From this page you can:
Home |
Search results
13 result(s) search for keyword(s) 'แรงจูงใจ.หลักสูตรระยะสั้น.ศูนย์ฝึกอาชีพ.'
Add the result to your basket Refine your search Apply to external sources Make a suggestion
แรงจูงใจในการเข้าศึกษาหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น / จินตนา ไทธานี in วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการจัดการ, Vol. 11 No. 1 (ม.ค-มิ.ย) 2557 ([09/30/2014])
[article]
Title : แรงจูงใจในการเข้าศึกษาหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น : ของนักศึกษาศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร Original title : Motivations for students to enroll in intensive training course at Bangkok metropolitan occupational training centers Material Type: printed text Authors: จินตนา ไทธานี, Author ; วัฒนีย์ โรจน์สัมฤทธิ์, Author ; สุมลนิตย์ เกิดหนุนวงศ์, Author Publication Date: 2014 Article on page: 12-19 Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการจัดการ > Vol. 11 No. 1 (ม.ค-มิ.ย) 2557 [09/30/2014] . - 12-19Keywords: แรงจูงใจ.หลักสูตรระยะสั้น.ศูนย์ฝึกอาชีพ. Link for e-copy: www.umt.ac.th Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23984 [article] แรงจูงใจในการเข้าศึกษาหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น = Motivations for students to enroll in intensive training course at Bangkok metropolitan occupational training centers : ของนักศึกษาศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร [printed text] / จินตนา ไทธานี, Author ; วัฒนีย์ โรจน์สัมฤทธิ์, Author ; สุมลนิตย์ เกิดหนุนวงศ์, Author . - 2014 . - 12-19.
Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการจัดการ > Vol. 11 No. 1 (ม.ค-มิ.ย) 2557 [09/30/2014] . - 12-19Keywords: แรงจูงใจ.หลักสูตรระยะสั้น.ศูนย์ฝึกอาชีพ. Link for e-copy: www.umt.ac.th Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23984 SIU IS-T. ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำกับขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน กรณีศึกษา: ข้าราชการตำรวจสังกัดสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ / เนตินันท์ ด้วงประดิษฐ์ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2016
Collection Title: SIU IS-T Title : ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำกับขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน กรณีศึกษา: ข้าราชการตำรวจสังกัดสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ Original title : Relationships between Leadership and Work Morale: A Case of Police Officers at the Office of Strategy Material Type: printed text Authors: เนตินันท์ ด้วงประดิษฐ์, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; อุษณีย์ เสวกวัชรี, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2016 Pagination: viii, 123 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: SOM-MBA-2016-04
Independent Study. [MS[MBA]]--Shinawatra University, 2016.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ตำรวจ -- การปฏิบัติงาน
[LCSH]ภาวะผู้นำ -- การศึกษาเฉพาะกรณี
[LCSH]สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ -- ตำรวจKeywords: ภาวะผู้นำ
ข้าราชการตำรวจ
แรงจูงใจในการทำงานAbstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภาวะผู้นำที่มีผลต่อขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน โดยศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำกับขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน ของข้าราชการตำรวจ สังกัด สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัย คือ ข้าราชการตำรวจ สังกัด สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ ซึ่งเป็นการศึกษาเชิงสำรวจ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล จำนวน 169 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ คือ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน คือ Independent t-test, One-way ANOVA หากพบความแตกต่างจะทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ โดยวิธี LSD (Least Significant Difference) และทดสอบความสัมพันธ์โดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
ผลการศึกษาพบว่า ข้าราชการตำรวจ สังกัด สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ มีระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะผู้นำที่มีผลต่อขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน ภาพรวมมีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ส่วนระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง และภาวะผู้นำแบบชี้นำ ผู้นำแบบสนับสนุน ผู้นำแบบมีส่วนร่วม ผู้นำแบบมุ่งเน้นความสำเร็จมีความสัมพันธ์กับขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานอยู่ในระดับสูงมากและเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 นอกจากนี้ยังพบว่า เพศ อายุ ระดับการศึกษา ระยะเวลาการทำงาน และระดับชั้นยศ ที่แตกต่างกันมีผลต่อขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานที่ไม่แตกต่างกัน ส่วนสถานภาพที่แตกต่างกันมีผลต่อขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05Curricular : BBA/GE/MBA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26489 SIU IS-T. ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำกับขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน กรณีศึกษา: ข้าราชการตำรวจสังกัดสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ = Relationships between Leadership and Work Morale: A Case of Police Officers at the Office of Strategy [printed text] / เนตินันท์ ด้วงประดิษฐ์, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; อุษณีย์ เสวกวัชรี, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016 . - viii, 123 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: SOM-MBA-2016-04
Independent Study. [MS[MBA]]--Shinawatra University, 2016.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ตำรวจ -- การปฏิบัติงาน
[LCSH]ภาวะผู้นำ -- การศึกษาเฉพาะกรณี
[LCSH]สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ -- ตำรวจKeywords: ภาวะผู้นำ
ข้าราชการตำรวจ
แรงจูงใจในการทำงานAbstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภาวะผู้นำที่มีผลต่อขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน โดยศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำกับขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน ของข้าราชการตำรวจ สังกัด สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัย คือ ข้าราชการตำรวจ สังกัด สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ ซึ่งเป็นการศึกษาเชิงสำรวจ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล จำนวน 169 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ คือ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน คือ Independent t-test, One-way ANOVA หากพบความแตกต่างจะทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ โดยวิธี LSD (Least Significant Difference) และทดสอบความสัมพันธ์โดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
ผลการศึกษาพบว่า ข้าราชการตำรวจ สังกัด สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ มีระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะผู้นำที่มีผลต่อขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน ภาพรวมมีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ส่วนระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง และภาวะผู้นำแบบชี้นำ ผู้นำแบบสนับสนุน ผู้นำแบบมีส่วนร่วม ผู้นำแบบมุ่งเน้นความสำเร็จมีความสัมพันธ์กับขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานอยู่ในระดับสูงมากและเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 นอกจากนี้ยังพบว่า เพศ อายุ ระดับการศึกษา ระยะเวลาการทำงาน และระดับชั้นยศ ที่แตกต่างกันมีผลต่อขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานที่ไม่แตกต่างกัน ส่วนสถานภาพที่แตกต่างกันมีผลต่อขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05Curricular : BBA/GE/MBA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26489 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000591550 SIU IS-T: SOM-MBA-2016-04 c.1 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available SIU IS-T. ปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจชั้นประทวน กองกำกับการอารักขา 2 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน / ธงชัย มานะพัฒนเสถียร / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : ปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจชั้นประทวน กองกำกับการอารักขา 2 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน Original title : Factors Affecting Work Motivation Among the Non-Commissioned Police. The Royal Protection Police Sub-Division 2, Protection and Crowd Control Division Material Type: printed text Authors: ธงชัย มานะพัฒนเสถียร, Author ; อุมาหฤทัย วรรณศรี, Associated Name ; วรเดช จันทรศร, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: x, 99 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-03
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ตำรวจ -- การปฏิบัติงาน
[LCSH]แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่Keywords: แรงจูงใจ,
การปฏิบัติงาน,
กองกำกับการอารักขา 2 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนAbstract: การศึกษาเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจชั้นประทวน กองกำกับการอารักขา 2 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับและปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจชั้นประทวน กองกำกับการอารักขา 2 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนมากเป็นเพศชาย มีอายุ 20 – 30 ปี มีอายุราชการ 1 – 10 ปี มีระดับการศึกษาระดับปริญญาตรี มีระดับชั้นยศสิบตำรวจตรี และปฏิบัติงานอยู่ในสายงานอารักขาที่ 4 ปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจชั้นประทวน กองกำกับการอารักขา 2 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายปัจจัย พบว่า ในปัจจัยจูงใจ โดยรวมและรายด้านทุกด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้านแล้วเรียงอันดับจากมากไปน้อย ได้แก่ ด้านความสำเร็จของงาน ด้านเนื้องาน ด้านความรับผิดชอบต่องาน ด้านความรู้สึกยอมรับ และด้านความก้าวหน้า ส่วนปัจจัยค้ำจุน โดยภาพรวมและรายด้านทุกด้านอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณารายด้านแล้วเรียงอันดับจากมากไปน้อย ได้แก่ ด้านนโยบายและการบริหารขององค์การ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร่วมงาน ด้านการบังคับบัญชา ด้านเงินเดือนและความมั่นคงในงาน และด้านสภาพแวดล้อมในการทำงาน ตามลำดับ ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า สถานภาพส่วนบุคคลด้านเพศ อายุ ระดับการศึกษา อายุราชการ ชั้นยศ และสายงานที่ปฏิบัติ แตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจชั้นประทวน กองกำกับการอารักขา 2 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนไม่แตกต่างกัน
ข้อเสนอแนะ: ประการแรก ผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานควรปรับปรุงหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา ควรมีการจัดฝึกอบรม ศึกษาดูงานให้กับบุคลากรเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ควรส่งเสริมให้กำลังพลได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ ควรจัดให้มีเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานอย่างเพียงพอและมีความทันสมัย ควรจัดสวัสดิการเงินกู้ช่วยเหลือทางการเงินด้านต่าง ๆ รวมทั้งควรจัดให้มีสวัสดิการอาหารกลางวันและจำหน่ายสินค้าราคาถูกให้กับกำลังพล ในด้านนโยบายและการบริหารขององค์การ ผู้บังคับบัญชาควรส่งเสริมให้กำลังพลมีส่วนร่วมในการจัดทำแผนงานการปฏิบัติงาน และใช้ภาวะผู้นำในการบริหารองค์การเพื่อทำให้กำลังพลเกิดความกระตือรือร้นในการทำงานอยู่เสมอ และประการที่สอง ในการศึกษางานวิจัยครั้งต่อไป ควรพิจารณาหาวิธีการวิจัยในลักษณะอื่นนอกเหนือจากการวิจัยแบบสำรวจเพื่อให้ได้ข้อมูลที่หลากหลาย
Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26684 SIU IS-T. ปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจชั้นประทวน กองกำกับการอารักขา 2 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน = Factors Affecting Work Motivation Among the Non-Commissioned Police. The Royal Protection Police Sub-Division 2, Protection and Crowd Control Division [printed text] / ธงชัย มานะพัฒนเสถียร, Author ; อุมาหฤทัย วรรณศรี, Associated Name ; วรเดช จันทรศร, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - x, 99 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-03
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ตำรวจ -- การปฏิบัติงาน
[LCSH]แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่Keywords: แรงจูงใจ,
การปฏิบัติงาน,
กองกำกับการอารักขา 2 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนAbstract: การศึกษาเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจชั้นประทวน กองกำกับการอารักขา 2 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับและปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจชั้นประทวน กองกำกับการอารักขา 2 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนมากเป็นเพศชาย มีอายุ 20 – 30 ปี มีอายุราชการ 1 – 10 ปี มีระดับการศึกษาระดับปริญญาตรี มีระดับชั้นยศสิบตำรวจตรี และปฏิบัติงานอยู่ในสายงานอารักขาที่ 4 ปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจชั้นประทวน กองกำกับการอารักขา 2 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายปัจจัย พบว่า ในปัจจัยจูงใจ โดยรวมและรายด้านทุกด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้านแล้วเรียงอันดับจากมากไปน้อย ได้แก่ ด้านความสำเร็จของงาน ด้านเนื้องาน ด้านความรับผิดชอบต่องาน ด้านความรู้สึกยอมรับ และด้านความก้าวหน้า ส่วนปัจจัยค้ำจุน โดยภาพรวมและรายด้านทุกด้านอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณารายด้านแล้วเรียงอันดับจากมากไปน้อย ได้แก่ ด้านนโยบายและการบริหารขององค์การ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร่วมงาน ด้านการบังคับบัญชา ด้านเงินเดือนและความมั่นคงในงาน และด้านสภาพแวดล้อมในการทำงาน ตามลำดับ ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า สถานภาพส่วนบุคคลด้านเพศ อายุ ระดับการศึกษา อายุราชการ ชั้นยศ และสายงานที่ปฏิบัติ แตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจชั้นประทวน กองกำกับการอารักขา 2 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนไม่แตกต่างกัน
ข้อเสนอแนะ: ประการแรก ผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานควรปรับปรุงหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา ควรมีการจัดฝึกอบรม ศึกษาดูงานให้กับบุคลากรเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ควรส่งเสริมให้กำลังพลได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ ควรจัดให้มีเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานอย่างเพียงพอและมีความทันสมัย ควรจัดสวัสดิการเงินกู้ช่วยเหลือทางการเงินด้านต่าง ๆ รวมทั้งควรจัดให้มีสวัสดิการอาหารกลางวันและจำหน่ายสินค้าราคาถูกให้กับกำลังพล ในด้านนโยบายและการบริหารขององค์การ ผู้บังคับบัญชาควรส่งเสริมให้กำลังพลมีส่วนร่วมในการจัดทำแผนงานการปฏิบัติงาน และใช้ภาวะผู้นำในการบริหารองค์การเพื่อทำให้กำลังพลเกิดความกระตือรือร้นในการทำงานอยู่เสมอ และประการที่สอง ในการศึกษางานวิจัยครั้งต่อไป ควรพิจารณาหาวิธีการวิจัยในลักษณะอื่นนอกเหนือจากการวิจัยแบบสำรวจเพื่อให้ได้ข้อมูลที่หลากหลาย
Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26684 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000593259 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-03 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000593192 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-03 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. ปัจจัยที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบปราม ของข้าราชการตำรวจน้ำ สถานีตำรวจน้ำ 1 กองกำกับการ 12 กองบังคับการตำรวจน้ำจังหวัดเชียงราย / เชี่ยววิทย์ ศรีวิเชียร / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2016
Collection Title: SIU IS-T Title : ปัจจัยที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบปราม ของข้าราชการตำรวจน้ำ สถานีตำรวจน้ำ 1 กองกำกับการ 12 กองบังคับการตำรวจน้ำจังหวัดเชียงราย Original title : Factors that Affected Motivation in job for Preventing and Suppressing of Marine Police Station 1 Marine Police Division 12 district Chiang Rai Province Material Type: printed text Authors: เชี่ยววิทย์ ศรีวิเชียร, Author ; อุมาหฤทัย วรรณศรี, Associated Name ; วรเดช จันทรศร, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2016 Pagination: viii, 89 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-15
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การจูงใจในการทำงาน -- เชียงราย
[LCSH]ข้าราชการตำรวจน้ำ -- การปฏิบัติหน้าที่Keywords: แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ความรับผิดชอบและความสำเร็จของงาน
ความก้าวหน้าและความมั่นคง
นโยบายและการบริหารงาน
สภาพแวดล้อมในการทำงานAbstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบปรามของข้าราชการตำรวจน้ำ กองกำกับการ 12 กองบังคับตำรวจน้ำจังหวัดเชียงราย 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบปรามของข้าราชการตำรวจน้ำ กองกำกับการ 12 กองบังคับตำรวจน้ำจังหวัดเชียงราย 3)เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะในการสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบปรามของข้าราชการตำรวจน้ำ กองกำกับการ 12 กองบังคับตำรวจน้ำจังหวัดเชียงรายการศึกษาวิจัยนี้เป็นการศึกษาวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้ขนาดกลุ่มตัวอย่างเท่ากับ 129 ตัวอย่าง ในการสรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลของข้าราชการตำรวจน้ำ กองกำกับการ 12 กองบังคับการตำรวจน้ำ จังหวัดเชียงรายเป็นข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ ได้แก่ 1. เพศ 2. อายุ 3. สถานภาพสมรส 4. การศึกษา 5.ประสบการณ์การทำงาน และ 6.รายได้เป็นการแจกแจงจำนวน (ความถี่) และร้อยละ จากการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามจากข้อมูลส่วนบุคคลของข้าราชการตำรวจน้ำ กองกำกับการ 12 กองบังคับการตำรวจน้ำ จังหวัดเชียงรายเป็นข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุระหว่าง 36-45 ปี สถานภาพสมรสแล้ว มีการศึกษาระดับปริญญาตรีมีประสบการณ์การทำงาน ระหว่าง 16-20 ปี และรายได้อยู่ระหว่าง10,001 – 20,000 บาทในการสรุปผลการวิจัยเกี่ยวกับปัจจัยที่สำคัญ 7 ด้าน ประกอบด้วย ด้านความรับผิดชอบ และความสำเร็จของงานด้านความก้าวหน้าและความมั่นคง ด้านการยอมรับนับถือด้านความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นด้านนโยบายและการบริหารงาน ด้านเงินเดือนและสวัสดิการ ด้านสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบปรามของข้าราชการตำรวจน้ำ กองกำกับการ 12 กองบังคับการตำรวจน้ำ จังหวัดเชียงราย โดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีข้อเสนอแนะของการศึกษาค้นคว้าควรจัดให้มีองค์ประกอบด้านการกระตุ้นเกี่ยวกับงานซึ่งอาจทำได้หลายลักษณะด้วยกัน วิธีที่ยอมรับกันมากวิธีหนึ่งคือ การกระจายงานได้แก่ลดการเข้มงวดและเปิดโอกาสให้มีการใช้เหตุผลและความรับผิดชอบในงานให้มากขึ้น จัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำทำงานร่วมกันเป็นหน่วยเดียวที่มีความสมบูรณ์ในตัวมากกว่าที่จะแยกกันทำงานตามลำพังเป็นส่วน ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำมากขึ้นในการตัดสินใจและการปฏิบัติและให้มีอิสระบ้างในการดำเนินงาน จัดให้มีการประชาสัมพันธ์รายงานผลผลิตต่อผู้ปฏิบัติโดยตรงอย่างสม่ำเสมอและบ่อย ๆมากขึ้น กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำลองทำงานใหม่ ๆและงานที่มีความยากมากขึ้น ซึ่งจะสร้างแรงจูงใจให้พยายามและก้าวหน้ามากขึ้น และมีการมอบงานพิเศษให้ทำเพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำจะได้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะอย่าง อาจเป็นด้านปฏิบัติหรือกระบวนการทำงานหรือการพัฒนาการคิดของพนักงานแต่ละคน Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26545 SIU IS-T. ปัจจัยที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบปราม ของข้าราชการตำรวจน้ำ สถานีตำรวจน้ำ 1 กองกำกับการ 12 กองบังคับการตำรวจน้ำจังหวัดเชียงราย = Factors that Affected Motivation in job for Preventing and Suppressing of Marine Police Station 1 Marine Police Division 12 district Chiang Rai Province [printed text] / เชี่ยววิทย์ ศรีวิเชียร, Author ; อุมาหฤทัย วรรณศรี, Associated Name ; วรเดช จันทรศร, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016 . - viii, 89 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-15
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การจูงใจในการทำงาน -- เชียงราย
[LCSH]ข้าราชการตำรวจน้ำ -- การปฏิบัติหน้าที่Keywords: แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ความรับผิดชอบและความสำเร็จของงาน
ความก้าวหน้าและความมั่นคง
นโยบายและการบริหารงาน
สภาพแวดล้อมในการทำงานAbstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบปรามของข้าราชการตำรวจน้ำ กองกำกับการ 12 กองบังคับตำรวจน้ำจังหวัดเชียงราย 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบปรามของข้าราชการตำรวจน้ำ กองกำกับการ 12 กองบังคับตำรวจน้ำจังหวัดเชียงราย 3)เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะในการสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบปรามของข้าราชการตำรวจน้ำ กองกำกับการ 12 กองบังคับตำรวจน้ำจังหวัดเชียงรายการศึกษาวิจัยนี้เป็นการศึกษาวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้ขนาดกลุ่มตัวอย่างเท่ากับ 129 ตัวอย่าง ในการสรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลของข้าราชการตำรวจน้ำ กองกำกับการ 12 กองบังคับการตำรวจน้ำ จังหวัดเชียงรายเป็นข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ ได้แก่ 1. เพศ 2. อายุ 3. สถานภาพสมรส 4. การศึกษา 5.ประสบการณ์การทำงาน และ 6.รายได้เป็นการแจกแจงจำนวน (ความถี่) และร้อยละ จากการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามจากข้อมูลส่วนบุคคลของข้าราชการตำรวจน้ำ กองกำกับการ 12 กองบังคับการตำรวจน้ำ จังหวัดเชียงรายเป็นข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุระหว่าง 36-45 ปี สถานภาพสมรสแล้ว มีการศึกษาระดับปริญญาตรีมีประสบการณ์การทำงาน ระหว่าง 16-20 ปี และรายได้อยู่ระหว่าง10,001 – 20,000 บาทในการสรุปผลการวิจัยเกี่ยวกับปัจจัยที่สำคัญ 7 ด้าน ประกอบด้วย ด้านความรับผิดชอบ และความสำเร็จของงานด้านความก้าวหน้าและความมั่นคง ด้านการยอมรับนับถือด้านความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นด้านนโยบายและการบริหารงาน ด้านเงินเดือนและสวัสดิการ ด้านสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบปรามของข้าราชการตำรวจน้ำ กองกำกับการ 12 กองบังคับการตำรวจน้ำ จังหวัดเชียงราย โดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีข้อเสนอแนะของการศึกษาค้นคว้าควรจัดให้มีองค์ประกอบด้านการกระตุ้นเกี่ยวกับงานซึ่งอาจทำได้หลายลักษณะด้วยกัน วิธีที่ยอมรับกันมากวิธีหนึ่งคือ การกระจายงานได้แก่ลดการเข้มงวดและเปิดโอกาสให้มีการใช้เหตุผลและความรับผิดชอบในงานให้มากขึ้น จัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำทำงานร่วมกันเป็นหน่วยเดียวที่มีความสมบูรณ์ในตัวมากกว่าที่จะแยกกันทำงานตามลำพังเป็นส่วน ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำมากขึ้นในการตัดสินใจและการปฏิบัติและให้มีอิสระบ้างในการดำเนินงาน จัดให้มีการประชาสัมพันธ์รายงานผลผลิตต่อผู้ปฏิบัติโดยตรงอย่างสม่ำเสมอและบ่อย ๆมากขึ้น กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำลองทำงานใหม่ ๆและงานที่มีความยากมากขึ้น ซึ่งจะสร้างแรงจูงใจให้พยายามและก้าวหน้ามากขึ้น และมีการมอบงานพิเศษให้ทำเพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำจะได้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะอย่าง อาจเป็นด้านปฏิบัติหรือกระบวนการทำงานหรือการพัฒนาการคิดของพนักงานแต่ละคน Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26545 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000591857 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-15 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000591865 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-15 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. ปัจจัยเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์กรภาครัฐ : กรณีศึกษาสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง / พีรัฐติ วิทยประพัฒน์ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : ปัจจัยเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์กรภาครัฐ : กรณีศึกษาสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง Original title : Reinforcing Motivation Factors in Performance of Government Official: A Case Study of Public Debt Management Office, Ministry of Finance Material Type: printed text Authors: พีรัฐติ วิทยประพัฒน์, Author ; เพชรรัตน์ โล้วิชากรติกุล, Associated Name ; อุษณีย์ เสวกวัชรี, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: viii, 60 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: SOM-MBA-2017-01
Independent Study. [MS[MBA]]--Shinawatra University, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]กระทรวงการคลัง -- บุคลากร -- สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
[LCSH]แรงจูงใจในการทำงานKeywords: แรงจูงใจ,
บุคลากรองค์กรภาครัฐAbstract: การวิจัยเรื่องปัจจัยเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์กรภาครัฐ : กรณีศึกษาสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากร 2) เพื่อเปรียบเทียบแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรโดยรวม และรายด้าน ได้แก่ ด้านความสำเร็จในการปฏิบัติงาน ด้านการยอมรับนับถือ ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติ ด้านความรับผิดชอบ และด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ บุคลากรของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ในปี พ.ศ. 2559 จำนวน 250 คน กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 154 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลครั้งนี้ ได้แก่ แบบสอบถามเกี่ยวกับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากร 5 ด้าน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มใช้การทดสอบที (t - Test) ส่วนการทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยจากกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 2 กลุ่มใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One - Way ANOVA)
โดยผลการวิจัยพบว่า 1) บุคลากรเพศชายและหญิงมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมและในแต่ละด้านไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) บุคลากรที่มีอายุแตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมแตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) บุคลากรที่มีระดับการศึกษาแตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านการยอมรับนับถือ และด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) บุคลากรที่มีรายได้แตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมและในแต่ละด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5) บุคลากรที่มีประเภทตำแหน่งแตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมแตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติ และด้านความรับผิดชอบไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 6) บุคลากรที่มีประสบการณ์ทำงานแตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมแตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Curricular : BBA/MBA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26624 SIU IS-T. ปัจจัยเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์กรภาครัฐ : กรณีศึกษาสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง = Reinforcing Motivation Factors in Performance of Government Official: A Case Study of Public Debt Management Office, Ministry of Finance [printed text] / พีรัฐติ วิทยประพัฒน์, Author ; เพชรรัตน์ โล้วิชากรติกุล, Associated Name ; อุษณีย์ เสวกวัชรี, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - viii, 60 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: SOM-MBA-2017-01
Independent Study. [MS[MBA]]--Shinawatra University, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]กระทรวงการคลัง -- บุคลากร -- สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
[LCSH]แรงจูงใจในการทำงานKeywords: แรงจูงใจ,
บุคลากรองค์กรภาครัฐAbstract: การวิจัยเรื่องปัจจัยเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์กรภาครัฐ : กรณีศึกษาสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากร 2) เพื่อเปรียบเทียบแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรโดยรวม และรายด้าน ได้แก่ ด้านความสำเร็จในการปฏิบัติงาน ด้านการยอมรับนับถือ ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติ ด้านความรับผิดชอบ และด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ บุคลากรของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ในปี พ.ศ. 2559 จำนวน 250 คน กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 154 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลครั้งนี้ ได้แก่ แบบสอบถามเกี่ยวกับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากร 5 ด้าน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มใช้การทดสอบที (t - Test) ส่วนการทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยจากกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 2 กลุ่มใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One - Way ANOVA)
โดยผลการวิจัยพบว่า 1) บุคลากรเพศชายและหญิงมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมและในแต่ละด้านไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) บุคลากรที่มีอายุแตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมแตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) บุคลากรที่มีระดับการศึกษาแตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านการยอมรับนับถือ และด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) บุคลากรที่มีรายได้แตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมและในแต่ละด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5) บุคลากรที่มีประเภทตำแหน่งแตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมแตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติ และด้านความรับผิดชอบไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 6) บุคลากรที่มีประสบการณ์ทำงานแตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมแตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Curricular : BBA/MBA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26624 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000592731 SIU IS-T: SOM-MBA-2017-01 c.1 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000592764 SIU IS-T: SOM-MBA-2017-01 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available SIU IS-T. แนวทางในการสร้างแรงจูงใจในการทำงานของข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด / สุนันทา สาภูงา / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : แนวทางในการสร้างแรงจูงใจในการทำงานของข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด Original title : Motivation Building Direction of Polices in Narcotics Suppression Police Bureau Material Type: printed text Authors: สุนันทา สาภูงา, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: viii, 73 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-34
Independent Study [MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด
[LCSH]การจูงใจในการทำงาน
[LCSH]ข้าราชการตำรวจKeywords: การทำงาน,
แรงจูงใจ,
ตำรวจAbstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเพื่อเปรียบเทียบระดับแรงจูงใจในการทำงานของข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ ข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จำนวน 310 คน ใช้สถิติ เช่น ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลและใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว One-Way ANOVA ในการทดสอบสมมติฐาน
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนมากมีอายุระหว่าง 31 ถึง 40 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี มีระดับตำแหน่งชั้นยศ ส.ต.ต. ถึง ส.ต.อ. มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,000 ถึง 20,000 บาท และมีอายุราชการระหว่าง 1 ถึง 10 ปี ผลการวิจัยพบว่า ข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด มีระดับแรงจูงในการทำงาน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านความรับผิดชอบ รองลงมา คือ ด้านความสำเร็จในการงาน ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติ ด้านความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และด้านการได้รับการยอมรับนับถือ ตามลำดับ ผลการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่าปัจจัยส่วนบุคคลกับแรงจูงใจในการทำงาน พบว่า ข้าราชการตำรวจที่มีอายุ ระดับการศึกษา ระดับตำแหน่งชั้นยศ รายได้ และอายุราชการ แตกต่างกัน มีแรงจูงใจในการทำงาน ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดไม่แตกต่างกันCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27271 SIU IS-T. แนวทางในการสร้างแรงจูงใจในการทำงานของข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด = Motivation Building Direction of Polices in Narcotics Suppression Police Bureau [printed text] / สุนันทา สาภูงา, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - viii, 73 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-34
Independent Study [MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด
[LCSH]การจูงใจในการทำงาน
[LCSH]ข้าราชการตำรวจKeywords: การทำงาน,
แรงจูงใจ,
ตำรวจAbstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเพื่อเปรียบเทียบระดับแรงจูงใจในการทำงานของข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ ข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จำนวน 310 คน ใช้สถิติ เช่น ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลและใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว One-Way ANOVA ในการทดสอบสมมติฐาน
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนมากมีอายุระหว่าง 31 ถึง 40 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี มีระดับตำแหน่งชั้นยศ ส.ต.ต. ถึง ส.ต.อ. มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,000 ถึง 20,000 บาท และมีอายุราชการระหว่าง 1 ถึง 10 ปี ผลการวิจัยพบว่า ข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด มีระดับแรงจูงในการทำงาน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านความรับผิดชอบ รองลงมา คือ ด้านความสำเร็จในการงาน ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติ ด้านความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และด้านการได้รับการยอมรับนับถือ ตามลำดับ ผลการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่าปัจจัยส่วนบุคคลกับแรงจูงใจในการทำงาน พบว่า ข้าราชการตำรวจที่มีอายุ ระดับการศึกษา ระดับตำแหน่งชั้นยศ รายได้ และอายุราชการ แตกต่างกัน มีแรงจูงใจในการทำงาน ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดไม่แตกต่างกันCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27271 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000594950 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-34 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000594968 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-34 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. แรงจูงใจในการทำงานของพนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น / ปัญจมา เวชชศาสตร์ / สถาบันรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันรัฐประศาสนศาตร์และธรรมาภิบาล - 2557
Collection Title: SIU IS-T Title : แรงจูงใจในการทำงานของพนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น : เขตพื้นที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง Original title : Work motivation for personnel of Pluak Daeng subdistrict administration, Rayoung province Material Type: printed text Authors: ปัญจมา เวชชศาสตร์, Author Publisher: สถาบันรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันรัฐประศาสนศาตร์และธรรมาภิบาล Publication Date: 2557 Pagination: viii, 47 หน้า Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: IS-T. [MPA.[รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2014.
Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]แรงจูงใจในการทำงาน
[LCSH]แรงจูงใจในการทำงาน -- ไทย -- ระยองKeywords: แรงจูงใจในการทำงาน
พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
อำเภอปลวกแดงClass number: SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-09 Abstract: การศึกษาเรื่องแรงจูงใจในการทำงานของพนักงานส่วนท้องถิ่น เขพพื้นที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบ พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เขพพื้นที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง มีแรงจูงใจในการทำงานมากน้อยเพียงใด มีปัจจัยใดที่มีผลต่อการสร้างแรงจูงใจในการทำงานของพนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เขตพื้นที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง วิธีการศึกษาครั้งนี้ใช้วิธีเชิงปริมาณ มีกลุ่มตัวอย่างจำนวน 217 คน และนำมาวิเคราะห์โดยใช้วิธีสถิติเชิงพรรณา (Descriptive statistics) Curricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=25683 SIU IS-T. แรงจูงใจในการทำงานของพนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น = Work motivation for personnel of Pluak Daeng subdistrict administration, Rayoung province : เขตพื้นที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง [printed text] / ปัญจมา เวชชศาสตร์, Author . - [S.l.] : สถาบันรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันรัฐประศาสนศาตร์และธรรมาภิบาล, 2557 . - viii, 47 หน้า : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
IS-T. [MPA.[รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2014.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]แรงจูงใจในการทำงาน
[LCSH]แรงจูงใจในการทำงาน -- ไทย -- ระยองKeywords: แรงจูงใจในการทำงาน
พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
อำเภอปลวกแดงClass number: SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-09 Abstract: การศึกษาเรื่องแรงจูงใจในการทำงานของพนักงานส่วนท้องถิ่น เขพพื้นที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบ พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เขพพื้นที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง มีแรงจูงใจในการทำงานมากน้อยเพียงใด มีปัจจัยใดที่มีผลต่อการสร้างแรงจูงใจในการทำงานของพนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เขตพื้นที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง วิธีการศึกษาครั้งนี้ใช้วิธีเชิงปริมาณ มีกลุ่มตัวอย่างจำนวน 217 คน และนำมาวิเคราะห์โดยใช้วิธีสถิติเชิงพรรณา (Descriptive statistics) Curricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=25683 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000506996 SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-09 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000506871 SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-09 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Not for loan SIU IS-T. แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ ฝ่ายสนับสนุน 3 กองบังคับการสนับสนุน กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน / สามารถ ทวีกาญจน์ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ ฝ่ายสนับสนุน 3 กองบังคับการสนับสนุน กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน Original title : Motivation to Work Police Support Sub Division 3, Support Division, Border Patrol Police Bureau Material Type: printed text Authors: สามารถ ทวีกาญจน์, Author ; วรเดช จันทรศร, Associated Name ; อุมาหฤทัย วรรณศรี, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: ix, 60 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-07
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การจูงใจในการทำงาน
[LCSH]ข้าราชการตำรวจ
[LCSH]ตำรวจตระเวนชายแดนKeywords: แรงจูงใจในการปฏิบัติงาน,
ตำรวจตระเวนชายแดน,
ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์Abstract: การศึกษาค้นคว้าอิสระเรื่องแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ ฝ่ายสนับสนุน 3 กองบังคับการสนับสนุน กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงปริมาณโดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อศึกษาถึงระดับแรงจูงใจ และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ ฝ่ายสนับสนุน 3 กองบังคับการสนับสนุน กองบัญชาการตำรวจตระเวน จากกลุ่มตัวอย่างข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรระดับ รองสารวัตร และชั้นประทวน จำนวน 63 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุระหว่าง 31 – 40 ปี มีการศึกษาระดับปริญญาตรี ระดับชั้นยศจ่าสิบตำรวจ และดาบตำรวจ มีอัตราเงินเดือนระหว่าง 20,001 – 25,000 บาท
ผลการศึกษาครั้งนี้พบว่า แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ ฝ่ายสนับสนุน 3 กองบังคับการสนับสนุน กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านอยู่ในระดับมาก 10 ด้าน คือ ด้านความสำเร็จในการปฏิบัติงาน ด้านการได้รับการยอมรับ ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติ ด้านความรับผิดชอบ ด้านความก้าวหน้าในการปฏิบัติงาน ด้านนโยบาย การบริหาร ด้านการปกครองบังคับบัญชา ด้านความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชา ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ด้านสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน ส่วนด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการ อยู่ในระดับปานกลาง ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ข้าราชการตำรวจ ฝ่ายสนับสนุน 3 กองบังคับการ สนับสนุน กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา ระดับชั้นยศ เงินเดือน และอายุราชการ ต่างกัน มีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05
ข้อเสนอแนะจากการศึกษา
1. ควรมีการศึกษาในระดับกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อจะได้ทราบถึงความคิดเห็นของข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ให้ครอบคลุมทุกสายงาน และทุกมิติพื้นที่ ได้อย่างครอบคลุม ซึ่งจะได้รับความคิดเห็นที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
2. ควรมีการศึกษาถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อระดับแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน และมีการเปรียบเทียบกับตัวแปรอิสระ เพื่อสามารถอธิบายความสัมพันธ์ และปัจจัยต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม
3. ควรศึกษาถึงแนวทางการเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ โดยพิจารณาให้ครบ ครอบคลุมทุกด้านเพื่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานได้อย่างเต็มศักยภาพ และเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดแก่หน่วยงานCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26783 SIU IS-T. แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ ฝ่ายสนับสนุน 3 กองบังคับการสนับสนุน กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน = Motivation to Work Police Support Sub Division 3, Support Division, Border Patrol Police Bureau [printed text] / สามารถ ทวีกาญจน์, Author ; วรเดช จันทรศร, Associated Name ; อุมาหฤทัย วรรณศรี, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - ix, 60 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-07
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การจูงใจในการทำงาน
[LCSH]ข้าราชการตำรวจ
[LCSH]ตำรวจตระเวนชายแดนKeywords: แรงจูงใจในการปฏิบัติงาน,
ตำรวจตระเวนชายแดน,
ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์Abstract: การศึกษาค้นคว้าอิสระเรื่องแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ ฝ่ายสนับสนุน 3 กองบังคับการสนับสนุน กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงปริมาณโดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อศึกษาถึงระดับแรงจูงใจ และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ ฝ่ายสนับสนุน 3 กองบังคับการสนับสนุน กองบัญชาการตำรวจตระเวน จากกลุ่มตัวอย่างข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรระดับ รองสารวัตร และชั้นประทวน จำนวน 63 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุระหว่าง 31 – 40 ปี มีการศึกษาระดับปริญญาตรี ระดับชั้นยศจ่าสิบตำรวจ และดาบตำรวจ มีอัตราเงินเดือนระหว่าง 20,001 – 25,000 บาท
ผลการศึกษาครั้งนี้พบว่า แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ ฝ่ายสนับสนุน 3 กองบังคับการสนับสนุน กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านอยู่ในระดับมาก 10 ด้าน คือ ด้านความสำเร็จในการปฏิบัติงาน ด้านการได้รับการยอมรับ ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติ ด้านความรับผิดชอบ ด้านความก้าวหน้าในการปฏิบัติงาน ด้านนโยบาย การบริหาร ด้านการปกครองบังคับบัญชา ด้านความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชา ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ด้านสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน ส่วนด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการ อยู่ในระดับปานกลาง ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ข้าราชการตำรวจ ฝ่ายสนับสนุน 3 กองบังคับการ สนับสนุน กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา ระดับชั้นยศ เงินเดือน และอายุราชการ ต่างกัน มีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05
ข้อเสนอแนะจากการศึกษา
1. ควรมีการศึกษาในระดับกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อจะได้ทราบถึงความคิดเห็นของข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ให้ครอบคลุมทุกสายงาน และทุกมิติพื้นที่ ได้อย่างครอบคลุม ซึ่งจะได้รับความคิดเห็นที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
2. ควรมีการศึกษาถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อระดับแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน และมีการเปรียบเทียบกับตัวแปรอิสระ เพื่อสามารถอธิบายความสัมพันธ์ และปัจจัยต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม
3. ควรศึกษาถึงแนวทางการเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ โดยพิจารณาให้ครบ ครอบคลุมทุกด้านเพื่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานได้อย่างเต็มศักยภาพ และเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดแก่หน่วยงานCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26783 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000593465 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-07 c.2 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available 32002000593432 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-07 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจงานสายตรวจ 4 (รถนำขบวน) กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร / เรืองฤทธิ์ โล่ห์คำ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2014
Collection Title: SIU IS-T Title : แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจงานสายตรวจ 4 (รถนำขบวน) กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร Original title : Work Motivation for Police Patrol Officers 4 (Vehicle Convoy), Division 1, Traffic Police Division Material Type: printed text Authors: เรืองฤทธิ์ โล่ห์คำ, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2014 Pagination: ix, 87 หน้า Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-07
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2014.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ข้าราชการ -- การปฏิบัติงาน
[LCSH]ตำรวจ -- ไทย
[LCSH]แรงจูงใจในการทำงาน -- ไทยKeywords: แรงจูงใจในการปฏิบัติงาน
การทำงานเป็นทีม
ข้าราชการตำรวจงานสายตรวจ 4 (รถนำขบวน) กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจรAbstract: การที่คนเราจะเกิดความพึงพอใจในการปฏิบัติงานได้จะต้องมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานดังนั้นแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรในองค์การมีผลต่อความสำเร็จของงานและองค์การงานสายตรวจ 4 กก.1 บก.จร. เป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัด กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีภารกิจหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับการประสานงานสนับสนุนและดำเนินการเกี่ยวกับงานอำนวยการจราจรในการนำขบวนเพื่อถวายความปลอดภัยและรักษาความปลอดภัยขบวนบุคคลสำคัญ ตลอดจนอำนวยการนำขบวนในงานกิจการพิเศษต่างๆ วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานและการทำงานเป็นทีมของข้าราชการตำรวจงานสายตรวจ 4 (รถนำขบวน) กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร Curricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26082 SIU IS-T. แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจงานสายตรวจ 4 (รถนำขบวน) กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร = Work Motivation for Police Patrol Officers 4 (Vehicle Convoy), Division 1, Traffic Police Division [printed text] / เรืองฤทธิ์ โล่ห์คำ, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2014 . - ix, 87 หน้า : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-07
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2014.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ข้าราชการ -- การปฏิบัติงาน
[LCSH]ตำรวจ -- ไทย
[LCSH]แรงจูงใจในการทำงาน -- ไทยKeywords: แรงจูงใจในการปฏิบัติงาน
การทำงานเป็นทีม
ข้าราชการตำรวจงานสายตรวจ 4 (รถนำขบวน) กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจรAbstract: การที่คนเราจะเกิดความพึงพอใจในการปฏิบัติงานได้จะต้องมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานดังนั้นแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรในองค์การมีผลต่อความสำเร็จของงานและองค์การงานสายตรวจ 4 กก.1 บก.จร. เป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัด กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีภารกิจหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับการประสานงานสนับสนุนและดำเนินการเกี่ยวกับงานอำนวยการจราจรในการนำขบวนเพื่อถวายความปลอดภัยและรักษาความปลอดภัยขบวนบุคคลสำคัญ ตลอดจนอำนวยการนำขบวนในงานกิจการพิเศษต่างๆ วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานและการทำงานเป็นทีมของข้าราชการตำรวจงานสายตรวจ 4 (รถนำขบวน) กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร Curricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26082 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000506905 SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-07 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000506848 SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-07 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available 32002000591469 SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-07 c.3 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี / ณรงค์ หาญสันเทียะ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2016
Collection Title: SIU IS-T Title : แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี Original title : Motivation in work of police officers in Children and Women Protection Sub-Division Material Type: printed text Authors: ณรงค์ หาญสันเทียะ, Author ; สมชาย รัตนโกมุท, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2016 Pagination: vii, 57 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-09
IS [MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]กองกำก้บการสวัสดิภาพเด็กและสตรี -- ข้าราชการตำรวจ
[LCSH]การจูงใจในการทำงาน
[LCSH]ข้าราชการตำรวจKeywords: แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่
ข้าราชการตำรวจ
กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรีAbstract: การศึกษาเรื่องแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรีและเพื่อนำผลการศึกษาเสนอผู้บังคับบัญชาเป็นแนวทางในการเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรีให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ประชากรที่ใช้ศึกษาครั้งนี้ คือ ข้าราชการตำรวจข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี จำนวน 190 นาย เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือแบบสอบถาม ผู้ศึกษาได้ทำการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางคอมพิวเตอร์โดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนมากมีอายุ 31-40 ปี มีระดับการศึกษาปริญญาตรี มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 15,001 – 20,000 บาท มีระดับชั้นยศสิบตำรวจเอก-สิบตำรวจตรี มีอายุราชการ 11 – 15 ปี ตามลำดับ แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี โดยภาพรวมในระดับมาก เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีความพึงพอใจอันดับที่หนึ่ง คือ ด้านลักษณะของงาน อันดับที่สอง คือ ด้านการได้รับการยอมรับ อันดับที่สาม คือ ด้านความก้าวหน้าในงาน อันดับที่สี่ คือ ด้านสภาพแวดล้อมในการทำงาน และอันดับสุดท้าย คือ ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานตามลำดับ ตามลำดับ
Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26499 SIU IS-T. แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี = Motivation in work of police officers in Children and Women Protection Sub-Division [printed text] / ณรงค์ หาญสันเทียะ, Author ; สมชาย รัตนโกมุท, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016 . - vii, 57 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-09
IS [MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]กองกำก้บการสวัสดิภาพเด็กและสตรี -- ข้าราชการตำรวจ
[LCSH]การจูงใจในการทำงาน
[LCSH]ข้าราชการตำรวจKeywords: แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่
ข้าราชการตำรวจ
กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรีAbstract: การศึกษาเรื่องแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรีและเพื่อนำผลการศึกษาเสนอผู้บังคับบัญชาเป็นแนวทางในการเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรีให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ประชากรที่ใช้ศึกษาครั้งนี้ คือ ข้าราชการตำรวจข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี จำนวน 190 นาย เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือแบบสอบถาม ผู้ศึกษาได้ทำการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางคอมพิวเตอร์โดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนมากมีอายุ 31-40 ปี มีระดับการศึกษาปริญญาตรี มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 15,001 – 20,000 บาท มีระดับชั้นยศสิบตำรวจเอก-สิบตำรวจตรี มีอายุราชการ 11 – 15 ปี ตามลำดับ แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี โดยภาพรวมในระดับมาก เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีความพึงพอใจอันดับที่หนึ่ง คือ ด้านลักษณะของงาน อันดับที่สอง คือ ด้านการได้รับการยอมรับ อันดับที่สาม คือ ด้านความก้าวหน้าในงาน อันดับที่สี่ คือ ด้านสภาพแวดล้อมในการทำงาน และอันดับสุดท้าย คือ ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานตามลำดับ ตามลำดับ
Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26499 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000591642 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-09 c.1 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000591634 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-09 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available SIU IS-T. แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจกองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ / นริศ สิริวันต์ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2014
Collection Title: SIU IS-T Title : แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจกองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ Original title : Work Motivation for Police Officers and Patrol Officers in the Patrol and Special Operation Division Material Type: printed text Authors: นริศ สิริวันต์, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2014 Pagination: vii, 77 หน้า Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-05
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2014.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]Motivation
[LCSH]Police -- Thailand
[LCSH]แรงจูงใจในการทำงาน -- ไทยKeywords: แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่
ข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสายตรวจ
กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ
Operational Motivation
Government Police Officer of Patrol Sub-Division
Patrol and Special Operation DivisionAbstract: แรงจูงใจเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการทำงานของข้าราชการตำรวจ เพราะการที่จะทำงานให้บรรลุเป้าหมายไม่ได้ใช้ความสามารถเพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องมีสิ่งกระตุ้นให้มีความพยายามที่จะทำแรงจูงใจ การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพโดยใช้แบบสอบถามปลายเปิดเป็นการสัมภาษณ์เจาะลึกข้าราชการตำรวจระดับบริหาร สังกัดกองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ Curricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26080 SIU IS-T. แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจกองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ = Work Motivation for Police Officers and Patrol Officers in the Patrol and Special Operation Division [printed text] / นริศ สิริวันต์, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2014 . - vii, 77 หน้า : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-05
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2014.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]Motivation
[LCSH]Police -- Thailand
[LCSH]แรงจูงใจในการทำงาน -- ไทยKeywords: แรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่
ข้าราชการตำรวจ กองกำกับการสายตรวจ
กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ
Operational Motivation
Government Police Officer of Patrol Sub-Division
Patrol and Special Operation DivisionAbstract: แรงจูงใจเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการทำงานของข้าราชการตำรวจ เพราะการที่จะทำงานให้บรรลุเป้าหมายไม่ได้ใช้ความสามารถเพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องมีสิ่งกระตุ้นให้มีความพยายามที่จะทำแรงจูงใจ การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพโดยใช้แบบสอบถามปลายเปิดเป็นการสัมภาษณ์เจาะลึกข้าราชการตำรวจระดับบริหาร สังกัดกองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ Curricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26080 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000590081 SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-05 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000590057 SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-05 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. แรงจูงใจในการรับการสนับสนุนการปฏิบัติงานในการปราบปรามยาเสพติด กรณีศึกษา กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด / บรรจบ ศรีวิชัยยศ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2016
Collection Title: SIU IS-T Title : แรงจูงใจในการรับการสนับสนุนการปฏิบัติงานในการปราบปรามยาเสพติด กรณีศึกษา กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด Original title : Motivation to Support Suppression in Combating Drug Trafficking : A Case Study of the Suppression Division 3, Narcotics Suppression Bureau, Royal Thai Police Material Type: printed text Authors: บรรจบ ศรีวิชัยยศ, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; สมชาย รัตนโกมุท, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2016 Pagination: ix, 57 น. Layout: ตาราง, ภาพประกอบ Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-06
Independent Study [MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การจูงใจ (จิตวิทยา)
[LCSH]ยาเสพติดKeywords: การปราบปรามยาเสพติด,
การรับการสนับสนุนการปฏิบัติงาน,
แรงจูงใจในการปฏิบัติงานAbstract: การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเพื่อศึกษาและทราบถึงระดับแรงจูงใจในการรับการสนับสนุนการปฏิบัติงานในการปราบปรามยาเสพติด กรณีศึกษาเฉพาะกองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็นการศึกษาเชิงปริมาณโดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวม กล่าวโดยสรุปจากแบบสอบถามผลการวิเคราะห์ข้อมูลปัจจัยส่วนบุคคลของกลุ่มตัวอย่างประกอบไปด้วย เพศ อายุ สถานภาพการสมรสระดับการศึกษา ระดับชั้นยศ ประสบการณ์ในการทำงาน รายได้/เงินเดือน โดยแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ใช้การวิเคราะห์ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดเป็นเพศชายจำนวน 73 คน ส่วนใหญ่กลุ่มอายุระหว่าง 41 – 50 ปี ส่วนใหญ่สถานภาพสมรส มีจำนวน 43 คน ส่วนใหญ่มีระดับการศึกษา ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี มีจำนวน 35 คน ส่วนใหญ่มีระดับชั้นยศ จ.ส.ต.- ด.ต. จำนวน 54 คน มีประสบการณ์ในการทำงาน ส่วนใหญ่อยู่ที่ 16 - 20 ปี มีจำนวน 35 คน ส่วนใหญ่มีรายได้/เงินเดือน 20,001 – 30,000 บาท มีจำนวน 45 คน ผลวิเคราะห์แบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลด้านแรงจูงใจในการปราบปรามยาเสพติด พิจารณารายด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ ด้านแรงจูงใจที่ส่งผลต่อตนเอง เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ได้รับความสำเร็จในงานที่ปฏิบัติ อยู่ในระดับมากผลวิเคราะห์แบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลด้านการรับการสนับสนุนการปฏิบัติงานในการปราบปรามยาเสพติด พิจารณารายได้ที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ การรับรู้การสนับสนุนทางบทบาทหน้าที่ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ได้รับค่าครองชีพ ในการปฏิบัติงานนอกสถานที่อยู่ในระดับมาก Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27537 SIU IS-T. แรงจูงใจในการรับการสนับสนุนการปฏิบัติงานในการปราบปรามยาเสพติด กรณีศึกษา กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด = Motivation to Support Suppression in Combating Drug Trafficking : A Case Study of the Suppression Division 3, Narcotics Suppression Bureau, Royal Thai Police [printed text] / บรรจบ ศรีวิชัยยศ, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; สมชาย รัตนโกมุท, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016 . - ix, 57 น. : ตาราง, ภาพประกอบ ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-06
Independent Study [MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การจูงใจ (จิตวิทยา)
[LCSH]ยาเสพติดKeywords: การปราบปรามยาเสพติด,
การรับการสนับสนุนการปฏิบัติงาน,
แรงจูงใจในการปฏิบัติงานAbstract: การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเพื่อศึกษาและทราบถึงระดับแรงจูงใจในการรับการสนับสนุนการปฏิบัติงานในการปราบปรามยาเสพติด กรณีศึกษาเฉพาะกองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็นการศึกษาเชิงปริมาณโดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวม กล่าวโดยสรุปจากแบบสอบถามผลการวิเคราะห์ข้อมูลปัจจัยส่วนบุคคลของกลุ่มตัวอย่างประกอบไปด้วย เพศ อายุ สถานภาพการสมรสระดับการศึกษา ระดับชั้นยศ ประสบการณ์ในการทำงาน รายได้/เงินเดือน โดยแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ใช้การวิเคราะห์ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดเป็นเพศชายจำนวน 73 คน ส่วนใหญ่กลุ่มอายุระหว่าง 41 – 50 ปี ส่วนใหญ่สถานภาพสมรส มีจำนวน 43 คน ส่วนใหญ่มีระดับการศึกษา ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี มีจำนวน 35 คน ส่วนใหญ่มีระดับชั้นยศ จ.ส.ต.- ด.ต. จำนวน 54 คน มีประสบการณ์ในการทำงาน ส่วนใหญ่อยู่ที่ 16 - 20 ปี มีจำนวน 35 คน ส่วนใหญ่มีรายได้/เงินเดือน 20,001 – 30,000 บาท มีจำนวน 45 คน ผลวิเคราะห์แบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลด้านแรงจูงใจในการปราบปรามยาเสพติด พิจารณารายด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ ด้านแรงจูงใจที่ส่งผลต่อตนเอง เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ได้รับความสำเร็จในงานที่ปฏิบัติ อยู่ในระดับมากผลวิเคราะห์แบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลด้านการรับการสนับสนุนการปฏิบัติงานในการปราบปรามยาเสพติด พิจารณารายได้ที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ การรับรู้การสนับสนุนทางบทบาทหน้าที่ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ได้รับค่าครองชีพ ในการปฏิบัติงานนอกสถานที่อยู่ในระดับมาก Curricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27537 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000596484 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-06 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000596450 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-06 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available ผลของโปรแกรมการให้ข้อมูล การสร้างแรงจูงใจ และการพัฒนาทักษะต่อความรุนแรง / กิตฑาพร ลือลาภ in วารสารเกื้อการุณย์, Vol.23 No.2 (Jul-Dec) 2016/59 ([05/17/2017])
[article]
Title : ผลของโปรแกรมการให้ข้อมูล การสร้างแรงจูงใจ และการพัฒนาทักษะต่อความรุนแรง : ของโรคข้อเข่าเสื่อม และน้ำหนักตัวผู้สูงอายุโรคข้อเข่าเสื่อมที่มีน้ำหนักเกิน Material Type: printed text Authors: กิตฑาพร ลือลาภ, Author ; ทัศนา ชุูวรรธนะปกรณ์, Author Publication Date: 2017 Article on page: p.149-164 Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารเกื้อการุณย์ > Vol.23 No.2 (Jul-Dec) 2016/59 [05/17/2017] . - p.149-164Keywords: ผู้สุงอายุโรคข้อเข่าเสื่อมน่ำหนักเกิน.โปรแกรมการให้ข้อมูล.แรงจูงใจและการพัฒนา.ทักษะความรุนแรงโรคข้อเข่าเส่ื่อม. Link for e-copy: http://www.kcn.ac.th/KCN-Journal/no1-2556.html Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26779 [article] ผลของโปรแกรมการให้ข้อมูล การสร้างแรงจูงใจ และการพัฒนาทักษะต่อความรุนแรง : ของโรคข้อเข่าเสื่อม และน้ำหนักตัวผู้สูงอายุโรคข้อเข่าเสื่อมที่มีน้ำหนักเกิน [printed text] / กิตฑาพร ลือลาภ, Author ; ทัศนา ชุูวรรธนะปกรณ์, Author . - 2017 . - p.149-164.
Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)