรียนใหม่ นอกจากนี้ความเชื่อมั่นว่ายาเสพติิดเป็นสิ่งที่สามารถเลิกได้ได้ใจเข็มแข็ง เป็นแรงจูงใจที่สำคัญที่ทำให้ผู้ติดยาเสพติดมีความมุ่งมั่นที่จะเลิกให้ได้ การรับรู้โทษและผลเสียของการติดยาเสพติด โดยเฉพาะการรัีบรู้ที่เป็นประสบการณ์ตรงจากการมีชีวิตเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ครอบครัวให้ความรัก ความใอลอุ่นมากขึ้น การมีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น การเห็นคุณค่าของตนเองจากความรู้สึกว่าเป็นที่ต้องการของผู้อื่น และพึ่งพาได้ มีความรู้สึกนึิกคิดต่อตนเองในทางบวกตรงตามสภาพความเป็นจริง เข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อ่ืื่อนและเมื่อมีปัญหาก็มีแหล่งใหคำปรึกษา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนในครอบครัว และเพื่อน ๆ ตลอดจนการได้รับโอกาสและการยอมรับจากชุมชน ทำให้ผู้เลิกยามีความพึงพอใจในตนเองในระดับหนึ่ง ช่วยลดความคับข้องใจและความเครียด ทำให้ผู้เลิกยามีความพึงพอใจในตนเองในระดับหนึ่ง ช่วยลดความคับข้องใจและความเครียด ทำให้ไม่ต้องหันกลับไปพึ่งพายาเสพติด
ผลการศึกษานี้เป็นประโยชน์สำหรับองค์กร และบุุคลากรทางด้านสาธารณสุข ในการนำไปกำหนดนโยบาย และประยุกต์ใช้ในด้านการปฏิบัติการพยาบาลเชิงรุก เพื่อให้ผู้บำบัดมีการรับรู้
Curricular : BALA/BNS/GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23303 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000354884 THE WM270 ส845 2544 Thesis Main Library Thesis Corner Available เหตุผลของการเปลี่ยนจาการเสพเฮดรอีนเป็นยาบ้าในผู้ป่วยเสพติด / วัชรี มีศิลป์ / โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข - 2544
Title : เหตุผลของการเปลี่ยนจาการเสพเฮดรอีนเป็นยาบ้าในผู้ป่วยเสพติด : รายงานการวิจัย Material Type: printed text Authors: วัชรี มีศิลป์, Author ; ลัดดา ขอบทอง, Author Publisher: โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข Publication Date: 2544 Pagination: ค, 51 แผ่น Size: 30 ซม. ISBN (or other code): 978-974-773-998-4 Price: บริจาค Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ผู้ป่วย -- ยาเสพติด
[LCSH]ผู้ป่วย -- ยาเสพติด -- การบำบัด
[LCSH]ยาบ้า
[LCSH]เฮโรอีน
[LCSH]โรงพยาบาลธัญญารักษ์Keywords: เฮโรอีน.
ผู้ป่วย.
ยาบ้า.Class number: WM100 ว712 2544 Abstract: เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เพื่อศึกษาการรับรู้เกี่ยวกับเฮโรอีน ยาบ้า และเหตุผลการเปลี่ยนจากการเสพเฮโรอีนมาเป็นยาบ้า โดยศึกษาในกลุ่มผู้ติดเสพติดที่เข้ารับการบำบัดรักษาในโรงพยาบาลธัญญารักษ์ด้วยการติดยาบ้า และมีประวัติการเสพติดเฮโรอีนมาก่อนจำนวนทั้งสิ้น 14 คน การเก็บข้อมูลเป็นการเก็บข้อมูลเชิงลึก ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน - 17 พฤษภาคม 2544 ผลการศึกษาพบว่า ผู้เสพติดรับรู้เกี่ยวกับเฮโรอีนใน 2 ลักษณะคือ รู้ประโยชน์ของเฮโรอีนว่าเป็นสารแห่งความสุข และลดความเจ็บป่วย และรู้เกี่ยวกับโทษของเฮโรอีนว่าทำให้สุขภาพทรุดโทรม มีความทุกข์ทรมานมากเมื่อขาดเฮดรอีน มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงในทางลบ ทำลายอนาคต และมีความรู้สึกทางเพศลดลง ส่วนการรับรู้เกี่ยวกับยาบ้ามี 2 ลักษณะ เช่นกันคือ รับรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของยาบ้าว่า เป็นสารกระตุ้นประสาทที่ทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย กล้าคิดกล้าทำ เป็นยาที่ทดแืทนเฮโรอีน ลดความเจ็บป่วยทางกาย และทำให้มีความต้องการทางเพศมากขึ้น ส่วนโทษของยาบ้า พบว่าทำให้บุคลิกกภาพเปลี่ยนไปในทางลงคือ ก้าวร้าวและหยาบคายมากขึ้น สุขภาพเสื่อมโทรมจากการขาดสารอาหาร หรือรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา
ส่วนเหตุผลของการหันมาเสพยาบ้า คือ ในระยะเริ่มต้นเสพเกิดจากคำแนะนำจากกลุ่มเพือ่น และต้องการทดลอง ในระยะต่อมาผู้เสพติดตัดสินใจเสพยาบ้าด้วยเหตุผลที่ว่าเฮโรอีนหายากและแพงกว่ายาบ้า สามารถทดแทนอาการขาดเฮโรอีนได้ มีความพึงพอมจต่อฤทธิ์ของยาบ้า หาซื้อได้ง่าย เลิกเสพง่าย ต้องการการยอมรับจากกลุ่มเพื่อนที่เสพติด จากสมาชิกในครอบครัวว่ายาบ้ามีความรุนแรงน้อยกว่าเฮโรอีน และการได้รับการกระตุ้นจากสื่อโฆษณาต่าง ๆ
ข้อเสนอแนะ ด้านการป้องกัน เนื่องจากยาบ้ามีการวางขายกันมาก แม้ในที่สาธารณะ เช่น ตลาดนัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้าไปกวดขันในสถานที่ต่าง ๆ ให้มากขึ้น ให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับยาบ้าแก่เยาวชน และประชาชนทั่วไป ด้านสื่อ ควรระมัดระวังในการให้ข้อมูลทางสื่อโฆษณาต่าง ๆ ให้มากขึ้นเนื่องจากการเสนอภาพยาบ้า หรือยาสเพติดในการจับกุมเอเยนต์ หรือผู้ขายอย่างชัดเจนเป็นการกระตุ้น หรือยั่วยุให้ผู้เสพติด หรือผู้เคยเสพมีความต้องการในการเสพได้ ในสถานบำบัดรักษายาเสพติดควรเน้นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้เสพติดในทางบวก วิธีการที่ถูกต้องในการสร้างความสุขให้ตนเองและมีระบบการส่งต่อ รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้มีการอบรมหลักสูตรทางจิตเวชแก่บุคลากรต่าง ๆ เพิ่มขึ้นCurricular : BNS Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23264 เหตุผลของการเปลี่ยนจาการเสพเฮดรอีนเป็นยาบ้าในผู้ป่วยเสพติด : รายงานการวิจัย [printed text] / วัชรี มีศิลป์, Author ; ลัดดา ขอบทอง, Author . - [S.l.] : โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข, 2544 . - ค, 51 แผ่น ; 30 ซม.
ISSN : 978-974-773-998-4 : บริจาค
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ผู้ป่วย -- ยาเสพติด
[LCSH]ผู้ป่วย -- ยาเสพติด -- การบำบัด
[LCSH]ยาบ้า
[LCSH]เฮโรอีน
[LCSH]โรงพยาบาลธัญญารักษ์Keywords: เฮโรอีน.
ผู้ป่วย.
ยาบ้า.Class number: WM100 ว712 2544 Abstract: เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เพื่อศึกษาการรับรู้เกี่ยวกับเฮโรอีน ยาบ้า และเหตุผลการเปลี่ยนจากการเสพเฮโรอีนมาเป็นยาบ้า โดยศึกษาในกลุ่มผู้ติดเสพติดที่เข้ารับการบำบัดรักษาในโรงพยาบาลธัญญารักษ์ด้วยการติดยาบ้า และมีประวัติการเสพติดเฮโรอีนมาก่อนจำนวนทั้งสิ้น 14 คน การเก็บข้อมูลเป็นการเก็บข้อมูลเชิงลึก ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน - 17 พฤษภาคม 2544 ผลการศึกษาพบว่า ผู้เสพติดรับรู้เกี่ยวกับเฮโรอีนใน 2 ลักษณะคือ รู้ประโยชน์ของเฮโรอีนว่าเป็นสารแห่งความสุข และลดความเจ็บป่วย และรู้เกี่ยวกับโทษของเฮโรอีนว่าทำให้สุขภาพทรุดโทรม มีความทุกข์ทรมานมากเมื่อขาดเฮดรอีน มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงในทางลบ ทำลายอนาคต และมีความรู้สึกทางเพศลดลง ส่วนการรับรู้เกี่ยวกับยาบ้ามี 2 ลักษณะ เช่นกันคือ รับรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของยาบ้าว่า เป็นสารกระตุ้นประสาทที่ทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย กล้าคิดกล้าทำ เป็นยาที่ทดแืทนเฮโรอีน ลดความเจ็บป่วยทางกาย และทำให้มีความต้องการทางเพศมากขึ้น ส่วนโทษของยาบ้า พบว่าทำให้บุคลิกกภาพเปลี่ยนไปในทางลงคือ ก้าวร้าวและหยาบคายมากขึ้น สุขภาพเสื่อมโทรมจากการขาดสารอาหาร หรือรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา
ส่วนเหตุผลของการหันมาเสพยาบ้า คือ ในระยะเริ่มต้นเสพเกิดจากคำแนะนำจากกลุ่มเพือ่น และต้องการทดลอง ในระยะต่อมาผู้เสพติดตัดสินใจเสพยาบ้าด้วยเหตุผลที่ว่าเฮโรอีนหายากและแพงกว่ายาบ้า สามารถทดแทนอาการขาดเฮโรอีนได้ มีความพึงพอมจต่อฤทธิ์ของยาบ้า หาซื้อได้ง่าย เลิกเสพง่าย ต้องการการยอมรับจากกลุ่มเพื่อนที่เสพติด จากสมาชิกในครอบครัวว่ายาบ้ามีความรุนแรงน้อยกว่าเฮโรอีน และการได้รับการกระตุ้นจากสื่อโฆษณาต่าง ๆ
ข้อเสนอแนะ ด้านการป้องกัน เนื่องจากยาบ้ามีการวางขายกันมาก แม้ในที่สาธารณะ เช่น ตลาดนัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้าไปกวดขันในสถานที่ต่าง ๆ ให้มากขึ้น ให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับยาบ้าแก่เยาวชน และประชาชนทั่วไป ด้านสื่อ ควรระมัดระวังในการให้ข้อมูลทางสื่อโฆษณาต่าง ๆ ให้มากขึ้นเนื่องจากการเสนอภาพยาบ้า หรือยาสเพติดในการจับกุมเอเยนต์ หรือผู้ขายอย่างชัดเจนเป็นการกระตุ้น หรือยั่วยุให้ผู้เสพติด หรือผู้เคยเสพมีความต้องการในการเสพได้ ในสถานบำบัดรักษายาเสพติดควรเน้นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้เสพติดในทางบวก วิธีการที่ถูกต้องในการสร้างความสุขให้ตนเองและมีระบบการส่งต่อ รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้มีการอบรมหลักสูตรทางจิตเวชแก่บุคลากรต่าง ๆ เพิ่มขึ้นCurricular : BNS Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23264 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000355170 THE WM100 ว712 2544 Thesis Main Library Thesis Corner Available