From this page you can:
Home |
Author details
Author สุวรรณเพิ่ม วิษณุ
Available item(s) by this author
Add the result to your basket Make a suggestion Refine your search Apply to external sourcesSIU IS-T. การสื่อสารกับสาธารณชนเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรค ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทย / ดลยา วิโรจน์วรรธนะ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : การสื่อสารกับสาธารณชนเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรค ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทย Original title : Communication with Segments of the Public about Problems and Barriers in Disseminating Social News and Information by Digital TV Stations in Thailand Material Type: printed text Authors: ดลยา วิโรจน์วรรธนะ, Author ; ปาลพล รอดลอยทุกข์, Associated Name ; วิษณุ สุวรรณเพิ่ม, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: viii, 40 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: SOLA-MAMIC-2017-02
Independent Study [MAMIC.[Arts in Media Information and Communication]]. Shinawatra University, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ข่าว -- การนำเสนอ
[LCSH]ผู้สื่อข่าว
[LCSH]สถานีโทรทัศน์ -- ไทยKeywords: ข่าวสังคม,
ผู้สื่อข่าวสายสังคม,
สถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทยAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึง 1) เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการนำเสนอข่าวสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทย 2) เพื่อเผยแพร่ปัญหาและอุปสรรคในการนำเสนอข่าวสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทยแก่สาธารณชน 3) เพื่อศึกษาทัศนคติของผู้สื่อข่าวสังคมของแต่ละสถานีที่มีต่อปัญหาและอุปสรรคในการนำเสนอข่าวสังคม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้สื่อข่าวอาวุโส และผู้สื่อข่าวสายสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอล 3 สถานี ตามประเภทช่อง ได้แก่ ประเภทรายการทั่วไป ภาพคมชัดสูง (HD), ประเภทรายการข่าวสาร และสาระ (SD) และประเภทบริการสาธารณะ ประเภท 1 สถานี จำนวน 18 คน การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม และการสัมภาษณ์เชิงลึก สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ (Frequency) และค่าร้อยละ (Percentage)
ผลการวิจัย พบว่า ปัญหาและอุปสรรคในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทย มีเวลาในการทำข่าวจำกัด จึงต้องลงพื้นที่ทำงานแข่งกับเวลา และแข่งกับสื่อออนไลน์ที่เข้าถึงสาธารณชนได้รวดเร็วกว่า ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น มือถือ ขณะที่การทำข่าวสังคมเป็นประเภทข่าวที่มีเนื้อหาใกล้ตัวประชาชนมากกว่าข่าวประเภทอื่น ในกระบวนการผลิตจึงต้องอาศัยข้อมูลหลากหลายด้าน เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาเรียบเรียง เพื่อตอบโจทย์ปัญหา และวิธีแก้ไขปัญหาของสังคม นอกจากนี้ ยังพบว่า นโยบายของสถานียังส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตข่าวก่อนออกเผยแพร่สู่สาธารณชนด้วย
Curricular : BALA/MTEIL Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27200 SIU IS-T. การสื่อสารกับสาธารณชนเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรค ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทย = Communication with Segments of the Public about Problems and Barriers in Disseminating Social News and Information by Digital TV Stations in Thailand [printed text] / ดลยา วิโรจน์วรรธนะ, Author ; ปาลพล รอดลอยทุกข์, Associated Name ; วิษณุ สุวรรณเพิ่ม, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - viii, 40 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: SOLA-MAMIC-2017-02
Independent Study [MAMIC.[Arts in Media Information and Communication]]. Shinawatra University, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ข่าว -- การนำเสนอ
[LCSH]ผู้สื่อข่าว
[LCSH]สถานีโทรทัศน์ -- ไทยKeywords: ข่าวสังคม,
ผู้สื่อข่าวสายสังคม,
สถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทยAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึง 1) เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการนำเสนอข่าวสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทย 2) เพื่อเผยแพร่ปัญหาและอุปสรรคในการนำเสนอข่าวสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทยแก่สาธารณชน 3) เพื่อศึกษาทัศนคติของผู้สื่อข่าวสังคมของแต่ละสถานีที่มีต่อปัญหาและอุปสรรคในการนำเสนอข่าวสังคม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้สื่อข่าวอาวุโส และผู้สื่อข่าวสายสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอล 3 สถานี ตามประเภทช่อง ได้แก่ ประเภทรายการทั่วไป ภาพคมชัดสูง (HD), ประเภทรายการข่าวสาร และสาระ (SD) และประเภทบริการสาธารณะ ประเภท 1 สถานี จำนวน 18 คน การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม และการสัมภาษณ์เชิงลึก สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ (Frequency) และค่าร้อยละ (Percentage)
ผลการวิจัย พบว่า ปัญหาและอุปสรรคในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสังคมของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในประเทศไทย มีเวลาในการทำข่าวจำกัด จึงต้องลงพื้นที่ทำงานแข่งกับเวลา และแข่งกับสื่อออนไลน์ที่เข้าถึงสาธารณชนได้รวดเร็วกว่า ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น มือถือ ขณะที่การทำข่าวสังคมเป็นประเภทข่าวที่มีเนื้อหาใกล้ตัวประชาชนมากกว่าข่าวประเภทอื่น ในกระบวนการผลิตจึงต้องอาศัยข้อมูลหลากหลายด้าน เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาเรียบเรียง เพื่อตอบโจทย์ปัญหา และวิธีแก้ไขปัญหาของสังคม นอกจากนี้ ยังพบว่า นโยบายของสถานียังส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตข่าวก่อนออกเผยแพร่สู่สาธารณชนด้วย
Curricular : BALA/MTEIL Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27200 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000594489 SIU IS-T: SOLA-MAMIC-2017-02 c.1 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000594430 SIU IS-T: SOLA-MAMIC-2017-02 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available SIU THE-T. ความเข้าใจเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลต่อการใช้ Social Network - Facebook ของประชากรวัยทำงานในกรุงเทพมหานคร / อังคณา สุระอารีย์ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU THE-T Title : ความเข้าใจเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลต่อการใช้ Social Network - Facebook ของประชากรวัยทำงานในกรุงเทพมหานคร Original title : Understanding the Violation of Privacy Right of Working People in Bangkok Metropolis using Social Networks: The Case of Facebook Material Type: printed text Authors: อังคณา สุระอารีย์, Author ; วิษณุ สุวรรณเพิ่ม, Associated Name ; วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: viii, 57 น. Layout: ตาราง, ภาพประกอบ Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU THE-T: SOLA-MAMIC-2017-03
Thesis. [MAMIC.[Arts in Media Information and Communication]]. Shinawatra University, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ละเมิด
[LCSH]สิทธิส่วนบุคคล
[LCSH]เฟซบุ๊คKeywords: การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล, พฤติกรรมการใช้ Facebook, วัยทำงาน Abstract: Facebook เป็นเครือข่ายสังคม online ที่นิยมสูงสุดทั่วโลกโดยมีลักษณะการใช้เป็นการ post ข้อความ upload รูปภาพหรือ VDO ต่าง ๆ ที่เป็นของตนเองและบุคคลอื่น การถ่ายทอดสด (Live) รวมถึงการ share ข้อมูล รูปภาพหรือ VDO ของผู้ใช้ Facebook รายอื่น ๆ ด้วยลักษณะการใช้งานดังกล่าว ที่อาจจะทำให้เกิดการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และส่งผลกระทบต่อผู้ละเมิดและถูกละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้ วัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาลักษณะประชากรวัยทำงานของ
ผู้ใช้ Facebook ด้านความเข้าใจสิทธิส่วนบุคคลในกรุงเทพมหานคร 2) ศึกษาพฤติกรรมของบุคคลวัยทำงานผู้ใช้ Facebook ที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลด้วยการสื่อสารผ่านทาง Facebook ในกรุงเทพมหานคร 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการใช้ Facebook ของบุคคลวัยทำงานกับการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลในกรุงเทพมหานคร 4) ศึกษาความเข้าใจเรื่องการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของบุคคลวัยทำงานต่อการใช้ Facebook ในกรุงเทพมหานคร
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ ประชาชนวัยทำงานในกรุงเทพมหานครผู้ใช้ Facebook จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งนี้ ได้แก่ แบบสอบถาม ค่าความน่าเชื่อถือได้ (Reliability Coefficients) เท่ากับ .86 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติ t-test และ ANOVA เมื่อพบค่าความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติจะเปรียบเทียบรายคู่โดยวิธี LSD ผลการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า ด้านลักษณะประชากรระดับการศึกษาที่แตกต่างกันมีผลต่อความเข้าใจเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลต่อการใช้ Facebook และด้านเนื้อหาที่ใช้ เรื่องที่ post แตกต่างกัน มีผลต่อความเข้าใจเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลต่อการใช้ Facebook โดยผู้วิจัยได้ศึกษากลุ่มตัวอย่างวัยทำงานเฉพาะในกรุงเทพมหานครเท่านั้น จึงควรเพิ่มการวิจัยในกลุ่มประชากรกลุ่มอื่น ๆ ด้วย เนื่องจากการใช้งาน Facebook มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในทุก ๆ วัยCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27604 SIU THE-T. ความเข้าใจเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลต่อการใช้ Social Network - Facebook ของประชากรวัยทำงานในกรุงเทพมหานคร = Understanding the Violation of Privacy Right of Working People in Bangkok Metropolis using Social Networks: The Case of Facebook [printed text] / อังคณา สุระอารีย์, Author ; วิษณุ สุวรรณเพิ่ม, Associated Name ; วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - viii, 57 น. : ตาราง, ภาพประกอบ ; 30 ซม.
500.00
SIU THE-T: SOLA-MAMIC-2017-03
Thesis. [MAMIC.[Arts in Media Information and Communication]]. Shinawatra University, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ละเมิด
[LCSH]สิทธิส่วนบุคคล
[LCSH]เฟซบุ๊คKeywords: การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล, พฤติกรรมการใช้ Facebook, วัยทำงาน Abstract: Facebook เป็นเครือข่ายสังคม online ที่นิยมสูงสุดทั่วโลกโดยมีลักษณะการใช้เป็นการ post ข้อความ upload รูปภาพหรือ VDO ต่าง ๆ ที่เป็นของตนเองและบุคคลอื่น การถ่ายทอดสด (Live) รวมถึงการ share ข้อมูล รูปภาพหรือ VDO ของผู้ใช้ Facebook รายอื่น ๆ ด้วยลักษณะการใช้งานดังกล่าว ที่อาจจะทำให้เกิดการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และส่งผลกระทบต่อผู้ละเมิดและถูกละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้ วัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาลักษณะประชากรวัยทำงานของ
ผู้ใช้ Facebook ด้านความเข้าใจสิทธิส่วนบุคคลในกรุงเทพมหานคร 2) ศึกษาพฤติกรรมของบุคคลวัยทำงานผู้ใช้ Facebook ที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลด้วยการสื่อสารผ่านทาง Facebook ในกรุงเทพมหานคร 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการใช้ Facebook ของบุคคลวัยทำงานกับการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลในกรุงเทพมหานคร 4) ศึกษาความเข้าใจเรื่องการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของบุคคลวัยทำงานต่อการใช้ Facebook ในกรุงเทพมหานคร
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ ประชาชนวัยทำงานในกรุงเทพมหานครผู้ใช้ Facebook จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งนี้ ได้แก่ แบบสอบถาม ค่าความน่าเชื่อถือได้ (Reliability Coefficients) เท่ากับ .86 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติ t-test และ ANOVA เมื่อพบค่าความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติจะเปรียบเทียบรายคู่โดยวิธี LSD ผลการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า ด้านลักษณะประชากรระดับการศึกษาที่แตกต่างกันมีผลต่อความเข้าใจเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลต่อการใช้ Facebook และด้านเนื้อหาที่ใช้ เรื่องที่ post แตกต่างกัน มีผลต่อความเข้าใจเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลต่อการใช้ Facebook โดยผู้วิจัยได้ศึกษากลุ่มตัวอย่างวัยทำงานเฉพาะในกรุงเทพมหานครเท่านั้น จึงควรเพิ่มการวิจัยในกลุ่มประชากรกลุ่มอื่น ๆ ด้วย เนื่องจากการใช้งาน Facebook มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในทุก ๆ วัยCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27604 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000596880 SIU THE-T: SOLA-MAMIC-2017-03 c.1 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available 32002000596872 SIU THE-T: SOLA-MAMIC-2017-03 c.2 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available SIU THE-T. แนวทางการพัฒนา Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีผลต่อความต้องการของประชาชนใน กรุงเทพมหานครและปริมณฑล / กรรณิการ ฉัตรศรีแก้ว / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU THE-T Title : แนวทางการพัฒนา Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีผลต่อความต้องการของประชาชนใน กรุงเทพมหานครและปริมณฑล Original title : A Guideline for Development of Smartphone by Mobile Network Providers Affecting the Needs of People in Bangkok Metropolis and the Outskirts of Bangkok Material Type: printed text Authors: กรรณิการ ฉัตรศรีแก้ว, Author ; วิษณุ สุวรรณเพิ่ม, Associated Name ; วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: xii, 79 น. Layout: ตาราง, ภาพประกอบ Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU THE-T: SOLA-MAMIC-2017-02
Thesis. [MAMIC.[Arts in Media Information and Communication]]. Shinawatra University, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การพัฒนา
[LCSH]สมาร์ทโฟน
[LCSH]โทรศัพท์เคลื่อนที่Keywords: แนวทางพัฒนา Smartphone, ผู้ให้บริการระบบการสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ Abstract: วัตถุประสงค์ในการวิจัยครั้งนี้เพื่อ 1) ศึกษาลักษณะประชากรของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone แต่ละผู้ให้บริการระบบการสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ AIS, TRUE MOVE และ DTAC ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งมีแนวทางพัฒนามีผลต่อความต้องการ และการใช้ประโยชน์โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ในระดับที่ต่างกัน 2) ศึกษาพฤติกรรมการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ แต่ละระบบของผู้ให้บริการ 3) ศึกษาระบบเครือข่ายการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ AIS, TRUE MOVE และ DTAC ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งมีแนวทางพัฒนามีผลต่อความต้องการ และการใช้ประโยชน์โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ในระดับที่ต่างกัน 4) ศึกษาเทคนิคการนำเสนอการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphoneของผู้ใช้ แต่ละผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์
เคลื่อนที่ AIS, TRUE MOVE และ DTAC ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 5) ศึกษาความต้องการของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ที่บ่งชี้ถึงแนวทางพัฒนาการสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีผลต่อความต้องการของประชาชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ประชาชนผู้ใช้ Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่โทรศัพท์ เคลื่อนที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 386 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งนี้ ได้แก่ แบบสอบถามผ่าน Online สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติ t test การวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนจำแนวทางเดียว (One-way Analysis of Variance--ANOVA) การเปรียบเทียบเชิงซ้อนรายคู่ (multiple-comparison) ของ LSD และการหาความสัมพันธ์โดยใช้การหาค่าสถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
ผลการวิจัยพบว่า
ลักษณะประชากรของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย มีอายุ 30-34 ปี มากที่สุด มีการศึกษาในระดับปริญญาตรี มีอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน/รับจ้าง มีรายได้ต่อเดือน มากกว่า 30,000 บาท และนับถือศาสนาพุทธ
พฤติกรรมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone คือ มีการใช้ทุกวัน ใช้แต่ละครั้งนาน 1-2 ชม. ช่วงเวลาที่ใช้มากที่สุด เวลา 20.00-22.00 น. ใช้ในที่พักอาศัย มีโทรศัพท์ 1 เครื่อง ใช้ในกิจกรรมความบันเทิง/
ดูหนัง ฟังเพลง และ เหตุผลที่ใช้ คือ ความบันเทิง
ระบบเครือข่ายการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ใช้ระบบเครือข่ายการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้มากที่สุด คือ ได้แก่ AIS ระบบสัญญาณ 4G ยี่ห้อ Apple ราคามากกว่า 25,000 บาท และอิทธิผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้โทรศัพท์ ได้แก่ ตนเอง
ความต้องการของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ที่บ่งชี้ถึงแนวทางพัฒนาการสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีผลต่อความต้องการของประชาชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่า สามารถเชื่อมต่อระบบเครือข่ายได้รวดเร็ว รองรับระบบสัญญาณที่ทันสมัยในอนาคต และความสามารถขยาย RAM ได้มาก
การเปรียบเทียบลักษณะของประชากรต่อแนวทางการพัฒนาโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ พบว่า แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.05
การเปรียบเทียบเทคนิคการนำเสนอการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ต่อแนวทางการพัฒนา Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ พบว่า แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.05
ความต้องการของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ต่อการพัฒนาการสื่อสารโทรศัพท์
เคลื่อนที่ ที่มีผลต่อความต้องการของประชาชน ไม่มีความสัมพันธ์กัน โดยมีความสัมพันธ์กันในเชิงบวกในบางข้อ ในระดับน้อย ในหัวข้อรูปแบบ/ขนาด/พกพาได้สะดวก กับสามารถเชื่อมต่อระบบนอกเครือข่ายได้ รูปแบบ/ขนาด/พกพาได้สะดวกกับออกแบบ Program สั่งงานระบบ Remote Control ได้ และรูปแบบ/ขนาด/พกพาได้สะดวกกับมีระบบชาร์ตแบบเตอรี่อัตโนมัติ
แนวทางพัฒนาโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone มีระบบรองรับสัญญาณในอนาคตได้ ( = 4.59) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ มีระบบชาร์ตแบตเตอรี่อัตโนมัติ อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.56) และพัฒนาน้อยที่สุด ได้แก่ ตัวเครื่องกันน้ำระดับลึกได้ดี กับออกแบบ Program สั่งงานระบบ Remote มีระดับมาก ( = 4.33) เท่ากันCurricular : BALA/MTEIL Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27652 SIU THE-T. แนวทางการพัฒนา Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีผลต่อความต้องการของประชาชนใน กรุงเทพมหานครและปริมณฑล = A Guideline for Development of Smartphone by Mobile Network Providers Affecting the Needs of People in Bangkok Metropolis and the Outskirts of Bangkok [printed text] / กรรณิการ ฉัตรศรีแก้ว, Author ; วิษณุ สุวรรณเพิ่ม, Associated Name ; วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - xii, 79 น. : ตาราง, ภาพประกอบ ; 30 ซม.
500.00
SIU THE-T: SOLA-MAMIC-2017-02
Thesis. [MAMIC.[Arts in Media Information and Communication]]. Shinawatra University, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การพัฒนา
[LCSH]สมาร์ทโฟน
[LCSH]โทรศัพท์เคลื่อนที่Keywords: แนวทางพัฒนา Smartphone, ผู้ให้บริการระบบการสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ Abstract: วัตถุประสงค์ในการวิจัยครั้งนี้เพื่อ 1) ศึกษาลักษณะประชากรของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone แต่ละผู้ให้บริการระบบการสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ AIS, TRUE MOVE และ DTAC ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งมีแนวทางพัฒนามีผลต่อความต้องการ และการใช้ประโยชน์โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ในระดับที่ต่างกัน 2) ศึกษาพฤติกรรมการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ แต่ละระบบของผู้ให้บริการ 3) ศึกษาระบบเครือข่ายการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ AIS, TRUE MOVE และ DTAC ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งมีแนวทางพัฒนามีผลต่อความต้องการ และการใช้ประโยชน์โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ในระดับที่ต่างกัน 4) ศึกษาเทคนิคการนำเสนอการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphoneของผู้ใช้ แต่ละผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์
เคลื่อนที่ AIS, TRUE MOVE และ DTAC ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 5) ศึกษาความต้องการของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ที่บ่งชี้ถึงแนวทางพัฒนาการสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีผลต่อความต้องการของประชาชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ประชาชนผู้ใช้ Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่โทรศัพท์ เคลื่อนที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 386 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งนี้ ได้แก่ แบบสอบถามผ่าน Online สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติ t test การวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนจำแนวทางเดียว (One-way Analysis of Variance--ANOVA) การเปรียบเทียบเชิงซ้อนรายคู่ (multiple-comparison) ของ LSD และการหาความสัมพันธ์โดยใช้การหาค่าสถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
ผลการวิจัยพบว่า
ลักษณะประชากรของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย มีอายุ 30-34 ปี มากที่สุด มีการศึกษาในระดับปริญญาตรี มีอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน/รับจ้าง มีรายได้ต่อเดือน มากกว่า 30,000 บาท และนับถือศาสนาพุทธ
พฤติกรรมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone คือ มีการใช้ทุกวัน ใช้แต่ละครั้งนาน 1-2 ชม. ช่วงเวลาที่ใช้มากที่สุด เวลา 20.00-22.00 น. ใช้ในที่พักอาศัย มีโทรศัพท์ 1 เครื่อง ใช้ในกิจกรรมความบันเทิง/
ดูหนัง ฟังเพลง และ เหตุผลที่ใช้ คือ ความบันเทิง
ระบบเครือข่ายการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ใช้ระบบเครือข่ายการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้มากที่สุด คือ ได้แก่ AIS ระบบสัญญาณ 4G ยี่ห้อ Apple ราคามากกว่า 25,000 บาท และอิทธิผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้โทรศัพท์ ได้แก่ ตนเอง
ความต้องการของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ที่บ่งชี้ถึงแนวทางพัฒนาการสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีผลต่อความต้องการของประชาชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่า สามารถเชื่อมต่อระบบเครือข่ายได้รวดเร็ว รองรับระบบสัญญาณที่ทันสมัยในอนาคต และความสามารถขยาย RAM ได้มาก
การเปรียบเทียบลักษณะของประชากรต่อแนวทางการพัฒนาโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ พบว่า แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.05
การเปรียบเทียบเทคนิคการนำเสนอการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ต่อแนวทางการพัฒนา Smartphone ของผู้ให้บริการระบบการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ พบว่า แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.05
ความต้องการของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone ต่อการพัฒนาการสื่อสารโทรศัพท์
เคลื่อนที่ ที่มีผลต่อความต้องการของประชาชน ไม่มีความสัมพันธ์กัน โดยมีความสัมพันธ์กันในเชิงบวกในบางข้อ ในระดับน้อย ในหัวข้อรูปแบบ/ขนาด/พกพาได้สะดวก กับสามารถเชื่อมต่อระบบนอกเครือข่ายได้ รูปแบบ/ขนาด/พกพาได้สะดวกกับออกแบบ Program สั่งงานระบบ Remote Control ได้ และรูปแบบ/ขนาด/พกพาได้สะดวกกับมีระบบชาร์ตแบบเตอรี่อัตโนมัติ
แนวทางพัฒนาโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smartphone มีระบบรองรับสัญญาณในอนาคตได้ ( = 4.59) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ มีระบบชาร์ตแบตเตอรี่อัตโนมัติ อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.56) และพัฒนาน้อยที่สุด ได้แก่ ตัวเครื่องกันน้ำระดับลึกได้ดี กับออกแบบ Program สั่งงานระบบ Remote มีระดับมาก ( = 4.33) เท่ากันCurricular : BALA/MTEIL Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27652 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000597110 SIU THE-T: SOLA-MAMIC-2017-02 c.1 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available 32002000597144 SIU THE-T: SOLA-MAMIC-2017-02 c.2 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available