From this page you can:
Home |
Descriptors
Add the result to your basket Make a suggestion Refine your search Apply to external sources
SIU IS-T. การพัฒนาและความก้าวหน้าของข้าราชการตำรวจ กรณีศึกษา สถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 10 กองบังคับการตำรวจน้ำ / ปัณณภัสร์ ปัญญา / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : การพัฒนาและความก้าวหน้าของข้าราชการตำรวจ กรณีศึกษา สถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 10 กองบังคับการตำรวจน้ำ Original title : Career Advancement of Polices: A Case of 3rd Marine Police Station, Subdivision 10, Marine Police Division Material Type: printed text Authors: ปัณณภัสร์ ปัญญา, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: vi, 54 น. Layout: ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-38
Independent Study [MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การพัฒนา
[LCSH]ตำรวจน้ำ -- ไทยKeywords: ความก้าวหน้า,
ตำรวจน้ำ,
อาชีพAbstract: การศึกษาเรื่อง การศึกษางานค้นคว้าอิสระนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาบุคลากรของเพื่อศึกษาความก้าวหน้าและการพัฒนาบุคลากร และเพื่อศึกษาแนวทางในการปรับปรุงการพัฒนาบุคลากรของข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 10 กองบังคับการตำรวจน้ำ ใช้วิธีวิจัยเอกสารและวิธีวิจัยสนาม โดยใช้การสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมายที่เป็นตัวแทน จำนวน 5 คน ผลการวิจัยพบว่า ควรปรับทัศนคติของบุคลากรในหน่วยงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อหลอมบุคลากรทุกระดับ ให้มีทัศนคติ ค่านิยม ความคิด วิธีการทำงาน และเป้าหมายทิศทางเดียวกันเพื่อมุ่งเป้าหมายความสำเร็จเดียวกัน ควรให้ความสำคัญกับบุคลากรในหน่วยงานอย่างเท่าเทียมกัน ผู้บังคับบัญชาควรให้ความสำคัญกับผู้ใต้บังคับบัญชาในทุกตำแหน่งอย่างเท่าเทียมกัน อย่าให้ความสำคัญกับตำแหน่งหนึ่งตำแหน่งใด เพราะอาจจะทำให้เกิดความแบ่งแยกกันระหว่างบุคลากร และควรสนับสนุนให้บุคลากรได้รับการฝึกอบรม การเข้าร่วมประชุมสัมมนา หรือดูงานนอกสถานที่ เพื่อว่าจะเป็นการเพิ่มศักยภาพของบุคลากร และสามารถนำความรู้มาใช้ในการปฏิบัติงาน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับหน่วยงานต่อไป Curricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27314 SIU IS-T. การพัฒนาและความก้าวหน้าของข้าราชการตำรวจ กรณีศึกษา สถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 10 กองบังคับการตำรวจน้ำ = Career Advancement of Polices: A Case of 3rd Marine Police Station, Subdivision 10, Marine Police Division [printed text] / ปัณณภัสร์ ปัญญา, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - vi, 54 น. : ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-38
Independent Study [MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การพัฒนา
[LCSH]ตำรวจน้ำ -- ไทยKeywords: ความก้าวหน้า,
ตำรวจน้ำ,
อาชีพAbstract: การศึกษาเรื่อง การศึกษางานค้นคว้าอิสระนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาบุคลากรของเพื่อศึกษาความก้าวหน้าและการพัฒนาบุคลากร และเพื่อศึกษาแนวทางในการปรับปรุงการพัฒนาบุคลากรของข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 10 กองบังคับการตำรวจน้ำ ใช้วิธีวิจัยเอกสารและวิธีวิจัยสนาม โดยใช้การสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมายที่เป็นตัวแทน จำนวน 5 คน ผลการวิจัยพบว่า ควรปรับทัศนคติของบุคลากรในหน่วยงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อหลอมบุคลากรทุกระดับ ให้มีทัศนคติ ค่านิยม ความคิด วิธีการทำงาน และเป้าหมายทิศทางเดียวกันเพื่อมุ่งเป้าหมายความสำเร็จเดียวกัน ควรให้ความสำคัญกับบุคลากรในหน่วยงานอย่างเท่าเทียมกัน ผู้บังคับบัญชาควรให้ความสำคัญกับผู้ใต้บังคับบัญชาในทุกตำแหน่งอย่างเท่าเทียมกัน อย่าให้ความสำคัญกับตำแหน่งหนึ่งตำแหน่งใด เพราะอาจจะทำให้เกิดความแบ่งแยกกันระหว่างบุคลากร และควรสนับสนุนให้บุคลากรได้รับการฝึกอบรม การเข้าร่วมประชุมสัมมนา หรือดูงานนอกสถานที่ เพื่อว่าจะเป็นการเพิ่มศักยภาพของบุคลากร และสามารถนำความรู้มาใช้ในการปฏิบัติงาน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับหน่วยงานต่อไป Curricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27314 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000595247 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-38 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available 32002000595213 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-38 c.2 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. การมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบล ในอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี / ณรงค์ชัย ทองตำลึง / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : การมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบล ในอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี Original title : People’s Participation in Local Development of Sub-District Administrative Organizations in Amphoe Phunpin, Surat Thani Province Material Type: printed text Authors: ณรงค์ชัย ทองตำลึง, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: vii, 68 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-23
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การพัฒนา
[LCSH]ชุมชน -- การมีส่วนร่วม
[LCSH]องค์การบริหารส่วนตำบล -- สุราษฎร์ธานี -- พุนพินKeywords: การมีส่วนร่วม,
ประชาชน,
พัฒนา,
ท้องถิ่นAbstract: การค้นคว้าอิสระครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบลในอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งมีสิทธิเลือกตั้งในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล ในอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 375 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้สถิติเชิงพรรณาในการวิเคราะห์ข้อมูลประชากรศาสตร์และระดับการมีส่วนร่วม และใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One – Way ANOVA) ในการทดสอบความสัมพันธ์ของตัวแปร
ผลการวิจัยพบว่า ในภาพรวมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่น ขององค์การบริหาร ส่วนตำบลในอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า การมีส่วนร่วมในการประเมินผลมีค่าเฉลี่ยในระดับสูงสุด รองลงมา ได้แก่ การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ การมีส่วนร่วมในผลประโยชน์ และการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติมีค่าเฉลี่ยในระดับต่ำสุด ตามลำดับ ส่วนการวิเคราะห์เปรียบเทียบเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบล จำแนกตามเพศ ตามอายุ ระดับการศึกษา อาชีพหลัก โดยการทดสอบค่าที (t-test) ไม่พบความแตกต่าง ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคต่อการมีส่วนร่วม ควรประชาชนไม่มีความรู้และขาดข้อมูลที่เกี่ยวข้องในการวางแผนและตัดสินใจ ประชาชนควรให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการอย่างจริงจัง ท้องถิ่นควรได้ และการแต่งตั้งคณะกรรมการ ในการประเมินผลงานหรือโครงการCurricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26830 SIU IS-T. การมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบล ในอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี = People’s Participation in Local Development of Sub-District Administrative Organizations in Amphoe Phunpin, Surat Thani Province [printed text] / ณรงค์ชัย ทองตำลึง, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - vii, 68 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-23
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การพัฒนา
[LCSH]ชุมชน -- การมีส่วนร่วม
[LCSH]องค์การบริหารส่วนตำบล -- สุราษฎร์ธานี -- พุนพินKeywords: การมีส่วนร่วม,
ประชาชน,
พัฒนา,
ท้องถิ่นAbstract: การค้นคว้าอิสระครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบลในอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งมีสิทธิเลือกตั้งในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล ในอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 375 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้สถิติเชิงพรรณาในการวิเคราะห์ข้อมูลประชากรศาสตร์และระดับการมีส่วนร่วม และใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One – Way ANOVA) ในการทดสอบความสัมพันธ์ของตัวแปร
ผลการวิจัยพบว่า ในภาพรวมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่น ขององค์การบริหาร ส่วนตำบลในอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า การมีส่วนร่วมในการประเมินผลมีค่าเฉลี่ยในระดับสูงสุด รองลงมา ได้แก่ การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ การมีส่วนร่วมในผลประโยชน์ และการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติมีค่าเฉลี่ยในระดับต่ำสุด ตามลำดับ ส่วนการวิเคราะห์เปรียบเทียบเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบล จำแนกตามเพศ ตามอายุ ระดับการศึกษา อาชีพหลัก โดยการทดสอบค่าที (t-test) ไม่พบความแตกต่าง ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคต่อการมีส่วนร่วม ควรประชาชนไม่มีความรู้และขาดข้อมูลที่เกี่ยวข้องในการวางแผนและตัดสินใจ ประชาชนควรให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการอย่างจริงจัง ท้องถิ่นควรได้ และการแต่งตั้งคณะกรรมการ ในการประเมินผลงานหรือโครงการCurricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26830 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000593630 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-23 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available 32002000593648 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-23 c.2 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. ความต้องการในการพัฒนาของข้าราชการตำรวจ สังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด / จามรี หนูสิงห์ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : ความต้องการในการพัฒนาของข้าราชการตำรวจ สังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด Original title : Demand for Self-Development of Polices at Narcotics Suppression Bureau Material Type: printed text Authors: จามรี หนูสิงห์, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: viii, 84 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-36
Independent Study [MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การพัฒนา
[LCSH]ข้าราชการตำรวจKeywords: การพัฒนา,
ตำรวจ,
สังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดAbstract: การศึกษางานค้นคว้าอิสระ เรื่อง ความต้องการในการพัฒนาข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความต้องการการพัฒนาของข้าราชการตำรวจใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 310 คน ที่เป็นข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลจากการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุ 31 ถึง 40 ปี มีสถานภาพสมรส ระดับการศึกษาปริญญาตรี มีระยะเวลาที่รับราชการตำรวจ ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเป็นเวลา 11 ถึง 15 ปี ระดับชั้นประทวน อัตราเงินเดือน 15,001 ถึง 20,000 บาท โดยข้าราชการตำรวจที่ตอบแบบสอบถามมีระดับความต้องการการพัฒนาโดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก ได้แก่ ความต้องการในการพัฒนาในด้านการฝึกอบรม ด้านการเป็นพี่เลี้ยง ด้านการศึกษาดูงาน ด้านการศึกษาด้วยตนเอง จากการทดสอบสมมติฐาน พบว่า เพศ อายุ สถานภาพ การสมรส ระดับการศึกษา ระยะเวลาที่รับราชการ ระดับชั้นยศ และอัตราเงินเดือนที่แตกต่างกันมีระดับความต้องการในการพัฒนาไม่ต่างกันCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27274 SIU IS-T. ความต้องการในการพัฒนาของข้าราชการตำรวจ สังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด = Demand for Self-Development of Polices at Narcotics Suppression Bureau [printed text] / จามรี หนูสิงห์, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - viii, 84 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-36
Independent Study [MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การพัฒนา
[LCSH]ข้าราชการตำรวจKeywords: การพัฒนา,
ตำรวจ,
สังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดAbstract: การศึกษางานค้นคว้าอิสระ เรื่อง ความต้องการในการพัฒนาข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความต้องการการพัฒนาของข้าราชการตำรวจใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 310 คน ที่เป็นข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลจากการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุ 31 ถึง 40 ปี มีสถานภาพสมรส ระดับการศึกษาปริญญาตรี มีระยะเวลาที่รับราชการตำรวจ ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเป็นเวลา 11 ถึง 15 ปี ระดับชั้นประทวน อัตราเงินเดือน 15,001 ถึง 20,000 บาท โดยข้าราชการตำรวจที่ตอบแบบสอบถามมีระดับความต้องการการพัฒนาโดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก ได้แก่ ความต้องการในการพัฒนาในด้านการฝึกอบรม ด้านการเป็นพี่เลี้ยง ด้านการศึกษาดูงาน ด้านการศึกษาด้วยตนเอง จากการทดสอบสมมติฐาน พบว่า เพศ อายุ สถานภาพ การสมรส ระดับการศึกษา ระยะเวลาที่รับราชการ ระดับชั้นยศ และอัตราเงินเดือนที่แตกต่างกันมีระดับความต้องการในการพัฒนาไม่ต่างกันCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27274 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000595015 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-36 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000595023 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-36 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. ปัจจัยที่ทำให้การปฏิบัติงานประสบผลสำเร็จ กรณีศึกษา: กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ / ธงชัย เสรีวัฒนา / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2016
Collection Title: SIU IS-T Title : ปัจจัยที่ทำให้การปฏิบัติงานประสบผลสำเร็จ กรณีศึกษา: กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ Original title : Factors Enabling Work Achievement Case Study of Civil Engineering Division Logistic Office of Royal Thai Police Material Type: printed text Authors: ธงชัย เสรีวัฒนา, Author ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name ; สมชาย รัตนโกมุท, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2016 Pagination: x, 68 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-26
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การพัฒนา
[LCSH]สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองโยธาธิการ -- การทำงานKeywords: ปัจจัยที่ทำให้การปฏิบัติงานประสบผลสำเร็จ,
กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง,
สำนักงานตำรวจแห่งชาติCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26622 SIU IS-T. ปัจจัยที่ทำให้การปฏิบัติงานประสบผลสำเร็จ กรณีศึกษา: กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ = Factors Enabling Work Achievement Case Study of Civil Engineering Division Logistic Office of Royal Thai Police [printed text] / ธงชัย เสรีวัฒนา, Author ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name ; สมชาย รัตนโกมุท, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016 . - x, 68 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-26
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การพัฒนา
[LCSH]สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองโยธาธิการ -- การทำงานKeywords: ปัจจัยที่ทำให้การปฏิบัติงานประสบผลสำเร็จ,
กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง,
สำนักงานตำรวจแห่งชาติCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26622 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000592707 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-26 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000592673 SIU IS-T: IPAG-MPA-2016-26 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU THE-T. แนวทางการพัฒนา Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีผลต่อความต้องการของประชาชนใน กรุงเทพมหานครและปริมณฑล / กรรณิการ ฉัตรศรีแก้ว / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU THE-T Title : แนวทางการพัฒนา Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีผลต่อความต้องการของประชาชนใน กรุงเทพมหานครและปริมณฑล Original title : A Guideline for Development of Smartphone by Mobile Network Providers Affecting the Needs of People in Bangkok Metropolis and the Outskirts of Bangkok Material Type: printed text Authors: กรรณิการ ฉัตรศรีแก้ว, Author ; วิษณุ สุวรรณเพิ่ม, Associated Name ; วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: xii, 79 น. Layout: ตาราง, ภาพประกอบ Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU THE-T: SOLA-MAMIC-2017-02
Thesis. [MAMIC.[Arts in Media Information and Communication]]. Shinawatra University, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การพัฒนา
[LCSH]สมาร์ทโฟน
[LCSH]โทรศัพท์เคลื่อนที่Keywords: แนวทางพัฒนา Smartphone, ผู้ให้บริการระบบการสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ Abstract: วัตถุประสงค์ในการวิจัยครั้งนี้เพื่อ 1) ศึกษาลักษณะประชากรของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone แต่ละผู้ให้บริการระบบการสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ AIS, TRUE MOVE และ DTAC ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งมีแนวทางพัฒนามีผลต่อความต้องการ และการใช้ประโยชน์โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ในระดับที่ต่างกัน 2) ศึกษาพฤติกรรมการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ แต่ละระบบของผู้ให้บริการ 3) ศึกษาระบบเครือข่ายการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ AIS, TRUE MOVE และ DTAC ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งมีแนวทางพัฒนามีผลต่อความต้องการ และการใช้ประโยชน์โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ในระดับที่ต่างกัน 4) ศึกษาเทคนิคการนำเสนอการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphoneของผู้ใช้ แต่ละผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์
เคลื่อนที่ AIS, TRUE MOVE และ DTAC ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 5) ศึกษาความต้องการของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ที่บ่งชี้ถึงแนวทางพัฒนาการสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีผลต่อความต้องการของประชาชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ประชาชนผู้ใช้ Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่โทรศัพท์ เคลื่อนที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 386 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งนี้ ได้แก่ แบบสอบถามผ่าน Online สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติ t test การวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนจำแนวทางเดียว (One-way Analysis of Variance--ANOVA) การเปรียบเทียบเชิงซ้อนรายคู่ (multiple-comparison) ของ LSD และการหาความสัมพันธ์โดยใช้การหาค่าสถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
ผลการวิจัยพบว่า
ลักษณะประชากรของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย มีอายุ 30-34 ปี มากที่สุด มีการศึกษาในระดับปริญญาตรี มีอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน/รับจ้าง มีรายได้ต่อเดือน มากกว่า 30,000 บาท และนับถือศาสนาพุทธ
พฤติกรรมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone คือ มีการใช้ทุกวัน ใช้แต่ละครั้งนาน 1-2 ชม. ช่วงเวลาที่ใช้มากที่สุด เวลา 20.00-22.00 น. ใช้ในที่พักอาศัย มีโทรศัพท์ 1 เครื่อง ใช้ในกิจกรรมความบันเทิง/
ดูหนัง ฟังเพลง และ เหตุผลที่ใช้ คือ ความบันเทิง
ระบบเครือข่ายการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ใช้ระบบเครือข่ายการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้มากที่สุด คือ ได้แก่ AIS ระบบสัญญาณ 4G ยี่ห้อ Apple ราคามากกว่า 25,000 บาท และอิทธิผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้โทรศัพท์ ได้แก่ ตนเอง
ความต้องการของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ที่บ่งชี้ถึงแนวทางพัฒนาการสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีผลต่อความต้องการของประชาชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่า สามารถเชื่อมต่อระบบเครือข่ายได้รวดเร็ว รองรับระบบสัญญาณที่ทันสมัยในอนาคต และความสามารถขยาย RAM ได้มาก
การเปรียบเทียบลักษณะของประชากรต่อแนวทางการพัฒนาโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ พบว่า แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.05
การเปรียบเทียบเทคนิคการนำเสนอการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ต่อแนวทางการพัฒนา Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ พบว่า แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.05
ความต้องการของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ต่อการพัฒนาการสื่อสารโทรศัพท์
เคลื่อนที่ ที่มีผลต่อความต้องการของประชาชน ไม่มีความสัมพันธ์กัน โดยมีความสัมพันธ์กันในเชิงบวกในบางข้อ ในระดับน้อย ในหัวข้อรูปแบบ/ขนาด/พกพาได้สะดวก กับสามารถเชื่อมต่อระบบนอกเครือข่ายได้ รูปแบบ/ขนาด/พกพาได้สะดวกกับออกแบบ Program สั่งงานระบบ Remote Control ได้ และรูปแบบ/ขนาด/พกพาได้สะดวกกับมีระบบชาร์ตแบบเตอรี่อัตโนมัติ
แนวทางพัฒนาโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone มีระบบรองรับสัญญาณในอนาคตได้ ( = 4.59) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ มีระบบชาร์ตแบตเตอรี่อัตโนมัติ อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.56) และพัฒนาน้อยที่สุด ได้แก่ ตัวเครื่องกันน้ำระดับลึกได้ดี กับออกแบบ Program สั่งงานระบบ Remote มีระดับมาก ( = 4.33) เท่ากันCurricular : BALA/MTEIL Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27652 SIU THE-T. แนวทางการพัฒนา Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีผลต่อความต้องการของประชาชนใน กรุงเทพมหานครและปริมณฑล = A Guideline for Development of Smartphone by Mobile Network Providers Affecting the Needs of People in Bangkok Metropolis and the Outskirts of Bangkok [printed text] / กรรณิการ ฉัตรศรีแก้ว, Author ; วิษณุ สุวรรณเพิ่ม, Associated Name ; วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - xii, 79 น. : ตาราง, ภาพประกอบ ; 30 ซม.
500.00
SIU THE-T: SOLA-MAMIC-2017-02
Thesis. [MAMIC.[Arts in Media Information and Communication]]. Shinawatra University, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การพัฒนา
[LCSH]สมาร์ทโฟน
[LCSH]โทรศัพท์เคลื่อนที่Keywords: แนวทางพัฒนา Smartphone, ผู้ให้บริการระบบการสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ Abstract: วัตถุประสงค์ในการวิจัยครั้งนี้เพื่อ 1) ศึกษาลักษณะประชากรของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone แต่ละผู้ให้บริการระบบการสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ AIS, TRUE MOVE และ DTAC ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งมีแนวทางพัฒนามีผลต่อความต้องการ และการใช้ประโยชน์โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ในระดับที่ต่างกัน 2) ศึกษาพฤติกรรมการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ แต่ละระบบของผู้ให้บริการ 3) ศึกษาระบบเครือข่ายการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ AIS, TRUE MOVE และ DTAC ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งมีแนวทางพัฒนามีผลต่อความต้องการ และการใช้ประโยชน์โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ในระดับที่ต่างกัน 4) ศึกษาเทคนิคการนำเสนอการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphoneของผู้ใช้ แต่ละผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์
เคลื่อนที่ AIS, TRUE MOVE และ DTAC ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 5) ศึกษาความต้องการของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ที่บ่งชี้ถึงแนวทางพัฒนาการสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีผลต่อความต้องการของประชาชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ประชาชนผู้ใช้ Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่โทรศัพท์ เคลื่อนที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 386 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งนี้ ได้แก่ แบบสอบถามผ่าน Online สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติ t test การวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนจำแนวทางเดียว (One-way Analysis of Variance--ANOVA) การเปรียบเทียบเชิงซ้อนรายคู่ (multiple-comparison) ของ LSD และการหาความสัมพันธ์โดยใช้การหาค่าสถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
ผลการวิจัยพบว่า
ลักษณะประชากรของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย มีอายุ 30-34 ปี มากที่สุด มีการศึกษาในระดับปริญญาตรี มีอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน/รับจ้าง มีรายได้ต่อเดือน มากกว่า 30,000 บาท และนับถือศาสนาพุทธ
พฤติกรรมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone คือ มีการใช้ทุกวัน ใช้แต่ละครั้งนาน 1-2 ชม. ช่วงเวลาที่ใช้มากที่สุด เวลา 20.00-22.00 น. ใช้ในที่พักอาศัย มีโทรศัพท์ 1 เครื่อง ใช้ในกิจกรรมความบันเทิง/
ดูหนัง ฟังเพลง และ เหตุผลที่ใช้ คือ ความบันเทิง
ระบบเครือข่ายการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ใช้ระบบเครือข่ายการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้มากที่สุด คือ ได้แก่ AIS ระบบสัญญาณ 4G ยี่ห้อ Apple ราคามากกว่า 25,000 บาท และอิทธิผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้โทรศัพท์ ได้แก่ ตนเอง
ความต้องการของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ที่บ่งชี้ถึงแนวทางพัฒนาการสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีผลต่อความต้องการของประชาชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่า สามารถเชื่อมต่อระบบเครือข่ายได้รวดเร็ว รองรับระบบสัญญาณที่ทันสมัยในอนาคต และความสามารถขยาย RAM ได้มาก
การเปรียบเทียบลักษณะของประชากรต่อแนวทางการพัฒนาโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ พบว่า แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.05
การเปรียบเทียบเทคนิคการนำเสนอการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ต่อแนวทางการพัฒนา Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ พบว่า แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.05
ความต้องการของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ต่อการพัฒนาการสื่อสารโทรศัพท์
เคลื่อนที่ ที่มีผลต่อความต้องการของประชาชน ไม่มีความสัมพันธ์กัน โดยมีความสัมพันธ์กันในเชิงบวกในบางข้อ ในระดับน้อย ในหัวข้อรูปแบบ/ขนาด/พกพาได้สะดวก กับสามารถเชื่อมต่อระบบนอกเครือข่ายได้ รูปแบบ/ขนาด/พกพาได้สะดวกกับออกแบบ Program สั่งงานระบบ Remote Control ได้ และรูปแบบ/ขนาด/พกพาได้สะดวกกับมีระบบชาร์ตแบบเตอรี่อัตโนมัติ
แนวทางพัฒนาโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone มีระบบรองรับสัญญาณในอนาคตได้ ( = 4.59) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ มีระบบชาร์ตแบตเตอรี่อัตโนมัติ อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.56) และพัฒนาน้อยที่สุด ได้แก่ ตัวเครื่องกันน้ำระดับลึกได้ดี กับออกแบบ Program สั่งงานระบบ Remote มีระดับมาก ( = 4.33) เท่ากันCurricular : BALA/MTEIL Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27652 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000597110 SIU THE-T: SOLA-MAMIC-2017-02 c.1 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available 32002000597144 SIU THE-T: SOLA-MAMIC-2017-02 c.2 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available การพัฒนาทุนมนุษย์ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ของอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนไทย ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล / เพียงเดือน เกิดอำแพง / ปทุมธานี : มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2563
Title : การพัฒนาทุนมนุษย์ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ของอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนไทย ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล Original title : Human Capital Development towards Achievements of Private University Lecturers in Bangkok Metropolitan Region Material Type: printed text Authors: เพียงเดือน เกิดอำแพง, Author Publisher: ปทุมธานี : มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2563 Pagination: 225 หน้า Layout: ภาพประกอบ Size: 25 ซม. Price: 500.00 Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การพัฒนา
[LCSH]ทุนมนุษย์
[LCSH]มหาวิทยาลัยเอกชนKeywords: พัฒนา.
ทุนมนุษย์
มหาวิทยาลัยเอกชน.Class number: SIU THE-T: SOM-DBA-2020-07 Abstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการพัฒนาทุนมนุษย์ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ของอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนไทยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และเพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาทุนมนุษย์ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ของอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนไทยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นอาจารย์ที่ปัจจุบันทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัยเอกชนในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำนวน 385 ราย จากนั้นทำการวิเคราะห์สมการถดถอยพหุสัมพันธ์ และนำผลมาทำการวิเคราะห์การพัฒนาทุนมนุษย์ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ของอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนไทยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก โดยผู้เชี่ยวชาญ 9 ท่าน แล้วสร้างแนวทางการพัฒนาทุนมนุษย์ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ของอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนไทยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ผลการวิจัย พบว่าการพัฒนาทุนมนุษย์ได้แก่ วิธีการพัฒนาทุนมนุษย์ ความจำเป็นในการพัฒนาทุนมนุษย์ และ ปัจจัยภายในองค์กรที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ของอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนไทยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล คือ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และแนวทางการพัฒนาทุนมนุษย์ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ของอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนไทยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล แบ่งออก 3 ด้าน ได้แก่ 1)ความจำเป็นในการพัฒนาทุนมนุษย์ 2)ปัจจัยภายในองค์กร และ 3)วิธีการพัฒนาทุนมนุษย์
Curricular : DPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=28360 การพัฒนาทุนมนุษย์ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ของอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนไทย ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล = Human Capital Development towards Achievements of Private University Lecturers in Bangkok Metropolitan Region [printed text] / เพียงเดือน เกิดอำแพง, Author . - [S.l.] : ปทุมธานี : มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2563 . - 225 หน้า : ภาพประกอบ ; 25 ซม.
500.00
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การพัฒนา
[LCSH]ทุนมนุษย์
[LCSH]มหาวิทยาลัยเอกชนKeywords: พัฒนา.
ทุนมนุษย์
มหาวิทยาลัยเอกชน.Class number: SIU THE-T: SOM-DBA-2020-07 Abstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการพัฒนาทุนมนุษย์ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ของอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนไทยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และเพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาทุนมนุษย์ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ของอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนไทยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นอาจารย์ที่ปัจจุบันทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัยเอกชนในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำนวน 385 ราย จากนั้นทำการวิเคราะห์สมการถดถอยพหุสัมพันธ์ และนำผลมาทำการวิเคราะห์การพัฒนาทุนมนุษย์ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ของอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนไทยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก โดยผู้เชี่ยวชาญ 9 ท่าน แล้วสร้างแนวทางการพัฒนาทุนมนุษย์ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ของอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนไทยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ผลการวิจัย พบว่าการพัฒนาทุนมนุษย์ได้แก่ วิธีการพัฒนาทุนมนุษย์ ความจำเป็นในการพัฒนาทุนมนุษย์ และ ปัจจัยภายในองค์กรที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ของอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนไทยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล คือ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และแนวทางการพัฒนาทุนมนุษย์ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ของอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนไทยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล แบ่งออก 3 ด้าน ได้แก่ 1)ความจำเป็นในการพัฒนาทุนมนุษย์ 2)ปัจจัยภายในองค์กร และ 3)วิธีการพัฒนาทุนมนุษย์
Curricular : DPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=28360 Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000602015 SIU THE-T: SOM-DBA-2020-07 C.1 Thesis Main Library Library Counter Not for loan 32002000602016 SIU THE-T: SOM-DBA-2020-07 C.2 Thesis Main Library Library Counter Not for loan