From this page you can:
Home |
Descriptors
Add the result to your basket Make a suggestion Refine your search Apply to external sources
SIU THE-T. การรับรู้ของพนักงานที่มีต่อรูปแบบการบริหารงานของผู้จัดการชาวไทย / สาลินี ชัยวัฒนพร / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU THE-T Title : การรับรู้ของพนักงานที่มีต่อรูปแบบการบริหารงานของผู้จัดการชาวไทย Original title : Perceptions of Employees towards Thai Manager’s Management Style Material Type: printed text Authors: สาลินี ชัยวัฒนพร, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; เพชรรัตน์ โล้วิชากรติกุล, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: xvi, 344 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU THE-T: SOM-DBA-2017-01
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2560Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การบริหารงาน
[LCSH]วัฒนธรรมองค์การ -- การจัดการ
[LCSH]แรงจูงใจในการทำงานKeywords: การรับรู้ของพนักงาน,
การยอมรับของพนักงาน,
การบริหารงาน,
ผู้จัดการชาวไทยAbstract: งานวิจัยนี้ เพื่อศึกษาการรับรู้ของพนักงานเกี่ยวกับรูปแบบของของผู้จัดการชาวไทย โดยมี
กลุ่มตัวอย่าง 800 คน และศึกษาผู้ที่สาเร็จปริญญาตรีและประกอบอาชีพในหน่วยงานภาครัฐและ
ภาคส่วนเอกชน อย่างละ 400 คน ซึ่งแบบสอบถามได้ถูกพัฒนามาจากแนวคิด 5 มิติทางวัฒนธรรมของ ฮอฟสตีท (Hofstede) และได้ไปพัฒนาต่อเนื่องและถูกใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง งานวิจัยนี้ใช้สถิติเชิงพรรณนาในการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม และทดสอบความสัมพันธ์ของตัวแปร โดยใช้สถิติเชิงอนุมาณในการหาค่า t-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว One-way ANOVA ในการทดสอบสมมติฐาน
ผลการวิจัยพบว่า ในส่วนงานราชการมีการรับรู้การบริหารของผู้จัดการชาวไทยรับรู้ว่า
หัวหน้างานมักหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเป็นอันดับแรก (มิติการหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอน) รองลงมาคือการตั้งเป้าหมายในระยะยาว (มิติเป้าหมายระยะยาว) การรักษาระยะห่างจากลูกน้อง (มิติความเหลื่อมล้าในอานาจ) แบ่งแยกความสาคัญระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง (มิติการแบ่งแยกชายหญิง) และมีความนิยมเป็นหมู่เหล่าค่อนข้างมาก (ปัจเจกบุคคลและกลุ่มนิยม) ตามลาดับ ส่วนการยอมรับการบริหารงานของผู้จัดการชาวไทยของพนักงานในส่วนงานราชการพบว่าให้ความสาคัญเกี่ยวกับลักษณะผู้นาของผู้บริหารเป็นอันดับแรก ถัดมาคือความพึงพอใจในการทางาน ความพึงพอใจในตัวผู้บังคับบัญชา ระบบการให้คุณให้โทษ การปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในการทางาน ระบบการประเมินผล ตามลาดับ
นอกจากนี้ ผลการวิจัยในส่วนงานเอกชนมีการรับรู้ของพนักงานที่แตกต่างกัน โดยรับรู้ว่า
ผู้จัดการชาวไทยให้ความสาคัญกับการมีเป้าหมายในระยะยาวมากที่สุด รองลงมาคือการหลีกเลี่ยง
ความเสี่ยง (มิติหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอน) รักษาระยะห่างระหว่างตนเองกับลูกน้อง (มิติความเหลื่อมล้าในอานาจ) มีความรักพวกพ้อง (มิติปัจเจกบุคคลและกลุ่มนิยม) และเห็นว่าผู้หญิงมีความสาคัญเท่าเทียมกับผู้ชาย (มิติการแบ่งแยกชายหญิง) ตามลาดับ นอกจากนั้นผลการวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าพนักงานชาวไทยทั้งภาครัฐและเอกชนส่วนใหญ่ การยอมรับการทางานภายใต้การบริหารงานของผู้จัดการชาวไทยว่ามีความพึงพอใจในการทางานเป็นอันดับแรก รองลงมาเป็นการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในการทางาน ลักษณะของผู้นาของผู้บริหาร ความพึงพอใจในตัวผู้บังคับบัญชา ระบบการประเมินผลงาน และระบบการให้คุณให้โทษ ตามลาดับCurricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26777 SIU THE-T. การรับรู้ของพนักงานที่มีต่อรูปแบบการบริหารงานของผู้จัดการชาวไทย = Perceptions of Employees towards Thai Manager’s Management Style [printed text] / สาลินี ชัยวัฒนพร, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; เพชรรัตน์ โล้วิชากรติกุล, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - xvi, 344 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU THE-T: SOM-DBA-2017-01
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2560
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การบริหารงาน
[LCSH]วัฒนธรรมองค์การ -- การจัดการ
[LCSH]แรงจูงใจในการทำงานKeywords: การรับรู้ของพนักงาน,
การยอมรับของพนักงาน,
การบริหารงาน,
ผู้จัดการชาวไทยAbstract: งานวิจัยนี้ เพื่อศึกษาการรับรู้ของพนักงานเกี่ยวกับรูปแบบของของผู้จัดการชาวไทย โดยมี
กลุ่มตัวอย่าง 800 คน และศึกษาผู้ที่สาเร็จปริญญาตรีและประกอบอาชีพในหน่วยงานภาครัฐและ
ภาคส่วนเอกชน อย่างละ 400 คน ซึ่งแบบสอบถามได้ถูกพัฒนามาจากแนวคิด 5 มิติทางวัฒนธรรมของ ฮอฟสตีท (Hofstede) และได้ไปพัฒนาต่อเนื่องและถูกใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง งานวิจัยนี้ใช้สถิติเชิงพรรณนาในการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม และทดสอบความสัมพันธ์ของตัวแปร โดยใช้สถิติเชิงอนุมาณในการหาค่า t-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว One-way ANOVA ในการทดสอบสมมติฐาน
ผลการวิจัยพบว่า ในส่วนงานราชการมีการรับรู้การบริหารของผู้จัดการชาวไทยรับรู้ว่า
หัวหน้างานมักหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเป็นอันดับแรก (มิติการหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอน) รองลงมาคือการตั้งเป้าหมายในระยะยาว (มิติเป้าหมายระยะยาว) การรักษาระยะห่างจากลูกน้อง (มิติความเหลื่อมล้าในอานาจ) แบ่งแยกความสาคัญระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง (มิติการแบ่งแยกชายหญิง) และมีความนิยมเป็นหมู่เหล่าค่อนข้างมาก (ปัจเจกบุคคลและกลุ่มนิยม) ตามลาดับ ส่วนการยอมรับการบริหารงานของผู้จัดการชาวไทยของพนักงานในส่วนงานราชการพบว่าให้ความสาคัญเกี่ยวกับลักษณะผู้นาของผู้บริหารเป็นอันดับแรก ถัดมาคือความพึงพอใจในการทางาน ความพึงพอใจในตัวผู้บังคับบัญชา ระบบการให้คุณให้โทษ การปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในการทางาน ระบบการประเมินผล ตามลาดับ
นอกจากนี้ ผลการวิจัยในส่วนงานเอกชนมีการรับรู้ของพนักงานที่แตกต่างกัน โดยรับรู้ว่า
ผู้จัดการชาวไทยให้ความสาคัญกับการมีเป้าหมายในระยะยาวมากที่สุด รองลงมาคือการหลีกเลี่ยง
ความเสี่ยง (มิติหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอน) รักษาระยะห่างระหว่างตนเองกับลูกน้อง (มิติความเหลื่อมล้าในอานาจ) มีความรักพวกพ้อง (มิติปัจเจกบุคคลและกลุ่มนิยม) และเห็นว่าผู้หญิงมีความสาคัญเท่าเทียมกับผู้ชาย (มิติการแบ่งแยกชายหญิง) ตามลาดับ นอกจากนั้นผลการวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าพนักงานชาวไทยทั้งภาครัฐและเอกชนส่วนใหญ่ การยอมรับการทางานภายใต้การบริหารงานของผู้จัดการชาวไทยว่ามีความพึงพอใจในการทางานเป็นอันดับแรก รองลงมาเป็นการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในการทางาน ลักษณะของผู้นาของผู้บริหาร ความพึงพอใจในตัวผู้บังคับบัญชา ระบบการประเมินผลงาน และระบบการให้คุณให้โทษ ตามลาดับCurricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26777 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000593390 SIU THE-T: SOM-DBA-2017-01 c.1 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available 32002000593424 SIU THE-T: SOM-DBA-2017-01 c.2 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available SIU IS-T. ปัจจัยเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์กรภาครัฐ : กรณีศึกษาสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง / พีรัฐติ วิทยประพัฒน์ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : ปัจจัยเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์กรภาครัฐ : กรณีศึกษาสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง Original title : Reinforcing Motivation Factors in Performance of Government Official: A Case Study of Public Debt Management Office, Ministry of Finance Material Type: printed text Authors: พีรัฐติ วิทยประพัฒน์, Author ; เพชรรัตน์ โล้วิชากรติกุล, Associated Name ; อุษณีย์ เสวกวัชรี, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: viii, 60 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: SOM-MBA-2017-01
Independent Study. [MS[MBA]]--Shinawatra University, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]กระทรวงการคลัง -- บุคลากร -- สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
[LCSH]แรงจูงใจในการทำงานKeywords: แรงจูงใจ,
บุคลากรองค์กรภาครัฐAbstract: การวิจัยเรื่องปัจจัยเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์กรภาครัฐ : กรณีศึกษาสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากร 2) เพื่อเปรียบเทียบแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรโดยรวม และรายด้าน ได้แก่ ด้านความสำเร็จในการปฏิบัติงาน ด้านการยอมรับนับถือ ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติ ด้านความรับผิดชอบ และด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ บุคลากรของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ในปี พ.ศ. 2559 จำนวน 250 คน กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 154 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลครั้งนี้ ได้แก่ แบบสอบถามเกี่ยวกับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากร 5 ด้าน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มใช้การทดสอบที (t - Test) ส่วนการทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยจากกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 2 กลุ่มใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One - Way ANOVA)
โดยผลการวิจัยพบว่า 1) บุคลากรเพศชายและหญิงมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมและในแต่ละด้านไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) บุคลากรที่มีอายุแตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมแตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) บุคลากรที่มีระดับการศึกษาแตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านการยอมรับนับถือ และด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) บุคลากรที่มีรายได้แตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมและในแต่ละด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5) บุคลากรที่มีประเภทตำแหน่งแตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมแตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติ และด้านความรับผิดชอบไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 6) บุคลากรที่มีประสบการณ์ทำงานแตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมแตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Curricular : BBA/MBA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26624 SIU IS-T. ปัจจัยเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์กรภาครัฐ : กรณีศึกษาสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง = Reinforcing Motivation Factors in Performance of Government Official: A Case Study of Public Debt Management Office, Ministry of Finance [printed text] / พีรัฐติ วิทยประพัฒน์, Author ; เพชรรัตน์ โล้วิชากรติกุล, Associated Name ; อุษณีย์ เสวกวัชรี, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - viii, 60 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: SOM-MBA-2017-01
Independent Study. [MS[MBA]]--Shinawatra University, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]กระทรวงการคลัง -- บุคลากร -- สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
[LCSH]แรงจูงใจในการทำงานKeywords: แรงจูงใจ,
บุคลากรองค์กรภาครัฐAbstract: การวิจัยเรื่องปัจจัยเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์กรภาครัฐ : กรณีศึกษาสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากร 2) เพื่อเปรียบเทียบแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรโดยรวม และรายด้าน ได้แก่ ด้านความสำเร็จในการปฏิบัติงาน ด้านการยอมรับนับถือ ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติ ด้านความรับผิดชอบ และด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ บุคลากรของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ในปี พ.ศ. 2559 จำนวน 250 คน กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 154 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลครั้งนี้ ได้แก่ แบบสอบถามเกี่ยวกับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากร 5 ด้าน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มใช้การทดสอบที (t - Test) ส่วนการทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยจากกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 2 กลุ่มใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One - Way ANOVA)
โดยผลการวิจัยพบว่า 1) บุคลากรเพศชายและหญิงมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมและในแต่ละด้านไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) บุคลากรที่มีอายุแตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมแตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) บุคลากรที่มีระดับการศึกษาแตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านการยอมรับนับถือ และด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) บุคลากรที่มีรายได้แตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมและในแต่ละด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5) บุคลากรที่มีประเภทตำแหน่งแตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมแตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติ และด้านความรับผิดชอบไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 6) บุคลากรที่มีประสบการณ์ทำงานแตกต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยรวมแตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Curricular : BBA/MBA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26624 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000592731 SIU IS-T: SOM-MBA-2017-01 c.1 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000592764 SIU IS-T: SOM-MBA-2017-01 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available SIU IS-T. แรงจูงใจในการทำงานของพนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น / ปัญจมา เวชชศาสตร์ / สถาบันรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันรัฐประศาสนศาตร์และธรรมาภิบาล - 2557
Collection Title: SIU IS-T Title : แรงจูงใจในการทำงานของพนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น : เขตพื้นที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง Original title : Work motivation for personnel of Pluak Daeng subdistrict administration, Rayoung province Material Type: printed text Authors: ปัญจมา เวชชศาสตร์, Author Publisher: สถาบันรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันรัฐประศาสนศาตร์และธรรมาภิบาล Publication Date: 2557 Pagination: viii, 47 หน้า Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: IS-T. [MPA.[รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2014.
Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]แรงจูงใจในการทำงาน
[LCSH]แรงจูงใจในการทำงาน -- ไทย -- ระยองKeywords: แรงจูงใจในการทำงาน
พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
อำเภอปลวกแดงClass number: SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-09 Abstract: การศึกษาเรื่องแรงจูงใจในการทำงานของพนักงานส่วนท้องถิ่น เขพพื้นที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบ พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เขพพื้นที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง มีแรงจูงใจในการทำงานมากน้อยเพียงใด มีปัจจัยใดที่มีผลต่อการสร้างแรงจูงใจในการทำงานของพนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เขตพื้นที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง วิธีการศึกษาครั้งนี้ใช้วิธีเชิงปริมาณ มีกลุ่มตัวอย่างจำนวน 217 คน และนำมาวิเคราะห์โดยใช้วิธีสถิติเชิงพรรณา (Descriptive statistics) Curricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=25683 SIU IS-T. แรงจูงใจในการทำงานของพนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น = Work motivation for personnel of Pluak Daeng subdistrict administration, Rayoung province : เขตพื้นที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง [printed text] / ปัญจมา เวชชศาสตร์, Author . - [S.l.] : สถาบันรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันรัฐประศาสนศาตร์และธรรมาภิบาล, 2557 . - viii, 47 หน้า : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
IS-T. [MPA.[รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2014.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]แรงจูงใจในการทำงาน
[LCSH]แรงจูงใจในการทำงาน -- ไทย -- ระยองKeywords: แรงจูงใจในการทำงาน
พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
อำเภอปลวกแดงClass number: SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-09 Abstract: การศึกษาเรื่องแรงจูงใจในการทำงานของพนักงานส่วนท้องถิ่น เขพพื้นที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบ พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เขพพื้นที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง มีแรงจูงใจในการทำงานมากน้อยเพียงใด มีปัจจัยใดที่มีผลต่อการสร้างแรงจูงใจในการทำงานของพนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เขตพื้นที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง วิธีการศึกษาครั้งนี้ใช้วิธีเชิงปริมาณ มีกลุ่มตัวอย่างจำนวน 217 คน และนำมาวิเคราะห์โดยใช้วิธีสถิติเชิงพรรณา (Descriptive statistics) Curricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=25683 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000506996 SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-09 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000506871 SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-09 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Not for loan